รศ.นพ.พิสิฏฐ์ เลิศวานิช
ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์ และกายภาพบำบัด
สำหรับผู้ติดตามข่าวกีฬา จะพบว่า บ่อยครั้งที่มีนักฟุตบอลได้รับอุบัติเหตุเอ็นเข่าขาด ต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด และต้องพักฟื้นไป 1 ฤดูกาล เอ็นของข้อเข่าที่มีการบาดเจ็บจนต้องได้รับการผ่าตัดมากที่สุด คือ เอ็นไขว้หน้า ซึ่งมีนักเตะระดับโลกหลายคนที่เคยประสบชะตากรรมนี้มาแล้ว เช่น อลัน เชียเรอร์, ไมเคิล โอเว่น, รุด ฟานนิสเตอรอยด์, โรเบอร์โต บัจโจ, อเลสซานโดร เดล ปิร์โร เป็นต้น แต่นักกีฬาสมัครเล่น หรือคนทั่วไปก็มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บเช่นนี้ได้ ด้วยสภาพปัจจุบันที่ประชาชนสนใจเล่นกีฬามากขึ้นจำนวนของผู้ป่วยที่ได้รับการบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้า ก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตาม การดูแลรักษาที่เหมาะสมนั้น มีส่วนสำคัญในการทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปเล่นกีฬาได้ดังเดิม
เอ็นไขว้หน้า คืออะไร
เอ็นไขว้หน้า (anterior cruciate ligament หรือที่เรียกย่อว่า ACL) ไม่ได้อยู่หน้าเข่า ไม่สามารถคลำได้ แต่อยู่ลึกเข้าไปในส่วนกลางของข้อเข่า ตรงส่วนเว้าของส่วนปลายกระดูกต้นขา ยึดเกาะระหว่างกระดูกต้นขาและกระดูกแข้ง มีแนวเส้นใยเฉียง มีหน้าที่สำคัญในการรักษาความมั่นคงของข้อเข่าในการเคลื่อนไหว โดยเอ็นไขว้หน้าจะป้องกันการเคลื่อนของกระดูกแข้งมาทางด้านหน้าต่อกระดูกต้นขา อีกทั้งป้องกันการบิดหมุนของข้อเข่าอีกด้วย ถ้าเทียบกับรถยนต์ก็เหมือนกับเบรกนั่นเอง
รู้ได้อย่างไร ว่าเอ็นไขว้หน้าขาด
การฉีกขาดเอ็นไขว้หน้านั้น มีกลไกการบาดเจ็บได้ทั้งในลักษณะที่มีการปะทะ หรือไม่มีการปะทะก็ได้ โดยมักมีลักษณะของการบิดหมุนของกระดูกต้นขาซึ่งเคลื่อนไปพร้อมกับลำตัว บนกระดูกแข้งที่มีเท้ายึดตรึงอยู่กับพื้น หรืออาจเกิดในลักษณะที่คู่ต่อสู้เข้ามากระแทกที่เข่า กีฬาประเภทที่พบการบาดเจ็บชนิดนี้ได้บ่อยมักเป็นกีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนไหวในลักษณะบิดหมุนตัว เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล รักบี้ เป็นต้น
เมื่อเกิดการบาดเจ็บขึ้นผู้ป่วยมักรู้สึกว่ามีเสียงลั่นในข้อ (audible pop) ร่วมกับมีอาการปวดรุนแรงขึ้นทันที ส่วนใหญ่ไม่สามารถเล่นกีฬาต่อได้ เอ็นไขว้หน้าที่มีการฉีกขาดจะทำให้มีเลือดออกในข้อ จึงมีข้อเข่าบวมมากในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ส่วนใหญ่ต้องพักการใช้งานข้อเข่าหลายสัปดาห์จึงจะเดินได้เป็นปกติ แต่ผู้ป่วยอาจมีปัญหาเสียความมั่นคงของข้อเข่า รู้สึกว่ามีข้อเข่าทรุด หรือข้อเข่าหลวมในการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน หรือการเล่นกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวที่มีการหมุนตัว การวิ่งออกตัวหรือหยุดอย่างรวดเร็ว รวมถึงการกระโดด
แพทย์วินิจฉัยว่าเอ็นขาดได้อย่างไร
แพทย์ซักถามกลไกการเกิดการบาดเจ็บ และอาการที่เกิดขึ้นหลังได้รับอุบัติเหตุ ประกอบกับการตรวจร่างกาย เพื่อยืนยันว่า มีการฉีกขาดของเอ็นไขว้หน้าจริง จะพบว่ามีภาวะข้อหลวมอันเนื่องมาจากเส้นเอ็นที่ฉีกขาดไป มีการเคลื่อนของกระดูกแข้งมาทางด้านหน้าต่อกระดูกต้นขาได้มากกว่าปกติ หรือข้อเข่าสามารถบิดหมุนได้มากกว่าปกติ
