สบส. เร่งสอบ หวังเอาผิด “หมอกระเป๋า” ฉีดหน้าอกสาวตาย ห่วงโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์มาก ขอ ปชช. ร่วมกวาดล้างหมอกระเป๋า ใช้ “สมาร์ทโฟน” ถ่ายรูปแจ้งเบาะแสบริการเถื่อนตามบ้านแบบดีลิเวอรี ย้ำอันตรายถึงชีวิต ผิดกฎหมาย
วันนี้ (31 มี.ค.) น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของหญิงรายหนึ่ง เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังฉีดยาเสริมหน้าอกทั้ง 2 ข้างจากหมอกระเป๋าที่ห้องพักในอพาร์ตเมนต์ เขตบางกะปิ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. จนเกิดอาการชักเกร็ง และเสียชีวิต ว่า การเสียชีวิตจากการใช้บริการหมอกระเป๋าเป็นข่าวให้พบเห็นบ่อยครั้ง จึงขอย้ำเตือนประชาชนว่า การเสริมความงามต้องกระทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และจะไม่มีการให้บริการนอกสถานที่เด็ดขาด ต้องทำในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับตัวผู้รับบริการ เช่น การแพ้ยา แพ้สารที่ใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายได้ตลอดเวลา สำหรับกรณีดังกล่าว สบส. ได้ส่งเจ้าหน้าที่กองกฎหมายและสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหาย เพื่อดำเนินคดีกับหมอเถื่อนรายนี้โดยเร็วที่สุด
“ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน สื่อโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางการแสวงหาผลประโยชน์ของหมอเถื่อน หมอกระเป๋า เนื่องจากเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว จึงมีการโฆษณาชนิดบอกปากต่อปากทางเฟซบุ๊ก ไลน์ และยังมีบุคคลอื่น ๆ ที่เคยใช้บริการมาให้การรับรองอีก ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ และยังมีการโฆษณาที่เน้นราคาถูกกว่าสถานพยาบาลอื่น อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง รวมทั้งแอบอ้างชื่อผลิตภัณฑ์ว่าเป็นชนิดเดียวกับที่บุคคลผู้มีชื่อเสียง หรือดาราต่างประเทศใช้ เพื่อหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบ อันตรายที่จะเกิดแก่ประชาชนผู้รับบริการ ดังนั้น ประชาชนจึงต้องตระหนักถึงภัยอันตรายให้มาก และต้องร่วมมือกันกวาดล้างหมอกระเป๋าให้หมดไปจากสังคมไทย เพราะลำพังภาครัฐไม่สามารถดูแลให้ทั่วถึงได้ โดยขอให้ประชาชนใช้โทรศัพท์ให้เป็นประโยชน์ ให้ถ่ายรูปหมอเถื่อน หมอกระเป๋าที่ไปให้บริการฉีดสารเสริมความงามที่บ้าน เพราะถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใกล้ตัวและใช้ได้รวดเร็ว ส่งรูปถ่าย พร้อมเบาะแสให้ สบส. ทางเฟซบุ๊กสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์, เฟซบุ๊กมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน ซึ่งจะง่ายต่อการตรวจสอบ และดำเนินการทางกฎหมายได้รวดเร็ว” อธิบดี สบส. กล่าว
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รักษาการแทน ผอ.สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า การเสริมความงามทั้งการฉีดเพิ่มขนาดหน้าอก ฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ สารเร่งขาว ไม่มีบริการนอกสถานพยาบาล หากมีถือว่าเป็นบริการเถื่อนทั้งหมด การเสริมความงามที่ปลอดภัยจะต้องทำในสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับ สธ. ตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ต้องติดป้ายชื่อสถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาต 13 หลักที่หน้าสถานพยาบาล ติดใบอนุญาตประกอบกิจการและดำเนินการสถานพยาบาล พร้อมหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมประจำปีปัจจุบัน ในส่วนของแพทย์ผู้ให้บริการจะต้องแสดงป้ายชื่อ สกุล รูปถ่ายของแพทย์ พร้อมกับเลขที่ใบอนุญาตการประกอบโรคศิลปะของแพทย์รายนั้นติดหน้าห้องตรวจ ตรงกับตัวจริงที่ให้บริการขณะนั้น นอกจากนี้ ยังต้องแสดงป้ายชื่อ สกุล รูปถ่ายของแพทย์ พร้อมกับเลขที่ใบอนุญาตการประกอบโรคศิลปะของแพทย์รายนั้นติดหน้าห้องตรวจ ตรงกับตัวจริงที่ให้บริการขณะนั้น นอกจากนี้ยังต้องแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาล ประชาชนสามารถสอบถามได้ด้วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่