xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอส่งสำนวนให้สำนักภาษีฯ สอบต่อ คดีรถโบราณ “สมเด็จช่วง” ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - รองโฆษกดีเอสไอเผยความคืบหน้ารถเบนซ์โบราณเจ้าอาวาสวัดปากน้ำเป็นคดีพิเศษแล้ว ส่งสำนวนให้สำนักภาษีอากรตรวจสอบต่อ คาดใช้เวลา 2-3 เดือนสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย


วันนี้ (23 ก.พ.) เวลา 10.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบรถเบนซ์โบราณ หมายเลขทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นรถผิดกฎหมายทุกขั้นตอน ว่า หลังจากดีเอสไอแถลงเรื่องการตรวจสอบรถโบราณของสมเด็จช่วงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ในกระบวนการต่อไปโดยระบบกฎหมายของประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนที่เป็นผู้รับผิดชอบคือสำนักคดีภาษีอากรจะรับตัวสำนวนไปดำเนินการสอบสวนต่อไป

พ.ต.ต.วรณันกล่าวอีกว่า เรื่องของการสอบสวนข้อปฏิบัติหลัก ได้แก่ สำนักคดีเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหน่วยงานทำหน้าที่สืบสวนในชั้นต้นจะมีคำกล่าวโทษชี้ประเด็นในการสืบสวนพบความผิดในประเด็นเรื่องอะไร บุคคลใดเกี่ยวข้องบ้าง พร้อมส่งสำนวนพยานหลักฐานไปให้สำนักคดีภาษีอากรเพื่อดำเนินการสอบสวน โดยทางสำนักคดีภาษีอากรจะรวบรวมพยานหลักฐานตามคำกล่าวหาก่อน และถ้าตรวจสอบเห็นว่ามีความผิดเพียงพอก็จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่ถูกกล่าวหา และเมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว

“ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญก็จะเป็นขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหา ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์จะนำพยานหลักฐานที่ตัวเองคิดว่าบริสุทธิ์มาหักล้างในชั้นการสอบสวนได้ เมื่อผลเป็นอย่างไรแล้ว ทางพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาหลักฐานทั้งสองฝ่ายและมีความเห็นทางคดีส่งอัยการดำเนินการต่อไป” พ.ต.ต.วรณันกล่าว

พ.ต.ต.วรณันกล่าวต่อว่า เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนในการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเนื่องจากมีเอกสารเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญยังมีกระบวนการแก้ข้อกล่าวหาที่ฝ่ายถูกแจ้งข้อกล่าวหาสามารถนำพยานหลักฐานมาหักล้างกันได้ด้วย เจ้าหน้าที่จึงต้องฟังความทั้งสองฝ่าย

พ.ต.ต.วรณันกล่าวเพิ่มเติมว่า วิธีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ทำทุกประเด็นทั้งหมดที่เกี่ยวกับพยานหลักฐาน ซึ่งทางสำนักงานภาษีอากรเอาสำนวนไปพิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้วจะวางแผนการทำงานเพื่อออกมาเป็นรายละเอียดให้สื่อมวลชนได้รับทราบอีกครั้ง ส่วนทนายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มีการประสานให้ข้อมูลเพิ่มเติมตนไม่มั่นใจว่าติดต่อพนักงานสอบสวนมาหรือไม่ เพราะว่าสุดท้ายเมื่อทางคดีโอนไปที่ทางสำนักภาษีอากรแล้วจะต้องไปตรวจสอบแล้วจะเชิญพยานที่เกี่ยวข้องมาสอบเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า สัปดาห์นี้จะมีการเรียก สมเด็จช่วง มาให้ปากคำหรือไม่ พ.ต.ท.วรณัน กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนสำนักงานภาษีอากรซึ่งรับเรื่องไปจะต้องพิจารณาสำนวนคดีก่อน พร้อมวางแผนจะดำเนินการอย่างไร คงจะกำหนดระยะเวลาไม่ได้ ต้องให้เวลาพิจารณาสำนวน

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ถ้าวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ไม่คืนรถให้ ทางดีเอสไอจะทำอย่างไร พ.ต.ท.วรณันกล่าวว่า ยังไม่มีความคิดเห็นจนกว่าจะได้เห็นพยานหลักฐานในชั้นสอบสวน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น