รพ.อุดรธานี เปิดบริการตามปกติ หลังเผชิญฤทธิ์ฝนฟ้าคะนองจนน้ำท่วม รพ. เหตุระบายน้ำไม่ทัน สธ. สั่ง รพ. ทุกแห่งเตรียมพร้อมรับมือ ประเมินความเสี่ยงภัยน้ำท่วมตลอดช่วงฤดูฝน ด้าน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ขาดแคลนน้ำ ประสานทหารช่วยขนน้ำ เลื่อนนัดผู้ป่วยไม่เร่งด่วน เล็งสร้างบ่อพักน้ำขนาดใหญ่เพิ่ม
วันนี้ (17 พ.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึง รพ.อุดรธานี ประสบปัญหาน้ำท่วมโรงพยาบาลจากพายุฝน ว่า ได้มอบหมายให้ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัด สธ. ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ในสัปดาห์นี้จะมีฝนตกหนักเกือบทุกภาคของประเทศ จึงได้กำชับให้โรงพยาบาลทุกแห่งเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุฯ อย่างใกล้ชิด ประเมินความเสี่ยง และจัดทำแผนสำรองการทำงานในภาวะฉุกเฉิน เพื่อให้สามารถจัดบริการประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสำรวจและซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างให้แข็งแรง จัดการระบบระบายน้ำ รวมทั้งการขนย้ายยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ไว้ในที่ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหาย สำหรับเหตุการณ์ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ขาดแคลนน้ำจนกระทบกับการบริการผู้ป่วย ต้องเลื่อนคิวผ่าตัด เนื่องจากระบบประปาของเทศบาลนครนครศรีธรรมราชนั้น ได้มอบ นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. เดินทางไปร่วมแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น การสร้างระบบน้ำประปาผิวดิน บ่อเก็บน้ำ ขุดบ่อบาดาลเพิ่ม เพื่อให้มีน้ำสำรองไว้ให้ในช่วงฤดูร้อน
นพ.โสภณ กล่าวว่า รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ โรงพยาบาลได้แก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนไปแล้วโดยประสานกองทัพภาคที่ 4 ส่งทหารช่วยขนน้ำ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพราะต้องการใช้น้ำวันละ 1,366 ลูกบาศก์เมตร แต่บ่อเดิมมีความจุ 1,154 ลูกบาศก์เมตร รวมทั้งปรับระบบบริการที่ไม่เร่งด่วน เช่น เลื่อนนัดการผ่าตัดผู้ป่วยโรคที่ไม่เร่งด่วน จัดรถบริการรับ - ส่งผู้ป่วยโรคไตที่ไม่ฉุกเฉินไปโรงพยาบาลใกล้เคียง ซึ่งโรงพยาบาลยังให้เปิดบริการตรวจรักษาที่ตึกผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุฉุกเฉินได้ตามปกติ ส่วนระยะยาวเตรียมสร้างบ่อพักน้ำเพิ่มความจุ 4,000 ลูกบาศก์เมตรเพิ่มจากบ่อเดิม และเจาะบ่อบาดาล จะประเมินผลความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอีกครั้ง สำหรับที่ รพ.อุดรธานี ซึ่งน้ำท่วมเข้าตัวอาคารจากฝนตกหนักเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้เปิดบริการตรวจรักษาได้ตามปกติ เหตุจากการระบายน้ำชั้นดาดฟ้า และระบบระบายน้ำทั้งในและนอกโรงพยาบาลระบายไม่ทัน ทำให้น้ำไหลเข้าตัวอาคาร โดยโรงพยาบาลได้เร่งจัดการแก้ไขระบบระบายน้ำแล้ว
ด้าน น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ส่วนของอาคาร รพ. สังกัด สธ. นั้น มีมาตรฐานความมั่นคง แข็งแรง สามารถรองรับภัยจากแผ่นดินไหวและวาตภัยได้ ขอให้ประชาชน เจ้าหน้าที่มั่นใจ อย่างไรก็ตาม ได้จัดส่งทีมวิศวกรรมการแพทย์และทีมวิศวกรก่อสร้างทั้งส่วนกลาง และสำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขต 12 เขตทั่วประเทศ เข้าไปสนับสนุนดำเนินการตรวจสอบจุดที่มีความเสี่ยงสำคัญร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาล ได้แก่ ระบบระบายน้ำจากหลังคา ดาดฟ้าของอาคารบริการต่าง ๆ กันสาด ระบบไฟฟ้าสำรอง ความแข็งแรงของประตูหน้าต่าง ลิฟต์โดยสารผู้ป่วยและญาติ รวมทั้งระบบของวิทยุสื่อสาร เพื่อติดต่อประสานงานการบริการรักษาพยาบาลและการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินในกรณีที่ระบบการสื่อสารปกติใช้การไม่ได้หรือประสบภาวะภัยพิบัติฉุกเฉิน
นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า ความคืบหน้าการซ่อมแซมอาคารบริการ รพ.อุดรธานี พบว่า ขณะนี้ คืบหน้าไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ โดยตรวจพบความเสียหายเพิ่มเติม ได้แก่ เสาวิทยุสื่อสาร ในส่วนของแผงรับสัญญาณเกิดความเสียหายประมาณการค่าใช้จ่าย 100,000 - 150,000 บาท ลิฟต์ขนส่งคนไข้ที่อาคารสูติกรรมมีน้ำซึม ขณะนี้ได้ปิดใช้บริการชั่วคราว จะได้เร่งดำเนินการซ่อมโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกัน สบส. จะส่งทีมวิศวกรรมการแพทย์ตรวจสอบความมั่นคงของเสารับส่งวิทยุสื่อสารของสถานพยาบาลต่าง ๆ ที่มีความสูงตั้งแต่ 18 - 45 เมตร ซึ่งใน รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป และ รพ.ชุมชน จะมีทุกแห่ง และในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อให้สามารถใช้การได้ตลอดเวลา
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่