ทุกๆ ปีในช่วงนี้อากาศร้อนแรงระอุ เรามักจะอยากดื่มน้ำ อาบน้ำ เล่นน้ำ ฯลฯ มากกว่าปกติ แต่ก็กลับกันกับธรรมชาติที่เป็นช่วงเวลาของน้ำน้อย
ปีนี้ก็ไม่ต่างจากปีก่อนๆ แต่ที่พิเศษกว่าคือ น้ำน้อยกว่าปีก่อนๆ ค่อนข้างมาก แต่อากาศยังคงร้อนระอุเหมือนเดิม ปัญหาก็เกิดขึ้นเพราะยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทุกคนก็เตรียมตัววางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนเพื่อจะเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยความสนุกสนาน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็ก พ่อแม่ก็มักจะเตรียมตัวมากหน่อย หรือต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับการเล่นน้ำของลูกๆ ซึ่งตอนนี้เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เราใช้น้ำกันอย่างมีคุณค่าขนาดไหน โดยเฉพาะในภาวะน้ำน้อยกว่าปกติเช่นนี้
นี่เป็นประเด็นที่อยากชวนให้มองอีกมุมหนึ่งด้วยท่ามกลางความสนุกสนานที่กำลังมาถึง ก็คือปัญหาเรื่องภัยแล้งท่ามกลางสภาวะอากาศร้อนระอุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เราเผชิญเรื่องภัยแล้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน สภาพอากาศก็ร้อนแรงเพิ่มขึ้นทุกปี
เรื่องการประหยัดน้ำจึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่พวกเราทุกคนควรตระหนักอย่างจริงจังได้แล้ว และต้องถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องสอนให้ลูกประหยัดน้ำตั้งแต่ในระดับครอบครัวแบบจริงจังเสียที
ประการแรก - เห็นคุณค่าของน้ำร่วมกัน
ข้อนี้สำคัญที่สุด เป็นเรื่องที่สมาชิกในครอบครัวต้องเห็นคุณค่าของน้ำไปด้วยกัน ไม่ใช่เห็นว่าการประหยัดน้ำในบ้านจะช่วยลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่น้ำเป็นทรัพยากรของโลก เป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของมนุษย์ อาจลองตั้งโจทย์ให้ลูกเห็นว่า ถ้าคนเราไม่มีน้ำ ชีวิตจะเป็นอย่างไร เพื่อให้เขามองเห็นว่า น้ำมีความสำคัญอย่างไร และลองให้ลูกคิดภาพตามไปด้วยว่าขณะที่เรามีน้ำสะดวกสบายอยู่ในขณะนี้ มีผู้คนจำนวนมากที่เขาไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ แล้วเขาคิดอย่างไร
ประการที่สอง - ใช้น้ำเท่าที่จำเป็น และพอดี
คำว่าจำเป็นของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นต้องมีความพอดีของแต่ละคนด้วย เป็นเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน แต่เชื่อไหมเราสูญเสียน้ำเพราะความมักง่ายของชีวิตประจำวันไปมากมายเหลือเกิน เช่น เรารินน้ำเพื่อจะดื่มเท่าที่เราต้องการ หรือเรามักจะรินน้ำให้เต็มแก้วทุกครั้ง โดยไม่ใส่ใจว่าจะดื่มหมดแก้วหรือเปล่า หรือแม้แต่ดื่มน้ำเป็นขวด เราก็มักดื่มไม่หมด แล้วก็ทิ้งไป ทั้งที่ถ้าหากเราใส่ใจสักนิด และคิดสักหน่อยว่าเราจะดื่มน้ำแค่ไหน เรามากันกี่คน แล้วควรจะซื้อน้ำกี่ขวด แต่ทุกวันนี้เรามองว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ ไม่ค่อยได้ใส่ใจรายละเอียดเท่าไร
ประการที่สาม - คุยกับลูกว่าใช้น้ำต้องจ่ายเงิน
เชื่อไหมคะว่ามีพ่อแม่จำนวนมากที่ไม่เคยพูดคุยกับลูกเรื่องการใช้น้ำแก่ลูก เด็กส่วนใหญ่จึงไม่เคยรู้เลยว่า การใช้น้ำนั้นต้องเสียเงินด้วย ที่จริงเป็นเรื่องจำเป็นที่พ่อแม่ควรบอกเพื่อให้เขาได้เห็นภาพว่า น้ำเป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัว เวลาเราต้องใช้น้ำ ไม่ว่าจะดื่มกิน อุปโภคบริโภคแค่ไหน ให้ลูกได้รู้ว่าทุกบ้านมีมิเตอร์น้ำ พาไปดูให้เห็นกับตาด้วยก็ได้ว่า ทุกครั้งที่เราใช้น้ำ เราต้องเสียเงินจ่ายค่าน้ำ ยิ่งใช้มากก็ต้องจ่ายเงินมาก
ประการที่สี่ - ชวนลูกช่วยประหยัด
