สสส.-สคอ. ระดมภาครัฐ เอกชน หนุนลดความเร็วรถในเมือง 60 กม./ชม. นอกเมือง 90 กม./ชม. หวังสร้างสงกรานต์ปลอดภัย โอกาสรอดชีวิตสูงถึง 4 เท่าหากเกิดอุบัติเหตุ แนะมีจิตสำนึกไม่ขับเร็ว ไม่ดื่ม เหนื่อยล้าแวะปั๊ม
วันนี้ (28 มี.ค.) ในงานแถลงข่าว “ลดความเร็ว ลดความเสี่ยง สงกรานต์ปลอดภัย 2559” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ร่วมกับเครือข่ายรัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด และบริษัทเอ็มเทอร์ตี้ไนน์ จำกัด เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกผู้ใช้รถใช้ถนนให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ ลดการใช้ความเร็ว งดเว้นการดื่ม ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ที่ปรึกษาสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประธานการแถลงข่าวฯ กล่าวว่า สถิติสงกรานต์ย้อนหลังไป 5 ปี เกิดอุบัติเหตุ 15,537 ครั้ง บาดเจ็บ 16,620 ราย เสียชีวิต 1,598 ราย กว่าร้อยละ 76 ของอุบัติเหตุบนทางหลวงเกิดจากขับด้วยความเร็วสูง และ 2 ใน 3 เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2559 นี้ ต้องช่วยกันลดใช้ความเร็ว เว้นการดื่ม เพราะเมื่อดื่มเท่ากับเพิ่มความเสี่ยง เช่น เสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาท เหตุรุนแรง ทำร้ายร่างกาย โป๊อนาจาร และขาดสติ ขับรถก็จะขับด้วยความเร็ว คึกคะนอง นำมาซึ่งการบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิต ทั้งนี้ สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนเทศกาลสงกรานต์ 2558 จากข้อมูลศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เกิดอุบัติเหตุ 3,337 ครั้ง บาดเจ็บ 3,559 ราย เสียชีวิต 364 ราย เมาสุราร้อยละ 39.30 ใช้ความเร็วเกินกำหนดร้อยละ 24.34 สูงเป็นอันดับ 2
ศ.นพ.อุดมศิลป์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากการประสานความร่วมมือกับภาครัฐ และเอกชนแล้ว ทาง สสส.และ สคอ.ยังมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์กับเครือข่ายสื่อมวลชนส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ได้แก่ สมาคมสื่อช่อสะอาด (สถานีวิทยุชุมชน 421 แห่งทั่วประเทศ) สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ร่วมนำเสนอข้อมูลข่าวสารกระจายไปยังกลุ่มเป้าหมายชุมชน หมู่บ้าน รวมทั้งกระตุ้นให้ท้องถิ่น ชุมชนมีการจัดตั้งด่านชุมชนเฝ้าระวังป้องกัน โดยเฉพาะกลุ่มสี่ยงเพื่อลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด
พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชน มีคำสั่งให้ตำรวจทั่วประเทศกวาดล้าง ตัดโอกาส ป้องกันคนร้ายก่ออาชญากรรมในช่วงเทศกาล ซึ่งวันที่ 1-10 เม.ย.59 จะดีเดย์ทั่วประเทศเพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชน ส่วนมาตรการลดความเร็ว ลดความเสี่ยง จะระดมสรรพกำลังทั้งหมด และประสานความร่วมมือทุกภาคส่วนกระจายกำลังไปยังใช้จุดตรวจต่างๆ เพื่อตรวจวัดความเร็ว ซึ่งได้มีการติดตั้งเครื่องมือตรวจจับความเร็วอัตโนมัติเพิ่มเติมแล้ว เป็นการเสริมการทำงานซึ่งได้ผลในระดับที่ดี นอกจากนี้ ยังมีการตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ กวดขันวินัยจราจรเข้ม ซึ่งขอให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจร งดการดื่มสุราเด็ดขาด และคอยตักเตือนห้ามปรามไม่ให้มีการดื่มแล้วขับรถ เพราะสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ส่งผลกระทบต่อสังคม ครอบครัว และเศรษฐกิจ