การส่งตรวจเอกซเรย์ข้อเข่านั้นไม่สามารถมองเห็นเอ็นไขว้หน้าได้ แต่อาจมีการส่งตรวจเพื่อดูว่ามีการบาดเจ็บของกระดูกร่วมด้วยหรือไม่ ดังนั้น ในผู้ป่วยที่มีการฉีกขาดของเอ็นไขว้หน้าส่วนใหญ่ จึงมีภาพเอกซเรย์ของข้อเข่าที่ปกติ ในกรณีที่ไม่แน่ใจการวินิจฉัย หรือต้องการประเมินเพิ่มเติมว่า มีการบาดเจ็บในส่วนประกอบอื่นของข้อเข่าหรือไม่ อาจส่งตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็ก (Magnetic Resonance Imaging: M.R.I.) ซึ่งสามารถสร้างภาพที่มีความละเอียดสูง ในหลายมุมมองเพื่อประเมินการบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้า และส่วนประกอบอื่นของข้อเข่าได้ เช่น หมอนรองกระดูก กระดูกอ่อนผิวข้อ เป็นต้น
เอ็นไขว้หน้าขาด ต้องผ่าตัดหรือไม่
การบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้าสามารถรักษาได้ ทั้งการรักษาโดยการผ่าตัด และไม่ผ่าตัด โดยมีหลายปัจจัยในการพิจารณาเลือกวิธีรักษา เช่น ความต้องการของผู้ป่วยในการใช้งานข้อเข่าทั้งในชีวิตประจำวันและการเล่นกีฬา อายุของผู้ป่วย ความมั่นคงของข้อเข่า การบาดเจ็บร่วมของส่วนประกอบอื่นของข้อเข่า เป็นต้น
การรักษาโดยการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้า เป็นการนำเอ็นส่วนอื่นมาทดแทนเอ็นไขว้หน้าที่มีการฉีกขาดไป การผ่าตัดมีข้อบ่งชี้ คือ
1. ผู้ป่วยที่ต้องการใช้งานข้อเข่าในกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ทั้งในการทำงานหรือเล่นกีฬา ที่มีการบิดหมุนของข้อเข่า
2. ผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บร่วมในส่วนประกอบอื่นของข้อเข่าที่ต้องการการรักษาด้วยการผ่าตัด เช่น หมอนรองข้อเข่าฉีกขาดที่สามารถเย็บซ่อมได้ หรือ กรณีที่ข้อเข่าไม่สามารถงอเหยียดได้เต็มที่จากการที่มีเนื้อเยื่อเข้ามาขัดในข้อ
3. ผู้ป่วยที่มีปัญหาเสียความมั่นคงของข้อเข่ามาก ข้อเข่าหลวมจนรบกวนการใช้งานในชีวิตประจำวัน
การผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าโดยการส่องกล้อง
การผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้เทคนิคการผ่าตัดส่องกล้อง ทำให้มีแผลผ่าตัดที่เล็กลง และช่วยการฟื้นตัวของผู้ป่วยให้เร็วขึ้น การส่องกล้องข้อเข่ามีส่วนช่วยในการยืนยันการวินิจฉัยเอ็นไขว้หน้าฉีกขาด สามารถดูส่วนประกอบอื่นภายในข้อได้ว่ามีพยาธิสภาพร่วมด้วยหรือไม่ เช่น หมอนรองข้อเข่า เอ็นไขว้หลัง กระดูกอ่อนผิวข้อ เป็นต้น ซึ่งสามารถทำการรักษาไปพร้อมกันได้
การผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าจะเป็นการนำเอ็นจากส่วนอื่นของร่างกายมาทดแทน เช่น เอ็นสะบ้า เอ็นแฮมสตริง เป็นต้น โดยเจาะกระดูกแข้งและกระดูกต้นขาในตำแหน่งจุดเกาะของเอ็นไขว้หน้า แล้วจึงร้อยเอ็นที่เอามาทดแทนเข้าไปตามช่องที่เจาะไว้ จากนั้นจะใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมในการยึดตรึงเอ็น
หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะได้รับการฟื้นฟูสภาพตามขั้นตอน เพื่อให้สามารถงอและเหยียดข้อเข่าได้เต็มที่ กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง มีการฝึกการรับรู้ตำแหน่งของข้อเข่า รวมทั้งการฝึกทักษะการเคลื่อนไหว เพื่อให้กลับไปเล่นกีฬาได้อย่างปลอดภัย ผู้ป่วยควรมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 80 - 90% ของข้างที่ปกติ โดยทั่วไปจะใช้เวลาในการฟื้นฟูสภาพก่อนจะกลับไปเล่นกีฬาประมาณ 6 - 9 เดือน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์ และกายภาพบำบัด