ต่อเนื่องจากข้อที่สาม ถ้าลูกโตพอ พ่อแม่ควรจะพูดคุยเรื่องการใช้จ่ายเงินภายในครัวเรือนให้ลูกได้รับรู้ด้วย อย่างเช่น ขณะนี้อยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจยุคที่ข้าวของแพง ก็ควรพูดคุยกับลูกตรงไปตรงมาว่า ต้องช่วยกันประหยัดอดออมในทุกเรื่อง ไม่ใช่เพียงเรื่องน้ำ แต่เรื่องน้ำเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าลูกช่วยกันประหยัดน้ำจะช่วยประหยัดเงินให้พ่อแม่ได้ขนาดไหน อาจจะหยิบเอาบิลค่าน้ำมาให้ลูกเห็นก็ได้ หรืออาจใช้วิธีชวนกันประหยัดน้ำแล้วมาดูบิลกันในเดือนถัดไปก็ได้ว่า ลดลงหรือไม่ เด็กๆ ก็จะสนุกไปกับเราด้วย
ประการที่ห้า - เรียนรู้เรื่องภัยแล้ง
การสอนให้ลูกได้เรียนรู้ถึงแหล่งน้ำ หรือต้นน้ำลำธาร หรือเรื่องป่าไม้ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ให้ลูกได้เรียนรู้ว่า ที่เกิดปัญหาเรื่องภัยแล้งส่วนหนึ่งเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ ตั้งแต่เรื่องการตัดไม้ทำลายป่า การบริหารจัดการน้ำที่ไร้ประสิทธิภาพ และเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นมา ผลกระทบมันเป็นอย่างไร ก็ถือโอกาสให้ลูกได้เห็นสภาพจริงจากข้อมูลข่าวสารในปัจจุบันก็ได้
ประการที่หก - ลงมือทำให้เด็กเห็น
เริ่มจากการที่พ่อแม่เป็นแบบอย่าง และชวนลูกลงมือทำไปพร้อมๆ กัน เริ่มจากเรื่องง่ายๆ เช่น ดื่มน้ำเท่าที่ต้องการ ลดการใช้น้ำขณะอาบน้ำ ปิดน้ำในขณะแปรงฟัน ฯลฯ หรืออาจถือโอกาสให้ลูกช่วยคิดว่า ครอบครัวเราสามารถประหยัดน้ำด้วยวิธีไหนได้อีก ยิ่งใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์แล้วด้วย ลองให้ลูกช่วยคิดด้วยก็ได้ว่าครอบครัวเราจะเล่นน้ำสงกรานต์แบบประหยัดได้อย่างไร
ประการสุดท้ายนี่แหละสำคัญที่สุด
และดูเหมือนจะเป็นหัวใจของเทคนิคการสอนลูกทั้งปวง - อย่าสักแต่สอนโดยใช้น้ำลายอย่างเดียว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
ปีนี้ก็ไม่ต่างจากปีก่อนๆ แต่ที่พิเศษกว่าคือ น้ำน้อยกว่าปีก่อนๆ ค่อนข้างมาก แต่อากาศยังคงร้อนระอุเหมือนเดิม ปัญหาก็เกิดขึ้นเพราะยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทุกคนก็เตรียมตัววางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนเพื่อจะเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยความสนุกสนาน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็ก พ่อแม่ก็มักจะเตรียมตัวมากหน่อย หรือต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับการเล่นน้ำของลูกๆ ซึ่งตอนนี้เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เราใช้น้ำกันอย่างมีคุณค่าขนาดไหน โดยเฉพาะในภาวะน้ำน้อยกว่าปกติเช่นนี้
นี่เป็นประเด็นที่อยากชวนให้มองอีกมุมหนึ่งด้วยท่ามกลางความสนุกสนานที่กำลังมาถึง ก็คือปัญหาเรื่องภัยแล้งท่ามกลางสภาวะอากาศร้อนระอุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เราเผชิญเรื่องภัยแล้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน สภาพอากาศก็ร้อนแรงเพิ่มขึ้นทุกปี
เรื่องการประหยัดน้ำจึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่พวกเราทุกคนควรตระหนักอย่างจริงจังได้แล้ว และต้องถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องสอนให้ลูกประหยัดน้ำตั้งแต่ในระดับครอบครัวแบบจริงจังเสียที
ประการแรก - เห็นคุณค่าของน้ำร่วมกัน
