กรมแพทย์แผนไทยฯ เตรียมจัดงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 13” หนุนสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เผยหน่วยงานร่วมจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้น รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ชูตำรับยาสำหรับผู้สูงอายุ “ลูกแปลกแม่” ช่วยกระตุ้นเลือดลมให้เป็นสาวสองพันปี “ตำรับยาเฝ้าบ้าน” บำรุงร่างกาย กินได้ทุกวัน
วันนี้ (23 มิ.ย.) นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวความพร้อมในการจัดงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 13” ว่า การจัดงานในปีนี้จะจัดในหัวข้อ “สมุนไพรไทย เศรษฐกิจไทย อนาคตไทย” ระหว่างวันที่ 31 ส.ค. - 4 ก.ย. 2559 ที่อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งปีนี้จะมีหน่วยงานมาร่วมจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้น รวมเป็น 35 เครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งภายในงานจะมีการจัดโซน Thai Herbs Metropolis มหานครแห่งสมุนไพร เพื่อจัดตลาดเชิงธุรกิจระหว่างผู้ซื้อภายในประเทศ ผู้ซื้อจากกลุ่มประเทศอาเซียน และกลุ่มผู้ประกอบการในประเทศด้วย เพื่อรองรับตลาดการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่า เติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะการส่งออกสมุนไพรไทยอยู่ในหลักแสนล้านบาท อาหารเสริมจากสมุนไพรไทยมูลค่าการใช้และส่งออกรวมกว่า 80,000 ล้านบาท กลุ่มสปาและผลิตภัณฑ์ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ยาแผนโบราณมูลค่าอีก 10,000 ล้านบาท และเครื่องสำอางปีละ 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการแจกต้น “รงทอง” ด้วย ซึ่งเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งในสูตรยาสมุนไพรโบราณ “เบญจอำมฤตย์” ซึ่งเป็นยาต้านมะเร็งตับ
น.ส.ณัชชา เต็งเติมวงศ์ แพทย์แผนไทยประยุกต์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ตำรับยาสมุนไพรที่นำมาแสดงจะเน้นสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ คือ 1. ตำรับยาลูกแปลกแม่ ถือเป็นยาอายุวัฒนะ เนื่องจากช่วยบำรุงเลือดลมสตรี กระตุ้นการไหหลเวียนของเลือดลมช่วยให้เป็นสาวสองพันปี ส่วนประกอบคือ กล้วยน้ำว้า 1 หวี พริกไทย 1 กำมือ และมะตูมนิ่ม 1 ผล โดยนำส่วนประกอบทั้งหมดมาแยกบดให้ละเอียด จากนั้นนำมาใส่ในกระทะ ใช้ไฟอ่อน กวนให้เข้ากันซึ่งเมือ่ได้ที่แล้วจะไม่ติดกระทะ จากนั้นยกลงแล้วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นนำไปปั้นเป็นลูกเท่าปลายนิ้วก้อย แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง แล้วเก็บใส่ภาชนะมีฝาปิด โดยรับประทานวันละ 2 - 3 เม็ดก่อนนอน อย่างไรก็ตาม ยาดังกล่าวถือมีส่วนผสมของพริกไทย ซึ่งถือเป็นรสร้อน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดลม อาจส่งผลตจ่อผู้ที่มีปัญหาโรคหัวใจได้
