xs
xsm
sm
md
lg

ไทยเตรียมบรรจุวัคซีน HPV เป็นวัคซีนพื้นฐาน ช่วยหญิงไทยป้องกันมะเร็งปากมดลูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สธ.เผยไทยเตรียมใช้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หลัง คคก.วัคซีนแห่งชาติ แนะนำให้บรรจุในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และ สปสช. พร้อมสนับสนุนงบประมาณ

วันนี้ (30 เม.ย.) นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในหญิงไทย จากสถิติโรคมะเร็งในประเทศไทยมีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 6,400 รายต่อปี และเสียชีวิตประมาณ 3,000 รายต่อปี สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพปพิลโลมา หรือเชื้อเอชพีวี (Human papilloma virus - HPV) ซึ่งปัจจุบันมีวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย แต่การใช้วัคซีนนี้ยังคงจำกัดอยู่ในภาคเอกชน ยังไม่ได้บรรจุในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคภายใต้คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการที่กำหนดชนิดวัคซีน และตารางการให้วัคซีนที่เหมาะสมสำหรับประชากรไทยได้มีมติเห็นชอบ แนะนำให้นำวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก มาใช้ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโดยเร็ว เนื่องจากเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูง ซึ่งสอดคล้องต่อผลการศึกษานำร่องในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า ได้รับการยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องเป็นอย่างดี มีความครอบคลุมการได้รับวัคซีนของกลุ่มเป้าหมายในเกณฑ์ดี ไม่มีอาการภายหลังได้รับวัคซีนที่รุนแรง และไม่ส่งผลกระทบต่อการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในพื้นที่

นพ.อำนวย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้เร่งรัดดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เสนอเรื่องนี้ไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในฐานะเลขานุการ อนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อให้พิจารณานำวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกอยู่ในรายการบัญชียาหลักแห่งชาติ เนื่องจากหน่วยบริการจะสามารถใช้วัคซีนได้เฉพาะที่อยู่ภายใต้บัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ

ในขณะเดียวกัน กรมควบคุมโรค ได้ประสานไปยังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อพิจารณาเตรียมการวางแผนสนับสนุนวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในโอกาสที่เหมาะสมโดยเร็ว และให้ประชาชนในกลุ่มเป้าหมายได้รับการป้องกันจากโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งขณะนี้ สปสช.ได้จัดทำคำของบประมาณปี 2560 เพื่อรองรับการให้บริการวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการบรรจุวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในบัญชียาหลักแห่งชาติเสียก่อน จึงจะสามารถเสนอของบประมาณ และบรรจุวัคซีนอยู่ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคอย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และในวันที่ 2 พฤษภาคม 2559 นี้ คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ภายใต้คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ จะได้มีการปรึกษาหารือ และติดตามความก้าวหน้าในประเด็นดังกล่าว นอกจากนี้ ยังจะหารือเรื่องวัคซีนอื่นๆ ที่จะนำเข้าในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เช่น วัคซีนโรต้า เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะนำวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมาใช้ทั่วประเทศในระยะอันใกล้นี้ ซึ่งนับเป็นวัคซีนที่มีความคุ้มทุน โดยวัคซีนชนิดนี้สามารถเริ่มให้ได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี ถ้าเทียบกับอายุเด็กหญิงไทยเท่ากับกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 ซึ่งถือเป็นวัยที่เหมาะสมที่สุดในการได้รับวัคซีนตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น