MGR Online - ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ รอเจ้าหน้าที่ดีเอสไอติดต่อขอรถเบนซ์มาก่อนส่งมอบ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ “สมเด็จช่วง” หากคืนก่อนเหมือนกับว่ายอมรับผิด ยันเจ้าตัวไม่รู้ครอบครองรถผิดกฎหมาย
จากกรณี ดีเอสไอ แถลงข่าวการตรวจสอบรถเบนซ์โบราณ หมายเลขทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นรถผิดกฎหมายทุกขั้นตอน ต่อมา นายวิชาญ รัษฐปานะ เจ้าของบริษัท แอนซีทรานสฟอร์เมอร์ ซึ่งเป็นอู่ที่ประกอบรถเบนซ์ และ นางกาญจนา มาเหมือน เจ้าของอู่ เอ็น.พี.การาจ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำและร้องทุกข์ฐานโดนปลอมลายมือชื่อ เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (20 ก.พ.) นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ฝ่ายกฎหมายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เปิดเผยถึงกระแสข่าว สมเด็จช่วง ไม่ประสงค์จะรับรถเบนซ์คันดังกล่าวไว้แล้วว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ขณะนี้ยืนยันว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ซึ่งตนทราบมาว่าในการแถลงข่าวของ ดีเอสไอ บอกผลการสอบออกมาถูกหรือไม่ถูกก็จะมาพบ สมเด็จช่วง เพื่อสอบปากคำที่วัดปากน้ำเอง โดยทางฝ่ายกฎหมายของวัดก็จะรอให้ทางเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอเป็นฝ่ายติดต่อมาก่อน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเห็นมาว่าจะให้เราดำเนินการปฏิบัติอย่างไร ทางวัดก็จะดำเนินการไปตามนั้น
นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวอีกว่า ยืนยันเราไม่มีปัญหาที่จะปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะที่ผ่านมา ทางวัดปากน้ำ ยืนยันมาโดยตลอด ว่า สมเด็จช่วง ครอบครองรถโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นรถผิดกฎหมาย วัดปากน้ำจะไม่ส่งมอบรถให้กับทางดีเอสไอก่อนที่จะติดต่อมาว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร เพราะมองว่าไม่ได้ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของสมเด็จช่วง แต่ถ้าคืนรถคันดังกล่าวให้ดีเอสไอก่อนที่จะแจ้งเป็นทางการว่าให้ทำอย่างไร ก็จะยิ่งเท่ากับยอมรับว่าทำผิด ทั้งที่ท่านไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสัปดาห์หน้า ทางพนักงานสอบสวนจะทำหนังสือถึง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และ พระมหาศาสนมุนี หรือ หลวงพี่แป๊ะ หรือ พระธนกิจ สุภาโว (ศรีอุ่นเรือน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เพื่อขอเข้าพบไปสอบปากคำเพิ่มรวมทั้งขอเอกสารเพิ่มเติม