สธ. เปิดวอร์รูมแจ้งประสานงานอุบัติเหตุปีใหม่ 24 ชั่วโมง สั่ง รพ. ทั่วประเทศ เตรียมพร้อมผ่าน 1669 เน้นตั้งด่านชุมชนสกัดก่อนเกิดเหตุ บังคับใช้ กม. ควบคุมเหล้า สพฉ. ขออย่า โทร. ป่วนสายด่วน
วันนี้ (22 ธ.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าว “ความร่วมมือในการพัฒนาระบบข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนแบบบูรณาการ 3 หน่วยงาน และความพร้อมการป้องกันการบาดเจ็บจากการจราจรของกระทรวงสาธารณสุข ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559” ว่า ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) รายงานว่า ปีใหม่ 2558 มีอุบัติเหตุ 2,997 ครั้ง เสียชีวิต 341 ราย ผู้บาดเจ็บนอนรักษาในโรงพยาบาล 3,117 คน สูงสุดคือ วันที่ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค. รวม 131 คน และนอนรักษาในโรงพยาบาล 1,266 คน สาเหตุเกิดจากการขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และดื่มแล้วขับ จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบวัยรุ่น 15 - 19 ปี ดื่มแล้วขับขี่จักรยานยนต์ และมักเกิดอุบัติเหตุบนถนนในชุมชน อบต./หมู่บ้านมากที่สุด ดังนั้น เทศกาลปีใหม่ 2559 ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2558 - 4 ม.ค. 2559 สธ. จึงได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข รับแจ้งเหตุการณ์ ประสานงาน ตลอด 24 ชั่วโมง และสั่งให้โรงพยาบาลทั่วประเทศเตรียมพร้อมหน่วยการแพทย์ฉุกเฉิน ผ่านศูนย์สั่งการ 1669 จัดหน่วยแพทย์ฉุกเฉินประจำจุดเสี่ยงตามความเหมาะสม
นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนการรักษา ได้สั่งการให้เตรียมบุคลากรทางการแพทย์ เตรียมห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด เลือด ออกซิเจน ยาเวชภัณฑ์และรถพยาบาลฉุกเฉิน ประสานการส่งต่อระหว่างโรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการป้องกันได้ให้ทุกจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขจุดเสี่ยงในล่าสุดจะมีจุดเสี่ยงไม่น้อยกว่า 300 จุด และเน้นมาตรการตั้งด่านชุมชนที่มีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ร่วมด้วย พร้อมกันนี้ ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรค เข้มข้นการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะห้ามขายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามขายในช่วงเวลาและสถานที่ห้ามขาย เช่น ปั๊มน้ำมัน สวนสาธารณะ เป็นต้น
“ที่จริงกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุตลอดทั้งปี โดยตั้งเป้าลดการเสียชีวิตจากการจราจรไม่เกิน 16 ต่อประชากรแสนคน และลดอัตราการเสียชีวิตภายในปี 2563 เหลือเพียง 10,000 คน จากปี 2554 มีอัตราผู้เสียชีวิต 20,000 คน และต้องเน้นการเฝ้าระวังในช่วงเทศกาลหยุดยาวซึ่งมีการเดินทางค่อนข้างมาก” นพ.โสภณ เมฆธน กล่าว
นพ.สุวรรณชัย เจริญยิ่งวัฒนาชัย รองปลัด สธ. กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือจากประชาชนในการให้ทางแก่รถพยาบาลฉุกเฉินด้วย จากข้อมูลการวิเคราะห์จุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุพบว่าถนนพหลโยธิน -สระบุรี ในพื้นที่ยูเทิร์น ถนนมิตรภาพช่วงโคราช ผ่านสระบุรีไปแล้วส่วนใหญ่เป็นทางขึ้นเขาลงเขา ทำให้รถบรรทุกใช้ความเร็วไม่ได้ ประกอบกับมีบางช่วงที่รถบรรทุกชอบจอดทิ้งขึงได้ประสานขอความร่วมมือไม่ให้มีการจอดตามรายทาง และแถวลำตะคอง ซึ่งมีอุบัติเหตุบ่อย บางครั้งเกิดอุบัติเหตุมากถึง 20-30 คัน นอกจากนี้ยังมีช่วงร้านอาหารตามรายทางแถวเขาใหญ่ที่กั้นไม่ให้มีการกลับรถทั้ง ๆ ที่เป็นจุดกลับรถตามกฎหมาย
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน กล่าวว่า ขอความร่วมมือจากประชาชนหากไม่มีเหตุจำเป็นอย่า โทร. เข้ามาที่สายด่วน 1669 เพราะทำให้คนที่เดือดร้อนจริง ๆ โทร. ไม่ติด ซึ่งที่ผ่านมา พบว่า มีปัญหามาก มีคน โทร. ผิด โทร. ป่วนกว่า 2,000 สาย ตรงนี้จะมีการสืบค้นข้อมูลการโทร. เพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไปในข้อหาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่
