มูลนิธิผู้บริโภคตรวจเจอสารกันบูดใน หมูแผ่นกรอบ หมูหวาน หมูเค็ม เนื้อเค็ม บางยี่ห้อสูงถึง 2 พัน มก./กก. สินค้าระดับโรงงานก็เจอ แถมไม่พบฉลากระบุผสมสารกันบูด พ่วงวันหมดอายุ เรียกร้อง อย. ดำเนินการ
วันนี้ (12 ก.ค.) น.ส.มลฤดี โพธิ์อินทร์ นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) กล่าวว่า ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มพบ. ได้ทำการเก็บตัวอย่าง หมูแผ่นกรอบ หมูหวาน หมูเค็ม เนื้อเค็ม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตจำหน่ายในระดับโรงงาน ที่เก็บมาจากห้างสรรพสินค้า ตลาดเยาวราช ตลาด อ.ต.ก. จำนวน 14 ตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบหาการผสมสารโซเดียมไนเตรท และโซเดียมไนไตรท์ หรือ สารกันบูด พบว่า ทุกตัวอย่างมีการผสมสารโซเดียมไนเตรท โดยต่ำสุดอยู่ที่ 15.94 มิลลิกรัม (มก.) ต่อกิโลกรัม (กก.) สูงสุดมี 3 ตัวอย่างอยู่ที่ 169.93 มก. ต่อ กก. 216.05 มก. ต่อ กก. และ 2,033.16 มก. ต่อ กก. โดยเป็นเนื้อหมูสวรรค์ที่เก็บจากตลาด อ.ต.ก. ถือว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ส่วนสารไนไตรท์พบ 7 ตัวอย่าง ต่ำสุดน้อยกว่า 10 มก. ต่อ กก. สูงสุดอยู่ที่ 55.68 มก. ต่อ กก. ที่สำคัญ หลายยี่ห้อไม่ระบุว่าผสมสารดังกล่าวและไม่ระบุวันหมดอายุด้วย ถือเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และผิดตาม พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ. 2522
“ประชาชนอาจเห็นว่าการรับประทานอาหารเหล่านี้ อาจจะไม่เห็นโทษที่ชัดเจน เพราะรับประทานปริมาณน้อย แต่อยากให้ผู้ประกอบการ และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ใส่ใจเรื่องนี้ เพราะจากการศึกษาพบว่าถ้ารับประทานมาก ๆ เสี่ยงเกิดโรคมะเร็งตับ เป็นอันตรายกับไต ระบบทางเดินอาหาร ลำไส้อ่อน ถ้าคนแพ้จะมีอาหารเฉียบพลันต่อระบบทางเดินหายใจ หัวใจเต้นเร็ว ทำให้เสียชีวิตได้” น.ส.มลฤดี กล่าว
ด้าน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการ มพบ. กล่าวว่า บางตัวอย่างเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตจำหน่ายในระดับโรงงาน พบว่า มีการผสมสารไนเตรท และ สารไนไตรท์ 100% ซึ่งตามกฎหมายของ อย. ระบุว่าผู้ประกอบการจะผสมสารเหล่านี้ต้องขออนุญาตเป็นราย ๆ ไป เนื่องจากอาหารกลุ่มนี้มีลักษณะการปิ้ง ย่าง ทอด และใช้เกลือเป็นส่วนประกอบ ซึ่งช่วยยืดอายุอาหารอยู่แล้ว แต่ตอนนี้บางรายจดแจ้ง บางรายไม่ได้จดแจ้ง และพบว่าไม่มีการระบุบนฉลากอาหารเลยว่ามีการใช้สารเหล่านี้ จึงอยากขอเรียกร้อง อย. 3 ประเด็น คือ 1. เร่งดำเนินการกับผู้ประกอบการอาหารที่ มพบ. มีการตรวจสอบพบผสมสารไนเตรท ไนไตรท์ 2. ขอให้มีการปรับปรุงมาตรฐานอาหารให้มีความสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และปรับฐานข้อมูลการจดแจ้งสารบบของ อย. ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันครอบคลุมทั้งประเทศ จากเดิมที่สามารถตรวจสอบได้เพียงแค่ที่ กทม. และปริมณฑล
และ 3. ขอให้เร่งบังคับใช้ฉลากตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 367 พ.ศ. 2557 หลักเกณฑ์เงื่อนไขวิธีการใช้วัตถุเจือปนในอาหาร นอกจากนี้ ตนเห็นว่า ประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตอาการ ดังนั้นเพื่อยกระดับอาหารไทยให้ปลอดภัย และได้รับการยอมรับควรมีหน่วยงานที่เข้ามาช่วยดูแลเรื่องรสชาติอาหารที่อร่อยได้โดยไม่ต้องใส่สารกันบูด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่