MGR Online - รมว.ยุติธรรม ระบุรถเบนซ์โบราณ ทะเบียน ขม 99 กทม.ในความครอบครองของ “สมเด็จช่วง” ยังต้องดำเนินคดีต่อแม้ทนายทำหนังสือคืนรถให้ผู้บริจาค ชี้ยึดกฎหมายเป็นหลัก หากถูกต้องไม่ต้องกลัวความผิด
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบรถเบนซ์โบราณ หมายเลขทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช หลังทีมทนายความวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ทำหนังสือคืนรถคันดังกล่าวให้กับผู้บริจาคแล้วว่า การตรวจสอบรถแยกเป็น 2 ส่วน คือ 1. รถคันดังกล่าวผิดหรือไม่ซึ่งจบไปแล้วว่าผิดกฎหมายชัดเจน 2. ผู้ครอบครองผิดหรือไม่ ส่วนประเด็นที่ว่ารถเบนซ์คันดังกล่าวจะเอาไปไว้ไหนนั้น ถ้าครอบครองสิ่งผิดกฎหมาย แม้จะอยู่ในสถานที่ใดก็ผิด ต้องดำเนินคดีต่อไป ไม่เกี่ยวว่ รถคันนั้นจะส่งไปไหน และไม่สามารถจะยุติได้
ส่วนกรณีที่มีการขึ้นป้ายสนับสนุนสมเด็จช่วงตามวัดต่างๆ นั้น พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่กระทำได้หรือเปล่า ตนถามท่านกลับ เพราะตนไม่มีความรู้ทางนั้น แต่ตนยึดเรื่องกฎหมายเป็นหลัก และไม่ต้องมากดดัน หากไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัว แต่ถ้าทำถูกต้องตามกฎหมายก็อย่ามากดดันตนเพราะมันไม่มีผล ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องเรียนได้อยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรถของสมเด็จช่วงเป็นของชาวบ้านทั่วไปก็คงถูกยึดอายัดเนื่องจากผิดกฎหมาย พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า เรื่องนี้ก็น่าคิดว่าทำไมที่ผ่านมาไม่ดำเนินการยึดรถ เพราะถ้าหากกฎหมายกำหนดไว้เช่นนั้นก็ต้องปฏิบัติตามเหมือนกัน ไม่มีการยกเว้น แต่การไปดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ภายในวัดต้องเข้าพบกับสมเด็จช่วงก่อนเพื่อพูดคุยในรายละเอียด และเป็นการให้เกียรติพระชั้นผู้ใหญ่เพื่อขอรับรถของกลางมาตรวจสอบ
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวปิดท้ายว่า ในวันจันทร์ที่ 7 มี.ค. เวลา 09.30 น. ตนจะเป็นประธานประชุมผู้เกี่ยวข้องกับรถผิดกฎหมายจำนวนกว่า 6,000 คัน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้ร่วมกันหารือ เช่น กรมศุลกากร สรรพสามิต กรมขนส่งทางบก ส่วนเรื่องการแก้ไขนั้นอยากให้ไปถามรัฐมนตรีที่ดูแลในเรื่องนี้ เพราะกระทรวงยุติธรรมเป็นปลายเหตุแล้ว