xs
xsm
sm
md
lg

ผู้สูงอายุ-อ้วนเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นพ. เทิดศักดิ์ เชิดชู
อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรงพยาบาลเวชธานี ลาดพร้าว 111

โรคความดันโลหิตสูงสามารถพบได้กับผู้สูงวัย เพราะฉะนั้น เมื่ออายุมากขึ้นความดันก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ โอกาสพบความดันโลหิตสูงในคนสูงอายุก็จะมากกว่าคนที่อายุน้อย และในส่วนที่คนน้ำหนักตัวเกิน หรืออยู่ในภาวะอ้วนก็จะทำให้แรงต้านทานของเส้นเลือดที่อยู่ในร่างกายสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ วิธีการสังเกตอาการต่อความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง ส่วนใหญ่มากกว่า 90% ของคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง 2-3 ปีแรก มักจะไม่มีอาการ เพราะฉะนั้นในช่วง 2-3 ปีแรกอาจจะกำลังอยู่ในภาวะความดันโลหิตสูงโดยที่เราไม่ทราบมาก่อน แต่เมื่อความดันเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ หรือมีภาวะแทรกซ้อนเราอาจจะเริ่มมีอาการ เช่น เริ่มปวดศีรษะบ่อยๆ เวียนศีรษะบ่อยๆ

ขณะที่ภาวะแทรกซ้อนโรคความดันโลหิตสูงเกิดขึ้นต่อเส้นเลือด เพราะฉะนั้น ทุกที่ในร่างกายที่เส้นเลือดไปถึงก็สามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูงได้ เช่น ตั้งแต่เส้นเลือดในสมองมีภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ หรือแตกมีภาวะเส้นเลือด ที่มีการเปลี่ยนแปลงมีภาวะหลอดเลือดที่หัวใจ ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบ หรือมีภาวะหัวใจโต มีภาวะของโรคไต หรือภาวะของเส้นเลือดที่แขนขาเกิดการแข็งตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ ถ้าเกิดมีอาการปวดศีรษะ เวียนหัวบ่อยๆ ควรจะตรวจวัดความดัน หรือพบว่า ความดันเริ่มสูง เช่น มากว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท ก็สามารถวินิจฉัยว่า เริ่มมีความดันโลหิตสูง ควรมาพบแพทย์เพื่อให้คำแนะนำในการรักษา

โดยการตรวจวินิจฉัยส่วนใหญ่โรคนี้ทำการตรวจง่ายๆ ด้วยการวัดความดัน ปัจจุบันมีอุปกรณ์วัดความดันที่ขายตามท้องตลาด แต่ว่าวิธีการที่เหมาะสมจะต้องวัดให้ถูกต้อง ขนาดตัวที่วัดความดันจะต้องมีขนาดที่เหมาะสมต่อแขน ซึ่งก่อนวัดจะต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกาแฟเป็นเวลามากกว่า 30 นาที ซึ่งต้องนั่งพัก 5-10 นาทีก่อนในการตรวจวัด เนื่องจากโรคความดันโลหิตสูงสามารถขึ้นๆ ลงๆ ได้อยู่ตลอดเวลา และแพทย์จะมีอุปกรณ์เครื่องตรวจวัดความดันที่กลับไปตรวจวัดที่บ้านได้เรียกว่า ambulatory blood pressure monitoring จะเป็นเครื่องมือที่ติดตัวคนไข้ไว้กับตลอด 24 ชั่วโมง เช่น ช่วงเช้า กลางวัน เย็น หรือกลางคืน หรือช่วงที่เรามีกิจวัตรประจำวัน สามารถเป็นการยืนยันได้ว่า มีความดันโลหิตสูงหรือไม่

สำหรับวิธีการรักษามีทั้งใช้ยา และไม่ใช้ยา เริ่มต้นจากการไม่ใช้ยาก่อน คือ พยายามอย่าเครียด ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เรื่องการรับประทานอาหารไม่ควรรับประทานส่วนที่มีเกลือผสมมากจนเกินไป พยายามลดน้ำหนัก ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ หากว่าวิธีการเหล่านี้ลองแล้วยังไม่ดีขึ้น ไม่ได้ผล แพทย์จะเริ่มรักษาด้วยวิธีการใช้ยา

โรคความดันโลหิตสูง ถือเป็นภัยเงียบที่เกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว มาพร้อมกับภัยร้ายต่างๆ ทางที่ดีควรที่จะตรวจเช็กร่างกายว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคนี้หรือไม่ จะได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น