เมื่อวานนี้ (4 ก.ค.2559) ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) มีวาระการคัดเลือกตำแหน่งเลขาธิการ สปสช.คนใหม่แทน นายแพทย์วินัย สวัสดิวร ที่หมดวาระลง โดยมีแคนดิเดตที่ได้รับการเสนอเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุม เหลือเพียง 1 คน คือ นายแพทย์ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช.
เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า นายแพทย์วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้สมัครชิงตำแหน่งอีกคน มีคุณสมบัติต้องห้ามสมัครคัดเลือกเป็นเลขาธิการ สปสช.
นายแพทย์ประทีปได้แสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุมบอร์ด สปสช.ว่า ยุทธศาสตร์การทำงานของ สปสช.ในอนาคตจะต้องเป็นไปในลักษณะ "โกลแอนด์โกรว์ธ" (Goal&Growth) โดยมียุทธศาสตร์ว่า ประชาชนจะต้องเข้าถึงบริการของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) มากขึ้น ภายใน 3-5 ปี และต้องทำให้ สปสช.เป็นหน่วยงานรัฐแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มสัดส่วนคนทำงานให้มากขึ้น
หลังแสดงวิสัยทัศน์เสร็จ จึงเข้าสู่ช่วงการลงคะแนนเสียงลับ ซึ่งในที่ประชุมมีทั้งหมด 28 คน จาก 30 คน มีมติไม่รับรอง นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ อดีตรองเลขาธิการ สปสช. เป็นเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ ด้วยคะแนนเสียง 14 ต่อ 13 เสียงและงดออกเสียง 1 เสียง
ทั้งนี้ นพ.ประทีป เป็นผู้ผ่านการสรรหาให้เข้ารับการคัดเลือกเพียงคนเดียว หลังคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความว่า นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข มีคุณสมบัติต้องห้ามสมัครคัดเลือกเป็นเลขาธิการ สปสช.
จากนี้คณะกรรมการ สปสช.ต้องตั้งคณะกรรมการสรรหาขึ้นใหม่ภายในวันที่ 8 ก.ค.2559 เพื่อเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ทั้งหมด ซึ่งนายแพทย์ประทีป จะไม่มีสิทธิ์กลับเข้ามารับการสรรหาใหม่ได้ตามกฎหมาย
คณะกรรมการ สปสช.มีทั้งหมด 30 คน แต่ นพ.ปิยะสกล ขอไม่ลงคะแนน ขณะที่ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย ติดภารกิจต้องกลับก่อนที่จะมีการลงมติ ดังนั้นจึงเหลือผู้ลงคะแนนเสียงเพียง 28 คน
ก่อนหน้านี้ พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ตัวแทนกลุ่มพิทักษ์สิทธิพลเมือง กล่าวหา นพ.ประทีปว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาการบริหารระบบจัดส่งน้ำยาล้างไต โดยอ้างว่าได้รับผลประโยชน์จากส่วนแบ่งการจัดซื้อ ซึ่ง นพ.ประทีปได้แถลงข่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และได้ฟ้องร้องผู้กล่าวหาในข้อหาหมิ่นประมาท
เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า นายแพทย์วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้สมัครชิงตำแหน่งอีกคน มีคุณสมบัติต้องห้ามสมัครคัดเลือกเป็นเลขาธิการ สปสช.
นายแพทย์ประทีปได้แสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุมบอร์ด สปสช.ว่า ยุทธศาสตร์การทำงานของ สปสช.ในอนาคตจะต้องเป็นไปในลักษณะ "โกลแอนด์โกรว์ธ" (Goal&Growth) โดยมียุทธศาสตร์ว่า ประชาชนจะต้องเข้าถึงบริการของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) มากขึ้น ภายใน 3-5 ปี และต้องทำให้ สปสช.เป็นหน่วยงานรัฐแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มสัดส่วนคนทำงานให้มากขึ้น
หลังแสดงวิสัยทัศน์เสร็จ จึงเข้าสู่ช่วงการลงคะแนนเสียงลับ ซึ่งในที่ประชุมมีทั้งหมด 28 คน จาก 30 คน มีมติไม่รับรอง นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ อดีตรองเลขาธิการ สปสช. เป็นเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ ด้วยคะแนนเสียง 14 ต่อ 13 เสียงและงดออกเสียง 1 เสียง
ทั้งนี้ นพ.ประทีป เป็นผู้ผ่านการสรรหาให้เข้ารับการคัดเลือกเพียงคนเดียว หลังคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความว่า นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข มีคุณสมบัติต้องห้ามสมัครคัดเลือกเป็นเลขาธิการ สปสช.
จากนี้คณะกรรมการ สปสช.ต้องตั้งคณะกรรมการสรรหาขึ้นใหม่ภายในวันที่ 8 ก.ค.2559 เพื่อเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ทั้งหมด ซึ่งนายแพทย์ประทีป จะไม่มีสิทธิ์กลับเข้ามารับการสรรหาใหม่ได้ตามกฎหมาย
คณะกรรมการ สปสช.มีทั้งหมด 30 คน แต่ นพ.ปิยะสกล ขอไม่ลงคะแนน ขณะที่ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย ติดภารกิจต้องกลับก่อนที่จะมีการลงมติ ดังนั้นจึงเหลือผู้ลงคะแนนเสียงเพียง 28 คน
ก่อนหน้านี้ พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ตัวแทนกลุ่มพิทักษ์สิทธิพลเมือง กล่าวหา นพ.ประทีปว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาการบริหารระบบจัดส่งน้ำยาล้างไต โดยอ้างว่าได้รับผลประโยชน์จากส่วนแบ่งการจัดซื้อ ซึ่ง นพ.ประทีปได้แถลงข่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และได้ฟ้องร้องผู้กล่าวหาในข้อหาหมิ่นประมาท
