“หมอประกิต” วอนกาชาด ไม่รับ ซีเอสอาร์ บริษัทบุหรี่ เหตุย้อนแย้งหลักการพิทักษ์ชีวิตและสุขภาพคน แจง พ.ร.บ. ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ ห้ามบริษัทบุหรี่ทำซีเอสอาร์ แต่ยังให้ทุนการศึกษาบุตรหลานชาวไร่ยาสูบ ผู้ค้าปลีกได้
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ในโอกาสวันกาชาดโลก 8 พฤษภาคม ขอเรียกร้องให้ฝ่ายต่าง ๆ ไม่รับบริจาคจากบริษัทบุหรี่ โดยคำขวัญวันกาชาดโลกปีนี้คือ “นำหลักการของเราสู่การปฏิบัติ” (Our principles in action) ซึ่งหลักการสำคัญข้อหนึ่ง คือ เพื่อมนุษยธรรม และมีจุดประสงค์ในการพิทักษ์ชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ การบรรเทาทุกข์และการรักษาพยาบาล กฎบัตรกาชาดสากลจึงกำหนดให้กาชาดประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่รับการบริจาคหรือการสนับสนุนใด ๆ จากธุรกิจยาสูบ เพราะการประกอบธุรกิจยาสูบขัดแย้งกับหลักการของกาชาดอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากธุรกิจยาสูบผลิตและส่งเสริมการขายสินค้าเสพติด ที่คร่าชีวิตหนึ่งในสิบของผู้ใหญ่ในโลกแต่ละปีเป็นจำนวน 6 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ไม่สูบบุหรี่ 6 แสนคน ที่ร้อยละ 28 เป็นเด็ก ที่สำคัญร้อยละ 80 ของคนที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่เป็นประชากรในประเทศที่รายได้น้อย และส่วนใหญ่เป็นคนจน
ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า อนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลก แนะนำให้ภาคีประเทศห้ามธุรกิจยาสูบทำซีเอสอาร์ เนื่องจากการทำซีเอสอาร์เป็นองค์ประกอบหนึ่งของการตลาด โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้ผู้ที่ได้รับซีเอสอาร์ของบริษัทบุหรี่เป็นแนวร่วมในการคัดค้านนโยบายควบคุมยาสูบ และเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้กำหนดนโยบาย เพื่อไม่ให้มาควบคุมธุรกิจหรือหย่อนมือในการควบคุม อีกทั้งธุรกิจยาสูบยังใช้การทำซีเอสอาร์เพื่อสร้างภาพให้ธุรกิจนี้ห่างไกลจากสภาพจริงที่ผลิตและส่งเสริมการขายสินค้าเสพติดที่ทำลายสุขภาพ โดยจะใช้งบประมาณส่วนใหญ่ในการประชาสัมพันธ์การทำซีเอสอาร์ ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่า ร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ...... ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอรัฐบาลเพื่อพิจารณา มาตรา 35 ห้ามบริษัทบุหรี่ทำซีเอสอาร์ แต่มีข้อยกเว้นที่บริษัทบุหรี่ทำกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ในวงจรธุรกิจยาสูบ อาทิ ชาวไร่ยาสูบ และผู้ค้าปลีกยาสูบ ซึ่งบริษัทบุหรี่ยังสามารถให้ทุนการศึกษาแก่บุตรหลานชาวไร่ยาสูบ และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ดังเช่นที่ทำอยู่ในขณะนี้ได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ในโอกาสวันกาชาดโลก 8 พฤษภาคม ขอเรียกร้องให้ฝ่ายต่าง ๆ ไม่รับบริจาคจากบริษัทบุหรี่ โดยคำขวัญวันกาชาดโลกปีนี้คือ “นำหลักการของเราสู่การปฏิบัติ” (Our principles in action) ซึ่งหลักการสำคัญข้อหนึ่ง คือ เพื่อมนุษยธรรม และมีจุดประสงค์ในการพิทักษ์ชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ การบรรเทาทุกข์และการรักษาพยาบาล กฎบัตรกาชาดสากลจึงกำหนดให้กาชาดประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่รับการบริจาคหรือการสนับสนุนใด ๆ จากธุรกิจยาสูบ เพราะการประกอบธุรกิจยาสูบขัดแย้งกับหลักการของกาชาดอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากธุรกิจยาสูบผลิตและส่งเสริมการขายสินค้าเสพติด ที่คร่าชีวิตหนึ่งในสิบของผู้ใหญ่ในโลกแต่ละปีเป็นจำนวน 6 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ไม่สูบบุหรี่ 6 แสนคน ที่ร้อยละ 28 เป็นเด็ก ที่สำคัญร้อยละ 80 ของคนที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่เป็นประชากรในประเทศที่รายได้น้อย และส่วนใหญ่เป็นคนจน
ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า อนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลก แนะนำให้ภาคีประเทศห้ามธุรกิจยาสูบทำซีเอสอาร์ เนื่องจากการทำซีเอสอาร์เป็นองค์ประกอบหนึ่งของการตลาด โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้ผู้ที่ได้รับซีเอสอาร์ของบริษัทบุหรี่เป็นแนวร่วมในการคัดค้านนโยบายควบคุมยาสูบ และเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้กำหนดนโยบาย เพื่อไม่ให้มาควบคุมธุรกิจหรือหย่อนมือในการควบคุม อีกทั้งธุรกิจยาสูบยังใช้การทำซีเอสอาร์เพื่อสร้างภาพให้ธุรกิจนี้ห่างไกลจากสภาพจริงที่ผลิตและส่งเสริมการขายสินค้าเสพติดที่ทำลายสุขภาพ โดยจะใช้งบประมาณส่วนใหญ่ในการประชาสัมพันธ์การทำซีเอสอาร์ ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่า ร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ...... ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอรัฐบาลเพื่อพิจารณา มาตรา 35 ห้ามบริษัทบุหรี่ทำซีเอสอาร์ แต่มีข้อยกเว้นที่บริษัทบุหรี่ทำกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ในวงจรธุรกิจยาสูบ อาทิ ชาวไร่ยาสูบ และผู้ค้าปลีกยาสูบ ซึ่งบริษัทบุหรี่ยังสามารถให้ทุนการศึกษาแก่บุตรหลานชาวไร่ยาสูบ และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ดังเช่นที่ทำอยู่ในขณะนี้ได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่