ข้อนี้สำคัญที่สุด เป็นเรื่องที่สมาชิกในครอบครัวต้องเห็นคุณค่าของน้ำไปด้วยกัน ไม่ใช่เห็นว่าการประหยัดน้ำในบ้านจะช่วยลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่น้ำเป็นทรัพยากรของโลก เป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตของมนุษย์ อาจลองตั้งโจทย์ให้ลูกเห็นว่า ถ้าคนเราไม่มีน้ำ ชีวิตจะเป็นอย่างไร เพื่อให้เขามองเห็นว่า น้ำมีความสำคัญอย่างไร และลองให้ลูกคิดภาพตามไปด้วยว่าขณะที่เรามีน้ำสะดวกสบายอยู่ในขณะนี้ มีผู้คนจำนวนมากที่เขาไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ แล้วเขาคิดอย่างไร
ประการที่สอง - ใช้น้ำเท่าที่จำเป็น และพอดี
คำว่าจำเป็นของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นต้องมีความพอดีของแต่ละคนด้วย เป็นเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน แต่เชื่อไหมเราสูญเสียน้ำเพราะความมักง่ายของชีวิตประจำวันไปมากมายเหลือเกิน เช่น เรารินน้ำเพื่อจะดื่มเท่าที่เราต้องการ หรือเรามักจะรินน้ำให้เต็มแก้วทุกครั้ง โดยไม่ใส่ใจว่าจะดื่มหมดแก้วหรือเปล่า หรือแม้แต่ดื่มน้ำเป็นขวด เราก็มักดื่มไม่หมด แล้วก็ทิ้งไป ทั้งที่ถ้าหากเราใส่ใจสักนิด และคิดสักหน่อยว่าเราจะดื่มน้ำแค่ไหน เรามากันกี่คน แล้วควรจะซื้อน้ำกี่ขวด แต่ทุกวันนี้เรามองว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ ไม่ค่อยได้ใส่ใจรายละเอียดเท่าไร
ประการที่สาม - คุยกับลูกว่าใช้น้ำต้องจ่ายเงิน
เชื่อไหมคะว่ามีพ่อแม่จำนวนมากที่ไม่เคยพูดคุยกับลูกเรื่องการใช้น้ำแก่ลูก เด็กส่วนใหญ่จึงไม่เคยรู้เลยว่า การใช้น้ำนั้นต้องเสียเงินด้วย ที่จริงเป็นเรื่องจำเป็นที่พ่อแม่ควรบอกเพื่อให้เขาได้เห็นภาพว่า น้ำเป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัว เวลาเราต้องใช้น้ำ ไม่ว่าจะดื่มกิน อุปโภคบริโภคแค่ไหน ให้ลูกได้รู้ว่าทุกบ้านมีมิเตอร์น้ำ พาไปดูให้เห็นกับตาด้วยก็ได้ว่า ทุกครั้งที่เราใช้น้ำ เราต้องเสียเงินจ่ายค่าน้ำ ยิ่งใช้มากก็ต้องจ่ายเงินมาก
ประการที่สี่ - ชวนลูกช่วยประหยัด
ต่อเนื่องจากข้อที่สาม ถ้าลูกโตพอ พ่อแม่ควรจะพูดคุยเรื่องการใช้จ่ายเงินภายในครัวเรือนให้ลูกได้รับรู้ด้วย อย่างเช่น ขณะนี้อยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจยุคที่ข้าวของแพง ก็ควรพูดคุยกับลูกตรงไปตรงมาว่า ต้องช่วยกันประหยัดอดออมในทุกเรื่อง ไม่ใช่เพียงเรื่องน้ำ แต่เรื่องน้ำเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้าลูกช่วยกันประหยัดน้ำจะช่วยประหยัดเงินให้พ่อแม่ได้ขนาดไหน อาจจะหยิบเอาบิลค่าน้ำมาให้ลูกเห็นก็ได้ หรืออาจใช้วิธีชวนกันประหยัดน้ำแล้วมาดูบิลกันในเดือนถัดไปก็ได้ว่า ลดลงหรือไม่ เด็กๆ ก็จะสนุกไปกับเราด้วย
ประการที่ห้า - เรียนรู้เรื่องภัยแล้ง
การสอนให้ลูกได้เรียนรู้ถึงแหล่งน้ำ หรือต้นน้ำลำธาร หรือเรื่องป่าไม้ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ให้ลูกได้เรียนรู้ว่า ที่เกิดปัญหาเรื่องภัยแล้งส่วนหนึ่งเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ ตั้งแต่เรื่องการตัดไม้ทำลายป่า การบริหารจัดการน้ำที่ไร้ประสิทธิภาพ และเมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นมา ผลกระทบมันเป็นอย่างไร ก็ถือโอกาสให้ลูกได้เห็นสภาพจริงจากข้อมูลข่าวสารในปัจจุบันก็ได้
ประการที่หก - ลงมือทำให้เด็กเห็น
เริ่มจากการที่พ่อแม่เป็นแบบอย่าง และชวนลูกลงมือทำไปพร้อมๆ กัน เริ่มจากเรื่องง่ายๆ เช่น ดื่มน้ำเท่าที่ต้องการ ลดการใช้น้ำขณะอาบน้ำ ปิดน้ำในขณะแปรงฟัน ฯลฯ หรืออาจถือโอกาสให้ลูกช่วยคิดว่า ครอบครัวเราสามารถประหยัดน้ำด้วยวิธีไหนได้อีก ยิ่งใกล้ถึงเทศกาลสงกรานต์แล้วด้วย ลองให้ลูกช่วยคิดด้วยก็ได้ว่าครอบครัวเราจะเล่นน้ำสงกรานต์แบบประหยัดได้อย่างไร
ประการสุดท้ายนี่แหละสำคัญที่สุด
และดูเหมือนจะเป็นหัวใจของเทคนิคการสอนลูกทั้งปวง - อย่าสักแต่สอนโดยใช้น้ำลายอย่างเดียว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่