ผู้จัดการรายวัน 360 - "บิ๊กต๊อก" ยัน “ดีเอสไอ” ให้เกียรติ “สมเด็จช่วง” ทุกขั้นตอน จวกทีมทนายตุกติกจนป่วน ดักคอให้ความเป็นธรรมแล้ว อย่ามาโวยเรื่องช้าโยงตั้งสังฆราช สั่ง จนท.ทำตาม กม.ออกหมายเรียก-หมายจับได้ ด้าน “อธิบดีดีเอสไอ” เด้งรับลูก พร้อมออกหมายเรียก ระหว่างนี้สอบพยานปากอื่นไปก่อน ยังเชื่อนัด “หลวงพี่แป๊ะ” ผู้ถวายรถ 21 มี.ค.นี้ไม่ซ้ำรอย
วานนี้ (17 มี.ค.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าหลังเจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางเข้าพบ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรณีเป็นผู้ครอบครองรถเบนซ์โบราณ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร แต่ทีมฝ่ายกฎหมายวัดไม่อนุญาตให้สอบปากคำและให้เจ้าหน้าที่กลับไปตั้งประเด็นคำถามอีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า ก่อนเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่วัดปากน้ำฯ ตนกำชับต้องให้เกียรติพระผู้ใหญ่ พร้อมนำดอกไม้ธูปเทียนแพไปเคารพ โดยมี พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นตัวแทนในนามผู้ใหญ่ของดีเอสไอ พาคณะพนักงานสอบสวนไป โดยทางวัดก็ไม่ให้เจ้าหน้าที่พกโทรศัพท์ และไม่ให้แถลงข่าวที่วัด เราก็ทำตามทุกอย่าง แต่เมื่อไม่ให้ความร่วมมือก็จบ หากพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งแล้ว จะบอกว่าไม่ให้ความเป็นธรรมไม่ได้ เพราะให้เกียรติและทำตามทุกขั้นตอนแล้ว หากเป็นคนปกติออกหมายเรียกมาสอบก็จบ
“ไม่ให้ก็ไม่ให้ ดีเอสไอทุกคนทำตามหน้าที่ เขาก็มีสิทธิจะบอกว่าไม่ให้ เจ้าหน้าที่ก็มีสิทธิการทำหน้าที่ของดีเอสไอครั้งนี้เป็นไปด้วยความเคารพ ให้เกียรติ และให้สิทธิที่จะชี้แจงความบริสุทธิ์ ถ้าท่านไม่ใช้ก็จบ คดีก็เดินต่อไป แล้วอย่าหาว่าทางเราดึงเวลา ดึงคดีไม่ให้เสร็จ จนทำให้ไปผูกพันกับการแต่งตั้งสังฆราช” พล.อ.ไพบูลย์ ระบุ
** ฉะทีมทนายวัดปากน้ำฯทำวุ่น
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ดีเอสไอได้ส่งหนังสือเพื่อนัดสอบปากคำตามกำหนดก่อนหน้านี้ ทนายก็ติดต่อมาและต่อรอง แต่เมื่อถึงวันนัดหมายกับให้มีการส่งประเด็นคำถามกลับไป ซึ่งในความเป็นจริง การสอบปากคำไม่มีใครทำเช่นนั้น จากนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายทุกขั้นตอน ส่วนตัวเชื่อว่า สมเด็จช่วงไม่ทราบเรื่อง แต่บรรดาลูกศิษย์หรือคนรอบข้างจะมาพยายามกีดกันให้เรื่องไม่จบ ซึ่งจะส่งผลเสียหายจ่อใครน่าจะประเมินกันออก หากวันหนึ่งผลออกมาแล้ว แล้วจะมาบอกว่าไม่มาถามเลยไม่ได้ การสอบปากคำนั้นเป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้อยู่ในคดี นอกจากนี้ การสอบปากคำจริงๆนั้น เจ้าหน้าที่จะเป็นคนอนุญาตให้ผู้อื่นเข้ารับฟังได้หรือไม่ได้ แต่ไม่สามารถตอบคำถามแทนได้และทางเราก็อะลุ่มอล่วยเพราะท่านอายุมากแล้วจึงให้เข้ามาร่วมรับฟัง
“ผมอยากเตือนทนายความวัดปากน้ำ คุณทำอะไร ผมสั่งลูกน้องให้เกียรติแล้ว คุณกลับมาเรียกร้องต่อรอง เราให้เกียรติทุกเรื่อง อย่ามาเล่นแง่ ผมไม่เชื่อว่าสมเด็จช่วงจะอยากทำเช่นนี้ แต่คิดว่าคนที่เรื่องมากคือทีมทนายที่กำลังทำให้สมเด็จฯช่วงเสียหาย สุดท้ายผมสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายทุกอย่าง และหากไม่ให้ความร่วมมือจะมีการออกหมายเรียกแล้ว ถ้าไม่มาก็จะออกหมายจับ” พล.อ.ไพบูลย์ ระบุ
** DSI เตรียมออกหมายเรียก
ขณะที่ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า หากวัดปากน้ำฯต้องการหมายเรียกเข้าให้ปากคำ ดีเอสไอก็พร้อมดำเนินการให้ ระหว่างนี้การสอบสวนคดีดังกล่าวจะไม่กระทบหรือส่งผลให้ต้องล่าช้าออกไป เพราะยังมีพยานปากอื่นที่สามารถไปสอบก่อนได้ ส่วนการนัดสอบปากคำพระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ และเลขานุการส่วนตัวสมเด็จช่วง ซึ่งเป็นผู้ถวายรถ ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ คาดว่าคงไม่เป็นเหมือนกรณีของสมเด็จช่วง