2. ตำรับยาเฝ้าบ้าน ถือเป็นยาอายุวัฒนะเช่นกัน ช่วยบำรุงร่างกาย ป้องกันโรคภัย ถือเป็นตำรับยาที่ต้องมีไว้ในบ้านห้ามขาด เพราะต้องกินประจำทุกวัน สามารถกินได้ไม่ว่าจะสุขภาพดีหรือป่วย เนื่องจากเป็นยาที่มีครบทุกธาตุ จึงช่วยบำรุงธาตุของร่างกายให้เป็นปกติ เช่น ธาตุไฟหย่อน ทำให้เกิดอาการหนาว เลือดลมไม่ดี ก็จะช่วยกระตุ้นให้ดีขึ้น เป็นต้น ส่วนประกอบ คือ หึ่งอากาศ (น้ำผึ้ง) ถือเป็นยาอายุวัฒนะ พาดยอดไม้ (บอระเพ็ด) เป็นยาบบำรุงธาตุ แก้อักเสบ ลดไข้ แก้ปวด ป้องกันอัลไซเมอร์ ไหง้ธรณี (แห้วหมู) ช่วยชูกำลัง บำรุงสมอง หนีสงสาร (ขมิ้น) ป้องกันความเสื่อมของทุกระบบ ป้องกันมะเร็ง ทำให้ท้องไส้ทำงานเป็นปกติ และ ไปนิพพานไม่กลับ (ผักเสี้ยนผี) ช่วยบำรุงเลือด ทำให้ร่างกายอบอุ่น โดยนำส่วนประกอบทั้งหมดมาบดให้เป็นผง แล้วปั้นเป็นลูกโดยใช้น้ำผึ้ง รับประทานวันละ 2 - 3 ลูก ตอนเช้า หรือก่อนนอน
“นอกจากนี้ ยังมีสูตรน้ำสมุนไพรสำหรับผู้สูงอายุด้วย คือ ขิง กระเจี๊ยบ แมงลัก ช่วยดับกระหาย คลายร้อน แก้อ่อนเพลีย โดยใช้ขิง 500 กรัม กระเจี๊ยบ 250 กรัม เม็ดแมงลัก 1 - 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 1 - 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ นำขิงสดล้างสะอาด ทุบให้แตกใส่น้ำ 1 ลิตร ต้มด้วยไฟกลาง 30 - 60 นาที จนมีกลิ่นหอม จากนั้นนำกระเจี๊ยบสดหรือแห้งใส่ลงไปต้มจนกระเจี๊ยบเปื่อย น้ำต้มมีสีแดงขึ้น ต้มต่ออีก 30 - 40 นาที หรือจนกระเจี๊ยบเปื่อยมีสีซีดลง จากนั้นกรองเอาแต่น้ำ จากนั้นตักเม็ดแมงลักที่แช่จนพองตัว เติมน้ำผึ้งใส่แก้ว ตักน้ำสมุนไพรพร้อมดื่มอุ่น ๆ ซึ่งขิงจะช่วยขยายหลอดเลือด ลดความดัน และไขมันในเลือด กระเจี๊ยบ ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต บำรุงไต และแมงลักช่วยลดไขมัน ช่วยในการขับถ่าย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (23 มิ.ย.) นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวความพร้อมในการจัดงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 13” ว่า การจัดงานในปีนี้จะจัดในหัวข้อ “สมุนไพรไทย เศรษฐกิจไทย อนาคตไทย” ระหว่างวันที่ 31 ส.ค. - 4 ก.ย. 2559 ที่อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งปีนี้จะมีหน่วยงานมาร่วมจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้น รวมเป็น 35 เครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งภายในงานจะมีการจัดโซน Thai Herbs Metropolis มหานครแห่งสมุนไพร เพื่อจัดตลาดเชิงธุรกิจระหว่างผู้ซื้อภายในประเทศ ผู้ซื้อจากกลุ่มประเทศอาเซียน และกลุ่มผู้ประกอบการในประเทศด้วย เพื่อรองรับตลาดการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่า เติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะการส่งออกสมุนไพรไทยอยู่ในหลักแสนล้านบาท อาหารเสริมจากสมุนไพรไทยมูลค่าการใช้และส่งออกรวมกว่า 80,000 ล้านบาท กลุ่มสปาและผลิตภัณฑ์ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ยาแผนโบราณมูลค่าอีก 10,000 ล้านบาท และเครื่องสำอางปีละ 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการแจกต้น “รงทอง” ด้วย ซึ่งเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งในสูตรยาสมุนไพรโบราณ “เบญจอำมฤตย์” ซึ่งเป็นยาต้านมะเร็งตับ
