กรมอนามัยปรับบทบาททำงาน เน้นวิจัย พัฒนาความรู้ ส่งเสริมการป้องกันโรคตั้งแต่เกิดจนตาย ห่วงศูนย์เด็กเล็กท้องถิ่นไร้คุณภาพ ครูพี่เลี้ยงตกมาตรฐาน
วันนี้ (1 เม.ย.) นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวภายหลังเปิดพิธีประกาศเจตนารมณ์รวมพลังบริหารการเปลี่ยนแปลง ว่า กรมฯ ได้มีการปรับบทบาทการทำหน้าที่ใหม่ เน้นการศึกษาวิจัยเพื่อสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคของประชาชนทั้งระบบ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนกระทั่งเสียชีวิต เพื่อให้ประชาชนทราบเรื่องการปฏิบัติตัวเอง โรงพยาบาลต้องทำอะไร พร้อมทั้งปรับปรุงอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี ซึ่งที่ผ่านมามีการขับเคลื่อนเรื่องเหล่านี้ แต่ยังทำไม่ได้มากเท่าที่ควร ยกตัวอย่างกลุ่มเด็กต้องเริ่มตั้งแต่ในครรภ์ พ่อ แม่ต้องรู้ว่าครรภ์คุณภาพเป็นอย่างไร ต้องตั้งใจ และมีการวางแผนก่อนการตั้งครรภ์ มีการฝากครรภ์ ทำคลอดอย่างมีคุณภาพ เมื่อเด็กเกิดมาแล้วให้มีพัฒนาการสมวัย ติดตามน้ำหนัก ส่วนสูงอย่างสมส่วน โดยให้บริการคลินิกเด็กดี จากนั้นเมื่อออกจากครอบครัวและเข้าสู่การเรียนรู้ในระดับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และครูพี่เลี้ยงที่มีคุณภาพต่อไป
นพ.วชิระ กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กนั้นยังมีปัญหาอยู่มาก โดยเฉพาะที่ขึ้นกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น โดยจากการสำรวจของเมื่อปี 2558 พบว่า มีไม่ถึงร้อยละ 60 ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนครูพี่เลี้ยงผ่านมาตรฐานน้อยมาก ตรงส่วนนี้จะต้องมีการเข้าไปส่งเสริมและพัฒนาให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานต่อไป เบื้องต้นจะมีการส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับอำเภอ ลงไปให้ความรู้และอาจจะมีการฝึกอบรมครูพี่เลี้ยง เช่น 70 ชั่วโมง เป็นต้น เพื่อให้มีทักษะที่ถูกต้องในการดูแลเด็กตามเกณฑ์ด้านสุขภาพ ทั้งเรื่องการส่งเสริมพัฒนาการ การเข้าถึงอาหาร พร้อมกันนี้ ยังได้มีการปรับแก้ พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ใหม่ สร้างกลไกการดูแลโดยให้จังหวัดเป็นกำกับพื้นที่ ดังนั้น หากส่งเสริมแล้ว สนับสนุนแล้วยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นก็จำเป็นต้องเอากฎหมายเข้ามาดูแลเพื่อเป็นการปกป้องประชาชนต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่