สำหรับผู้ติดตามข่าวกีฬา จะพบว่า บ่อยครั้งที่มีนักฟุตบอลได้รับอุบัติเหตุเอ็นเข่าขาด ต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด และต้องพักฟื้นไป 1 ฤดูกาล เอ็นของข้อเข่าที่มีการบาดเจ็บจนต้องได้รับการผ่าตัดมากที่สุด คือ เอ็นไขว้หน้า ซึ่งมีนักเตะระดับโลกหลายคนที่เคยประสบชะตากรรมนี้มาแล้ว เช่น อลัน เชียเรอร์, ไมเคิล โอเว่น, รุด ฟานนิสเตอรอยด์, โรเบอร์โต บัจโจ, อเลสซานโดร เดล ปิร์โร เป็นต้น แต่นักกีฬาสมัครเล่น หรือคนทั่วไปก็มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บเช่นนี้ได้ ด้วยสภาพปัจจุบันที่ประชาชนสนใจเล่นกีฬามากขึ้นจำนวนของผู้ป่วยที่ได้รับการบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้า ก็มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตาม การดูแลรักษาที่เหมาะสมนั้น มีส่วนสำคัญในการทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปเล่นกีฬาได้ดังเดิม
เอ็นไขว้หน้า คืออะไร
เอ็นไขว้หน้า (anterior cruciate ligament หรือที่เรียกย่อว่า ACL) ไม่ได้อยู่หน้าเข่า ไม่สามารถคลำได้ แต่อยู่ลึกเข้าไปในส่วนกลางของข้อเข่า ตรงส่วนเว้าของส่วนปลายกระดูกต้นขา ยึดเกาะระหว่างกระดูกต้นขาและกระดูกแข้ง มีแนวเส้นใยเฉียง มีหน้าที่สำคัญในการรักษาความมั่นคงของข้อเข่าในการเคลื่อนไหว โดยเอ็นไขว้หน้าจะป้องกันการเคลื่อนของกระดูกแข้งมาทางด้านหน้าต่อกระดูกต้นขา อีกทั้งป้องกันการบิดหมุนของข้อเข่าอีกด้วย ถ้าเทียบกับรถยนต์ก็เหมือนกับเบรกนั่นเอง
รู้ได้อย่างไร ว่าเอ็นไขว้หน้าขาด
การฉีกขาดเอ็นไขว้หน้านั้น มีกลไกการบาดเจ็บได้ทั้งในลักษณะที่มีการปะทะ หรือไม่มีการปะทะก็ได้ โดยมักมีลักษณะของการบิดหมุนของกระดูกต้นขาซึ่งเคลื่อนไปพร้อมกับลำตัว บนกระดูกแข้งที่มีเท้ายึดตรึงอยู่กับพื้น หรืออาจเกิดในลักษณะที่คู่ต่อสู้เข้ามากระแทกที่เข่า กีฬาประเภทที่พบการบาดเจ็บชนิดนี้ได้บ่อยมักเป็นกีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนไหวในลักษณะบิดหมุนตัว เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล รักบี้ เป็นต้น
เมื่อเกิดการบาดเจ็บขึ้นผู้ป่วยมักรู้สึกว่ามีเสียงลั่นในข้อ (audible pop) ร่วมกับมีอาการปวดรุนแรงขึ้นทันที ส่วนใหญ่ไม่สามารถเล่นกีฬาต่อได้ เอ็นไขว้หน้าที่มีการฉีกขาดจะทำให้มีเลือดออกในข้อ จึงมีข้อเข่าบวมมากในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ส่วนใหญ่ต้องพักการใช้งานข้อเข่าหลายสัปดาห์จึงจะเดินได้เป็นปกติ แต่ผู้ป่วยอาจมีปัญหาเสียความมั่นคงของข้อเข่า รู้สึกว่ามีข้อเข่าทรุด หรือข้อเข่าหลวมในการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน หรือการเล่นกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวที่มีการหมุนตัว การวิ่งออกตัวหรือหยุดอย่างรวดเร็ว รวมถึงการกระโดด
แพทย์วินิจฉัยว่าเอ็นขาดได้อย่างไร
แพทย์ซักถามกลไกการเกิดการบาดเจ็บ และอาการที่เกิดขึ้นหลังได้รับอุบัติเหตุ ประกอบกับการตรวจร่างกาย เพื่อยืนยันว่า มีการฉีกขาดของเอ็นไขว้หน้าจริง จะพบว่ามีภาวะข้อหลวมอันเนื่องมาจากเส้นเอ็นที่ฉีกขาดไป มีการเคลื่อนของกระดูกแข้งมาทางด้านหน้าต่อกระดูกต้นขาได้มากกว่าปกติ หรือข้อเข่าสามารถบิดหมุนได้มากกว่าปกติ
