“ปิยะสกล” เชื่อปมเลือกเลขาฯ สปสช.มีคนปั่นเป็นประเด็นการเมือง บิดเบือนล้มบัตรทอง

“หมอปิยะสกล” เชื่อปมเลือกเลขาฯ สปสช. มีคนปั่นเป็นประเด็นการเมือง บิดเบือนกล่าวหาจ้องล้มบัตรทอง ยัน สธ.- สปสช. ทำงานเดินหน้าเหมือนเดิม ประชาชนไม่ได้รับผลกระทบ เมินคนบิดเบือนทางโซเชียล แต่ขู่หากทำระบบเสียหายเอาเรื่องแน่

จากกรณีคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีมติไม่รับรอง นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ อดีตรองเลขาธิการ สปสช. เป็นเลขาธิการ สปสช. โดย นพ.ประทีป เตรียมที่จะฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอเพิกถอนมติดังกล่าว เนื่องจากมองว่าไม่เป็นธรรม คะแนนเลือกตั้งมีปัญหา กระบวนการสรรหาก็มิชอบ ขัดต่อมาตรา 31 พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 และจะมีการฟ้องศาลอาญาด้วย

วันนี้ (13 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า หลังจากรับตำแหน่งก็พยายามทำงานอย่างเต็มที่ อะไรที่ยังมีความเห็นต่างก็พยายามค่อย ๆ ปรับ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง สธ. หรือ สปสช. ก็ตาม รวมถึงพยายามบูรณาการให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น โดยมีพันธกิจหลัก คือ องค์กรหลักด้านสุขภาพที่รวมพลังสังคม เพื่อประชาชนสุขภาพดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ความไม่ลงตัวกันในการสรรหาเลขาธิการ สปสช. แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน ไม่ต้องกังวล เพราะรักษาการเลขาธิการ สปสช. ก็ยังมี สธ. ก็ยังอยู่ งานเดินหน้าไม่มีสะดุด ไม่มีการล้มบัตรทอง ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม ตามที่มีบางกลุ่มบิดเบือน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งสถานการณ์ความขัดแย้งดูเบาลง แต่จากเหตุการณ์เลือกเลขาธิการ สปสช. จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้นหรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า จริง ๆ สปสช. กับ สธ. ก็ยังทำงานเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่กระทบกับประชาชน มีเพียงประเด็นเลือกเลขาธิการ สปสช. เท่านั้น ตรงนี้ต้องใช้ความอดทน การดูข้อมูลให้ถูกต้อง หันหน้าเข้าหากัน อย่าเพ่งโทษกันการสรรหาครั้งนี้ ถ้าเรียนจากใจจริงตนไม่ได้สร้างสถานการณ์ ทำตามกฎระเบียบข้อบังคับทุกอย่าง แต่ผลที่ออกมาแน่นอนว่าเป็นที่ถูกใจและไม่ถูกใจ คนบางกลุ่มก็เสนอความคิดเห็นได้ ไม่ว่าอะไร ข้องใจในส่วนไหน ก็เสนอความคิดเห็นได้ อย่าถือว่าเป็นศัตรูกัน เชื่อว่า แนวความคิดของทุกคนก็มุ่งหวังให้เกิดผลดีกับประเทศทั้งนั้น และถ้าพูดกันเป็นที่เข้าใจก็เดินหน้าต่อไปได้ ทั้งที่งานก็ไม่ได้เสียอะไร 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ ที่ นพ.ประทีป เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองแล้วสถานการณ์จะยิ่งแย่และกลายเป็นประเด็นการเมือง นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า มีคนมุ่งเน้นเปลี่ยนให้เป็นประเด็นทางการเมือง จริง ๆ ไม่มีอะไร แต่ก็มีคนเอาไปขยาย ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ไม่เกิดประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ไม่นานก็จะสามารถแก้ไขปัญหาและกลับมาสู่ความปกติได้ อย่าบอกว่าเป็นพวกคนนั้น พวกคนนี้เลย เราพวกเดียวกัน ทำงานด้วยกัน เราทำงานเพื่อประชาชนด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่มีความขัดข้องในแง่ตัวบุคคล  

นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า คนธรรมดาดูก็รู้ว่าระบบกับคนแยกออกจากกัน บอร์ด สปสช. ประกอบด้วย ผู้แทนทุกภาคส่วน ทั้งวิชาชีพ ฝั่งกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ผู้ทรงคุณวุฒิ และเอ็นจีโอ ทุกคนมีสิทธิลงคะแนน ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็น ทำไมเมื่อผลการลงคะแนนตามระเบียบปฏิบัติ และตนก็ไม่เคยขอคะแนนเสียงใคร เขามีวิจารณญาณออกมา แต่พอไม่ตรงกับความเห็นของคนส่วนหนึ่ง ก็มาหาว่าจะล้มระบบ ถามว่า ระบบนี้เกิดมาเพื่อใคร เกิดมาเพื่อคนกลุ่มเดียว หรือเกิดมาเพื่อคนทั้งประเทศ ตนมองว่า การตัดสินใจของกรรมการแต่ละท่าน เราควรให้เกียรติไม่ใช่หรือ และที่มาบอกว่ากรรมการในบอร์ดไม่มีสิทธิลงคะแนนรับรองซ้ำ ในที่ประชุมได้มีการสอบถามนักกฎหมายของ สปสช. และตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกา บอกว่า ให้เป็นไปตามบอร์ดทุกคำทุกมติมีอยู่ในเทปของการประชุม ไปพิจารณาได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มเห็นต่างจะขอให้ รมว.สธ. ลาออก แสดงความรับผิดชอบ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ตนจะลาออกเพื่ออะไร ในเมื่อทำตามกฎระเบียบทุกอย่าง และหากลาออกระบบสาธารณสุขจะดีขึ้นเลยหรือ พูดสรุปง่าย ๆ ไม่มีใครจะไปทำอะไรให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ประชาชน และผู้ป่วยที่ได้รับสิทธิสุขภาพอะไรอยู่ก็จะยังคงได้ และจะได้มากขึ้นด้วย ดังนั้น กลุ่มที่จะไปแสดงออกอะไร ไปเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ก็สามารถทำได้ หากต้องการเรียกร้อง นพ.ประทีป ก็ทำได้ แต่เรียกร้องให้ตัวเอง เพราะหวั่นผลกระทบด้านสิทธิสุขภาพ อันนี้รับรองว่าไม่คิดจะล้ม หรือจะทำอะไรให้กระทบประชาชนเลย ดังนั้น ใครอยากทำอะไรก็ทำ จะไม่ตอบโต้อีก ใครไปแสดงความคิดเห็นบิดเบือนในโซเชียลก็แสดงไป เพราะหากเราไม่ใช่แบบที่เขากล่าวหา ทั้งหมดก็กลับคืนตัวเอง ที่แน่ ๆ หากใครทำให้ระบบเสียหาย ตนจะเอาเรื่องแน่นอน

   
เมื่อถามว่า จะดำเนินคดีกับผู้บิดเบือนข้อมูลหรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า อยากให้งานเดินหน้า แต่ขอบอกเพียงว่า อย่าทำให้ระบบเสียหาย และประชาชนเดือดร้อนเป็นพอ เพราะตนจะไม่ยอม ส่วนจะทำอย่างไรก็ต้องดูว่าฝ่ายที่ทำระบบเสียหายจะทำแบบใดอีก

นายธนพล ดอกแก้ว ประธานชมรมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันที่ 14 ก.ค. นี้ เครือข่ายฯ จะไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับนพ.ประทีป กรณีที่บอร์ด สปสช. ไม่รับรองให้เป็นเลขาธิการ สปสช. โดยจะไปยื่นในเรื่องบัตรเสีย แต่บอร์ด สปสช. รับรองให้เป็นบัตรดี  เพื่อต้องการปกป้องระบบหลักประกันสุขภาพฯ ทั้งนี้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นเลขาฯ สปสช. ระบบก็ต้องอยู่ โดยการออกยื่นครั้งนี้ เนื่องจากทางเครือข่ายตั้งข้อสังเกต และกังวลว่า จะมีการแก้ พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ซึ่งอาจส่งผลให้ในอนาคตผู้ป่วยอาจต้องมีการร่วมจ่าย และอาจทำให้ผู้ป่วยเข้าไม่ถึงบริการ

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่