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า การขับเร็วเกินกฎหมายได้สร้างความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สิน เป็นปัญหาที่รัฐต้องรีบจัดการ ควบคุมกำกับดูแลเรื่องความเร็วให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ลงทุนเทคโนโลยีซึ่งจำเป็น และต้องทำอย่างถูกต้องต่อเนื่อง รวมทั้งมีมาตรการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ ซึ่งทั่วโลกทำแล้วได้ผล นอกจากนี้ ยังขอเสนอให้ใช้ความเร็วน้อยลง หากเป็นเขตเมืองควรขับที่ 60 กม./ชม. และนอกเขตเมือง 90 กม./ชม. ซึ่งการขับด้วยความเร็วดังกล่าวหากเกิดอุบัติเหตุจะสามารถช่วยลดการบาดเจ็บ ตาย และพิการได้เกินครึ่ง และผลต่างการใช้ความเร็วในนอกเขตเมืองขับความเร็วที่ 90 กม./ชม. กับ 120 กม./ชม.ในระยะทาง 30 กม.เท่ากัน จะถึงที่หมายต่างกันเพียง 5 นาทีเท่านั้น แต่มีโอกาสรอดชีวิตสูง 3-4 เท่าของการเกิดอุบัติเหตุ
นายอรรถ เหมวิจิตรพันธ์ รองประธานกรรมการดูแลงานรัฐกิจสัมพันธ์และการพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าว่า บริษัทได้เห็นความสำคัญต่อการสร้างความปลอดภัยทางถนน จึงได้ร่วมกับ สคอ.จัดทำแคมเปญ “เดินทางปลอดภัย เชลล์ให้คุณอุ่นใจตลอดเทศกาล” เพื่อป้องกัน และลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยบริการ และข้อเสนอที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้แก่รถ ตลอดจนดูแลผู้ใช้รถให้เกิดความอุ่นใจตลอดการเดินทาง ชวนให้แวะพักปั๊ม ผ่อนคลายลดเหนื่อยล้า และง่วง ทั้งนี้ เชลล์จะมอบฟรีประกันอุบัติเหตุ 10 วัน เมื่อเติมน้ำมันเชลล์ชนิดใดก็ได้ครบ 500 บาทขึ้นไป สามารถเลือกระยะเวลาคุ้มครองได้เอง ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2559 นอกจากนี้ ยังจัดบริการตรวจเช็กสภาพรถฟรี 10 รายการ มีบริการเครื่องดื่มฟรี ณ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ามันเครื่องน้ามันเครื่องกว่า 350 สาขาทั่วประเทศ และบนถนนสายหลักกว่า 34 แห่ง
น.ส.จันทิมา เลียวศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีความตั้งใจในการผลิตผลงานภาพยนตร์ “11-12-13 รักกันจะตาย” โดยจะให้ทั้งความบันเทิง สอดแทรกแนวคิดที่ผู้ชมสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และสังคม ทางบริษัทฯ และ สคอ.มุ่งหวังให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นสิ่งสะท้อนให้ประชนเกิดความตระหนัก และมีจิตสำนึกความปลอดภัย ไม่ขับเร็ว ไม่ดื่ม ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตแทบทั้งสิ้น
นายสราวุธ วิเชียรสาร ผู้กำกับภาพยนตร์ได้กล่าวถึงแนวคิดของภาพยนตร์ ว่า มีจุดเริ่มต้นมาจากเพื่อนคนหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุแล้วเสียชีวิต จึงทำให้ย้อนคิดถึงข่าวมีคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ หรือสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่เดินทางกลับบ้าน กลับไปหาครอบครัว เป็นช่วงเวลาสนุก มีความสุข แต่การเกิดอุบัติเหตุ การเสียชีวิตเป็นเรื่องร้ายๆ ของชีวิต และถ้าในอุบัติเหตุนั้นมีผู้เกี่ยวข้องที่ไม่ใช่ญาติ หรือคนรู้จักกันเลย ก็คิดถึงว่าคนที่ยังอยู่เขาจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป จึงอยากให้ข้อคิดเพื่อเตือนสติการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัยถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้ นำแสดงโดย เวียร์ ศุกลวัฒน์, ยิปโซ อริย์กันตา, บุ๊คโกะ-ธนัชพันธ์, ดาต้า ดรัลชรัส เจสซี่ เมฆวัฒนา, เบสท์ ณัฐสิทธิ์, ยศ ณัฎฐ์ศรุต และเอ็ม เกียรติศักดิ์ กำหนดเข้าฉายวันที่ 31 มีนาคม 2559 นี้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่