“สมเด็จช่วง” ให้พรสงกรานต์ แนะให้ทุกคนยึด “ความดี-ความจริง” ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต
วันนี้ (7 เม.ย.) ที่พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พร้อมคณะผู้บริหาร และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทั่วประเทศ เข้าถวายสักการะ และสรงน้ำ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เนื่องในเทศกาลประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2559 โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจาย์ กล่าวให้โอวาทว่า ในรอบปีที่ผ่านมา อะไรที่ทำแล้วดีก็ให้ทำต่อไป สิ่งที่ทำลงไปแล้วไม่ดี ก็ให้แก้ไขหรือไม่ทำอีก เรียกว่า ผิดเป็นครู ซึ่งการทำดี ทำไม่ดีนั้น ต้องยอมรับว่า มีอยู่ในตัวเราทุกคน คนที่จะมีแต่ความดี หรือความไม่ดีอย่างเดียวนั้น หายาก เว้นแต่ว่า จะมีความดีมาก หรือน้อยเท่านั้น ดังนั้น ขอให้หันกลับไปดูในรอบปีที่ผ่านมาว่า เราได้ทำอะไรลงไปบ้าง แล้วกลับย้อนมาดูตัวเรา แก้ไขในสิ่งที่ไม่ดีนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2558 คณะสงฆ์ และรัฐบาลได้ขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกคนได้เอาใจใส่ในโครงการนี้ดีแล้วหรือไม่ หากตั้งใจทำงานนี้ทุกอย่างตามดำริของคณะสงฆ์ และรัฐบาล ก็น่าชื่นใจ แต่บางคนทำน้อยไป ขอให้ปรับปรุงตัวใหม่ ตั้งใจทำงานมากขึ้น ซึ่งทุกคนรู้ว่าศีล 5 มีประโยชน์ ถ้าหากทำให้ประชากรชาวไทยทุกคนอยู่ในศีล 5 ประเทศชาติบ้านเมืองก็จะมีสุข มีปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคี และสันติสุขเกิดขึ้น
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวว่า ปีใหม่มาแล้วก็ตั้งใจดำเนินชีวิตตามความดี และต้องมีจุดยืน 2 ประการ คือ 1.ความดี 2.ความจริง ทุกคนควรตั้งจุดยืนไว้แบบนี้ คือ ต้องทำความดี อะไรไม่ดีไม่ควรทำ อะไรจริงเราทำ อะไรไม่จริงเราไม่ทำ เมื่อทุกคนมีจุดยืนเช่นนี้จะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกด้าน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
วันนี้ (7 เม.ย.) ที่พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พร้อมคณะผู้บริหาร และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทั่วประเทศ เข้าถวายสักการะ และสรงน้ำ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เนื่องในเทศกาลประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2559 โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจาย์ กล่าวให้โอวาทว่า ในรอบปีที่ผ่านมา อะไรที่ทำแล้วดีก็ให้ทำต่อไป สิ่งที่ทำลงไปแล้วไม่ดี ก็ให้แก้ไขหรือไม่ทำอีก เรียกว่า ผิดเป็นครู ซึ่งการทำดี ทำไม่ดีนั้น ต้องยอมรับว่า มีอยู่ในตัวเราทุกคน คนที่จะมีแต่ความดี หรือความไม่ดีอย่างเดียวนั้น หายาก เว้นแต่ว่า จะมีความดีมาก หรือน้อยเท่านั้น ดังนั้น ขอให้หันกลับไปดูในรอบปีที่ผ่านมาว่า เราได้ทำอะไรลงไปบ้าง แล้วกลับย้อนมาดูตัวเรา แก้ไขในสิ่งที่ไม่ดีนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2558 คณะสงฆ์ และรัฐบาลได้ขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกคนได้เอาใจใส่ในโครงการนี้ดีแล้วหรือไม่ หากตั้งใจทำงานนี้ทุกอย่างตามดำริของคณะสงฆ์ และรัฐบาล ก็น่าชื่นใจ แต่บางคนทำน้อยไป ขอให้ปรับปรุงตัวใหม่ ตั้งใจทำงานมากขึ้น ซึ่งทุกคนรู้ว่าศีล 5 มีประโยชน์ ถ้าหากทำให้ประชากรชาวไทยทุกคนอยู่ในศีล 5 ประเทศชาติบ้านเมืองก็จะมีสุข มีปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคี และสันติสุขเกิดขึ้น
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวว่า ปีใหม่มาแล้วก็ตั้งใจดำเนินชีวิตตามความดี และต้องมีจุดยืน 2 ประการ คือ 1.ความดี 2.ความจริง ทุกคนควรตั้งจุดยืนไว้แบบนี้ คือ ต้องทำความดี อะไรไม่ดีไม่ควรทำ อะไรจริงเราทำ อะไรไม่จริงเราไม่ทำ เมื่อทุกคนมีจุดยืนเช่นนี้จะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกด้าน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่