น.ส.ณัชชา เต็งเติมวงศ์ แพทย์แผนไทยประยุกต์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ตำรับยาสมุนไพรที่นำมาแสดงจะเน้นสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ คือ 1. ตำรับยาลูกแปลกแม่ ถือเป็นยาอายุวัฒนะ เนื่องจากช่วยบำรุงเลือดลมสตรี กระตุ้นการไหหลเวียนของเลือดลมช่วยให้เป็นสาวสองพันปี ส่วนประกอบคือ กล้วยน้ำว้า 1 หวี พริกไทย 1 กำมือ และมะตูมนิ่ม 1 ผล โดยนำส่วนประกอบทั้งหมดมาแยกบดให้ละเอียด จากนั้นนำมาใส่ในกระทะ ใช้ไฟอ่อน กวนให้เข้ากันซึ่งเมือ่ได้ที่แล้วจะไม่ติดกระทะ จากนั้นยกลงแล้วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นนำไปปั้นเป็นลูกเท่าปลายนิ้วก้อย แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง แล้วเก็บใส่ภาชนะมีฝาปิด โดยรับประทานวันละ 2 - 3 เม็ดก่อนนอน อย่างไรก็ตาม ยาดังกล่าวถือมีส่วนผสมของพริกไทย ซึ่งถือเป็นรสร้อน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดลม อาจส่งผลตจ่อผู้ที่มีปัญหาโรคหัวใจได้
2. ตำรับยาเฝ้าบ้าน ถือเป็นยาอายุวัฒนะเช่นกัน ช่วยบำรุงร่างกาย ป้องกันโรคภัย ถือเป็นตำรับยาที่ต้องมีไว้ในบ้านห้ามขาด เพราะต้องกินประจำทุกวัน สามารถกินได้ไม่ว่าจะสุขภาพดีหรือป่วย เนื่องจากเป็นยาที่มีครบทุกธาตุ จึงช่วยบำรุงธาตุของร่างกายให้เป็นปกติ เช่น ธาตุไฟหย่อน ทำให้เกิดอาการหนาว เลือดลมไม่ดี ก็จะช่วยกระตุ้นให้ดีขึ้น เป็นต้น ส่วนประกอบ คือ หึ่งอากาศ (น้ำผึ้ง) ถือเป็นยาอายุวัฒนะ พาดยอดไม้ (บอระเพ็ด) เป็นยาบบำรุงธาตุ แก้อักเสบ ลดไข้ แก้ปวด ป้องกันอัลไซเมอร์ ไหง้ธรณี (แห้วหมู) ช่วยชูกำลัง บำรุงสมอง หนีสงสาร (ขมิ้น) ป้องกันความเสื่อมของทุกระบบ ป้องกันมะเร็ง ทำให้ท้องไส้ทำงานเป็นปกติ และ ไปนิพพานไม่กลับ (ผักเสี้ยนผี) ช่วยบำรุงเลือด ทำให้ร่างกายอบอุ่น โดยนำส่วนประกอบทั้งหมดมาบดให้เป็นผง แล้วปั้นเป็นลูกโดยใช้น้ำผึ้ง รับประทานวันละ 2 - 3 ลูก ตอนเช้า หรือก่อนนอน
“นอกจากนี้ ยังมีสูตรน้ำสมุนไพรสำหรับผู้สูงอายุด้วย คือ ขิง กระเจี๊ยบ แมงลัก ช่วยดับกระหาย คลายร้อน แก้อ่อนเพลีย โดยใช้ขิง 500 กรัม กระเจี๊ยบ 250 กรัม เม็ดแมงลัก 1 - 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 1 - 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ นำขิงสดล้างสะอาด ทุบให้แตกใส่น้ำ 1 ลิตร ต้มด้วยไฟกลาง 30 - 60 นาที จนมีกลิ่นหอม จากนั้นนำกระเจี๊ยบสดหรือแห้งใส่ลงไปต้มจนกระเจี๊ยบเปื่อย น้ำต้มมีสีแดงขึ้น ต้มต่ออีก 30 - 40 นาที หรือจนกระเจี๊ยบเปื่อยมีสีซีดลง จากนั้นกรองเอาแต่น้ำ จากนั้นตักเม็ดแมงลักที่แช่จนพองตัว เติมน้ำผึ้งใส่แก้ว ตักน้ำสมุนไพรพร้อมดื่มอุ่น ๆ ซึ่งขิงจะช่วยขยายหลอดเลือด ลดความดัน และไขมันในเลือด กระเจี๊ยบ ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต บำรุงไต และแมงลักช่วยลดไขมัน ช่วยในการขับถ่าย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่