กรมสุขภาพจิต ชี้ ครอบครัวใช้เวลาร่วมกันน้อยลง พ่อแม่เลี้ยงลูกเองลดลง ทำครอบครัวขาดความผูกพัน ต้นตอความขัดแย้ง จนทำร้ายร่างกาย และฆ่ากันเอง เล็งขอข้อมูลตำรวจดูสาเหตุการก่อเหตุในแต่ละครอบครัว หวังหาทางป้องกันและแก้ไข
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ขณะนี้พบการทำร้ายร่ายกายและฆ่ากันของคนในครอบครัว และกลุ่มเครือญาติเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดการฆ่ากันส่วนหนึ่งมาจากเรื่องของความสัมพันธ์ และความผูกพันในครอบครัวที่ลดลง ส่งผลให้เวลาเกิดภาวะตึงเครียดก็มักกลายเป็นคู่ขัดแย้งไม่ยอมยืดหยุ่นให้กัน โดยมี 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิด คือ 1. การใช้เวลาร่วมกันของคนในครอบครัวมีน้อยลง และ 2. การที่พ่อแม่เลี้ยงดูลูกเองน้อยลง จึงทำให้ความผูกพันและใกล้ชิดกันของคนในครอบครัวน้อยลง ส่วนแนวทางการแก้ไข คือ พ่อแม่ต้องรู้จักหาวิธีและวางแผนการเลี้ยงดูลูก โดยพยายามเลี้ยงดูลูกด้วยตัวเองดีที่สุด แต่หากต้องให้ลูกไปอยู่กับตายาย ก็จะต้องหาวิธีสร้างความผูกพันร่วมกัน เพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกขาดความอบอุ่น นอกจากนี้ ในการดูแลลูกก็ไม่ควรลืมเรื่องการสร้างระเบียบวินัยตั้งแต่เด็ก เพื่อลูกเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีวินัย
พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า จากการเก็บสถิติการฆ่ากันของคนในครอบครัว ซึ่งได้ข้อมูลมาจากโรงพยาบาลต่าง ๆ จะพบว่า มี 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการฆ่ากัน ได้แก่ 1. มีความขัดแย้งกัน และไม่ได้รับการแก้ไข จนเกิดการใช้ความรุนแรงขึ้น 2. มีปัจจัยภายนอก เช่น สมาชิกคนใดคนหนึ่งในครอบครัวมีความผูกพันกับคนนอก เมื่อเกิดปัญหากับคนในครอบครัวขึ้น ก็จะถูกโน้มน้าวให้ก่อเหตุโดยบางครั้งก็ไม่ได้ตั้งใจทำไป เพราะอารมณ์ชั่ววูบ และ 3. มีสมาชิกในครอบครัวมีอาการเจ็บป่วยทางจิต และเมื่อถูกกระตุ้นก็ทำให้ก่อความรุนแรงขึ้นกับครอบครัว โดยที่พบการก่อเหตุมากที่สุดจะมาจากปัจจัยภายนอกคือ ถูกคนอื่นโน้มน้าวให้ก่อเหตุ
“ขณะนี้ทางกรมสุขภาพจิตเตรียมที่จะประสานขอข้อมูลจากทางตำรวจ เกี่ยวกับการก่อเหตุรุนแรงต่าง ๆ รวมถึงคดีการฆ่ากัน โดยเฉพาะที่เป็นการก่อเหตุของคนในครอบครัวว่ามีสาเหตุมาจากอะไร เพื่อจะได้นำฐานข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์ร่วมกับฐานข้อมูลของโรงพยาบาล เพื่อใช้วางเป็นแนวทาง และการแก้ไขปัญหาต่อไป ว่า สาเหตุการใช้ความรุนแรงเกิดจากปัจจัยใดบ้าง เพราะบางครั้งก่อนที่จะมีการก่อเหตุที่รุนแรง ก็มักจะมีการทำร้ายร่างกายเพียงเล็กน้อยก่อน ดังนั้น หากเรารู้สาเหตุและปัจจัย ก็จะได้นำไปสู่แนวทางการป้องกันและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที โดยหากมีการประสานขอฐานข้อมูลกับทางตำรวจเรียบร้อยแล้ว ก็จะมอบข้อมูลดังกล่าวให้กับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ก่อนวางแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป” รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่