สธ. เตรียมคิกออฟ 5 ก.ค. เปิดรณรงค์คัดกรองพัฒนาเด็กปฐมวัย 4 ช่วงวัยทั่วประเทศ รวม 4 หมื่นคน หลังพบเด็กไทยพัฒนาการล่าช้า 30% ทำอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เตรียมเปิดตัวแอปฯ “คุณลูก” ช่วยพ่อแม่รู้พัฒนาการลูก บันทึกการรับวัคซีน ใช้แทนสมุดสุขภาพแม่และเด็กได้
วันนี้ (22 มิ.ย.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าว “สัปดาห์รณรงค์คัดกรองพัฒนาการเด็กปฐมวัย" ว่า ขณะนี้เด็กไทยมีปัญหาอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ถึง 10 - 15% สาเหตุหนึ่งอาจมาจากพัฒนาการล่าช้าของเด็กปฐมวัย ซึ่งจากการสำรวจของกรมอนามัยเมื่อปี 2557 พบเด็กแรกเกิด - 2 ปี พัฒนาการไม่สมวัยร้อยละ 22 เด็กอายุ 3 - 5 ปี พัฒนาการไม่สมวัยร้อยละ 34 จึงจำเป็นต้องเร่งค้นหาเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้าให้ได้รับการส่งเสริมกระตุ้นพัฒนาการ ซึ่งในปี 2559 สธ. ได้ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และ กทม. จัดสัปดาห์รณรงค์คัดกรองพัฒนาการเด็กปฐมวัยอายุ 9, 18, 30, และ 42 เดือนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 4 - 8 กรกฎาคม 2559 จำนวน 40,000 คน เพื่อเด็กที่สงสัย หรือมีพัฒนาการล่าช้าได้รับการแก้ปัญหาได้รวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่จะใช้คู่มือเฝ้าระวังส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย สำหรับเด็กทั่วไป และสำหรับเด็กกลุ่มเสี่ยงในการคัดกรอง
นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. กล่าวว่า สัปดาห์รณรงค์คัดกรองดังกล่าวต่อเนื่องมาจากโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ดำเนินงานระหว่างปี 2558 - 2561 เพื่อค้นหาเด็กสงสัยพัฒนาการล่าช้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 และสร้างเด็กให้มีความพร้อมก้าวสู่ระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเน้นการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กตั้งแตจ่แรกเกิด - 5 ปี อย่างมีส่วนร่วม ทั้งครอบครัว ชุมชน และ อสม. โดยคาดว่าจะมีพ่อแม่ผู้ดูแลเด็กกว่าล้านครอบครัวได้รับความรู้และคำแนะนำ ทำให้เด็กที่สงสัยว่ามีพัฒนาการล่าช้าได้รับการกระตุ้นจนมีพัฒนาการสมวัยถึงร้อยละ 88 ทั้งนี้ จะมีการเปิดการรณรงค์ในวันที่ 5 ก.ค. นี้ ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ดร.กุลวดี ศรีพานิชกุลชัย หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิจัยระบบและข้อมูลสุขภาพ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) กล่าวว่า ในวันเปิดการรณรงค์จะมีการเปิดตัวแอปพลิเคชัน “คุณลูก (Khunlook)” ด้วย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง NECTEC สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น และ สธ. โดยแอปฯ ดังกล่าวจะทำหน้าที่แทนสมุดบันทึกสุขภาพของลูกเล่มสีชมพู ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถบันทึกการเจริญเติบโตของลูกได้ถึงอายุ 19 ปี บันทึกพัฒนาการของลูกได้ถึง 5 ขวบ ซึ่งแต่ละเดือนจะมีเกณฑ์กำหนดว่าลูกในช่วงเดือนนี้ต้องทำอะไรได้แล้วบ้าง ซึ่งจะให้บันทึกว่าสามารถทำได้ในวันเดือนปีที่เท่าไร แอปฯ ก็จะทราบได้ทันทีว่าเด็กสามารถทำได้เร็วหรือช้ากว่าที่กำหนด ซึ่งหากทำได้เร็ว หรือตามกำหนดก็จะได้ 5 ดาว แต่หากล่าช้าก็อาจเหลือ 4 หรือ 3 ดาว ซึ่งแอปฯ จะแนะนำวิธีการช่วยเหลือเพื่อเพิ่มพัฒนาการด้วย ซึ่งความรู้ที่ให้นั้นเชื่อถือได้ เพราะมาจาก สธ. โดยตรง
“เมื่อครบกำหนดตามอายุการคัดกรอง คือ 9 18 30 และ 42 เดือน ก็ให้เปิดแอปฯ นี้ ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขดู ซึ่งเจ้าหน้าที่จะอ่านจากข้อมูลที่บันทึกและช่วยให้ทราบว่าเด็กมีพัฒนาการแต่ละด้านเป็นอย่างไรบ้าง และให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีบันทึกในเรื่องของการรับวัคซีนตามช่วงอายุ บันทึกสุขภาพฟัน การนัดหมายต่าง ๆ ด้วย ซึ่งในอนาคตหากรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลสุขภาพที่จะเชื่อมเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์เดียวกัน ก็อาจมีการพัฒนาแอปฯ ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้ สำหรับแอปฯ ดังกล่าวสามารถดาวน์โหลดฟรีได้แล้วทั้งระบบไอโอเอสและแอนดรอย์ ซึ่งจากการใช้งาน 1 ปี มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 6 หมื่นครั้ง” ดร.กุลวดี กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