การส่งตรวจเอกซเรย์ข้อเข่านั้นไม่สามารถมองเห็นเอ็นไขว้หน้าได้ แต่อาจมีการส่งตรวจเพื่อดูว่ามีการบาดเจ็บของกระดูกร่วมด้วยหรือไม่ ดังนั้น ในผู้ป่วยที่มีการฉีกขาดของเอ็นไขว้หน้าส่วนใหญ่ จึงมีภาพเอกซเรย์ของข้อเข่าที่ปกติ ในกรณีที่ไม่แน่ใจการวินิจฉัย หรือต้องการประเมินเพิ่มเติมว่า มีการบาดเจ็บในส่วนประกอบอื่นของข้อเข่าหรือไม่ อาจส่งตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็ก (Magnetic Resonance Imaging: M.R.I.) ซึ่งสามารถสร้างภาพที่มีความละเอียดสูง ในหลายมุมมองเพื่อประเมินการบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้า และส่วนประกอบอื่นของข้อเข่าได้ เช่น หมอนรองกระดูก กระดูกอ่อนผิวข้อ เป็นต้น
เอ็นไขว้หน้าขาด ต้องผ่าตัดหรือไม่
การบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้าสามารถรักษาได้ ทั้งการรักษาโดยการผ่าตัด และไม่ผ่าตัด โดยมีหลายปัจจัยในการพิจารณาเลือกวิธีรักษา เช่น ความต้องการของผู้ป่วยในการใช้งานข้อเข่าทั้งในชีวิตประจำวันและการเล่นกีฬา อายุของผู้ป่วย ความมั่นคงของข้อเข่า การบาดเจ็บร่วมของส่วนประกอบอื่นของข้อเข่า เป็นต้น
การรักษาโดยการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้า เป็นการนำเอ็นส่วนอื่นมาทดแทนเอ็นไขว้หน้าที่มีการฉีกขาดไป การผ่าตัดมีข้อบ่งชี้ คือ
1. ผู้ป่วยที่ต้องการใช้งานข้อเข่าในกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ทั้งในการทำงานหรือเล่นกีฬา ที่มีการบิดหมุนของข้อเข่า
2. ผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บร่วมในส่วนประกอบอื่นของข้อเข่าที่ต้องการการรักษาด้วยการผ่าตัด เช่น หมอนรองข้อเข่าฉีกขาดที่สามารถเย็บซ่อมได้ หรือ กรณีที่ข้อเข่าไม่สามารถงอเหยียดได้เต็มที่จากการที่มีเนื้อเยื่อเข้ามาขัดในข้อ
3. ผู้ป่วยที่มีปัญหาเสียความมั่นคงของข้อเข่ามาก ข้อเข่าหลวมจนรบกวนการใช้งานในชีวิตประจำวัน
การผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าโดยการส่องกล้อง
การผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้เทคนิคการผ่าตัดส่องกล้อง ทำให้มีแผลผ่าตัดที่เล็กลง และช่วยการฟื้นตัวของผู้ป่วยให้เร็วขึ้น การส่องกล้องข้อเข่ามีส่วนช่วยในการยืนยันการวินิจฉัยเอ็นไขว้หน้าฉีกขาด สามารถดูส่วนประกอบอื่นภายในข้อได้ว่ามีพยาธิสภาพร่วมด้วยหรือไม่ เช่น หมอนรองข้อเข่า เอ็นไขว้หลัง กระดูกอ่อนผิวข้อ เป็นต้น ซึ่งสามารถทำการรักษาไปพร้อมกันได้
การผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าจะเป็นการนำเอ็นจากส่วนอื่นของร่างกายมาทดแทน เช่น เอ็นสะบ้า เอ็นแฮมสตริง เป็นต้น โดยเจาะกระดูกแข้งและกระดูกต้นขาในตำแหน่งจุดเกาะของเอ็นไขว้หน้า แล้วจึงร้อยเอ็นที่เอามาทดแทนเข้าไปตามช่องที่เจาะไว้ จากนั้นจะใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมในการยึดตรึงเอ็น
หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะได้รับการฟื้นฟูสภาพตามขั้นตอน เพื่อให้สามารถงอและเหยียดข้อเข่าได้เต็มที่ กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง มีการฝึกการรับรู้ตำแหน่งของข้อเข่า รวมทั้งการฝึกทักษะการเคลื่อนไหว เพื่อให้กลับไปเล่นกีฬาได้อย่างปลอดภัย ผู้ป่วยควรมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 80 - 90% ของข้างที่ปกติ โดยทั่วไปจะใช้เวลาในการฟื้นฟูสภาพก่อนจะกลับไปเล่นกีฬาประมาณ 6 - 9 เดือน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่