ด้าน นายนพดล สันติภากรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด กล่าวว่า นอกจากจะเน้นเรื่องเมาแล้วขับแล้ว ต้องกันมาเอาจริงเอาจังกับการขับรถเร็วด้วย เพราะถ้าคำนวณจากการขับรถเร็ว 120 กม./ชม. จะพบว่าภายใน 1 วินาทีสามารถขับรถไปได้ไกลถึง 33.33 เมตร ดังนั้น ถ้าเผลอหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือเพียงไม่นานก็มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมาก ยิ่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์การตัดสินใจจะช้าลงไป 3 - 4 วินาที เท่ากับระยะทางไกลไปถึง 100 กว่าเมตรแล้ว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (22 ธ.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าว “ความร่วมมือในการพัฒนาระบบข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนแบบบูรณาการ 3 หน่วยงาน และความพร้อมการป้องกันการบาดเจ็บจากการจราจรของกระทรวงสาธารณสุข ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559” ว่า ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) รายงานว่า ปีใหม่ 2558 มีอุบัติเหตุ 2,997 ครั้ง เสียชีวิต 341 ราย ผู้บาดเจ็บนอนรักษาในโรงพยาบาล 3,117 คน สูงสุดคือ วันที่ 31 ธ.ค. และ 1 ม.ค. รวม 131 คน และนอนรักษาในโรงพยาบาล 1,266 คน สาเหตุเกิดจากการขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย และดื่มแล้วขับ จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบวัยรุ่น 15 - 19 ปี ดื่มแล้วขับขี่จักรยานยนต์ และมักเกิดอุบัติเหตุบนถนนในชุมชน อบต./หมู่บ้านมากที่สุด ดังนั้น เทศกาลปีใหม่ 2559 ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2558 - 4 ม.ค. 2559 สธ. จึงได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข รับแจ้งเหตุการณ์ ประสานงาน ตลอด 24 ชั่วโมง และสั่งให้โรงพยาบาลทั่วประเทศเตรียมพร้อมหน่วยการแพทย์ฉุกเฉิน ผ่านศูนย์สั่งการ 1669 จัดหน่วยแพทย์ฉุกเฉินประจำจุดเสี่ยงตามความเหมาะสม
นพ.โสภณ กล่าวว่า ส่วนการรักษา ได้สั่งการให้เตรียมบุคลากรทางการแพทย์ เตรียมห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด เลือด ออกซิเจน ยาเวชภัณฑ์และรถพยาบาลฉุกเฉิน ประสานการส่งต่อระหว่างโรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการป้องกันได้ให้ทุกจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขจุดเสี่ยงในล่าสุดจะมีจุดเสี่ยงไม่น้อยกว่า 300 จุด และเน้นมาตรการตั้งด่านชุมชนที่มีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ร่วมด้วย พร้อมกันนี้ ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรค เข้มข้นการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะห้ามขายสุราให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามขายในช่วงเวลาและสถานที่ห้ามขาย เช่น ปั๊มน้ำมัน สวนสาธารณะ เป็นต้น
“ที่จริงกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุตลอดทั้งปี โดยตั้งเป้าลดการเสียชีวิตจากการจราจรไม่เกิน 16 ต่อประชากรแสนคน และลดอัตราการเสียชีวิตภายในปี 2563 เหลือเพียง 10,000 คน จากปี 2554 มีอัตราผู้เสียชีวิต 20,000 คน และต้องเน้นการเฝ้าระวังในช่วงเทศกาลหยุดยาวซึ่งมีการเดินทางค่อนข้างมาก” นพ.โสภณ เมฆธน กล่าว
นพ.สุวรรณชัย เจริญยิ่งวัฒนาชัย รองปลัด สธ. กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือจากประชาชนในการให้ทางแก่รถพยาบาลฉุกเฉินด้วย จากข้อมูลการวิเคราะห์จุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุพบว่าถนนพหลโยธิน -สระบุรี ในพื้นที่ยูเทิร์น ถนนมิตรภาพช่วงโคราช ผ่านสระบุรีไปแล้วส่วนใหญ่เป็นทางขึ้นเขาลงเขา ทำให้รถบรรทุกใช้ความเร็วไม่ได้ ประกอบกับมีบางช่วงที่รถบรรทุกชอบจอดทิ้งขึงได้ประสานขอความร่วมมือไม่ให้มีการจอดตามรายทาง และแถวลำตะคอง ซึ่งมีอุบัติเหตุบ่อย บางครั้งเกิดอุบัติเหตุมากถึง 20-30 คัน นอกจากนี้ยังมีช่วงร้านอาหารตามรายทางแถวเขาใหญ่ที่กั้นไม่ให้มีการกลับรถทั้ง ๆ ที่เป็นจุดกลับรถตามกฎหมาย
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน กล่าวว่า ขอความร่วมมือจากประชาชนหากไม่มีเหตุจำเป็นอย่า โทร. เข้ามาที่สายด่วน 1669 เพราะทำให้คนที่เดือดร้อนจริง ๆ โทร. ไม่ติด ซึ่งที่ผ่านมา พบว่า มีปัญหามาก มีคน โทร. ผิด โทร. ป่วนกว่า 2,000 สาย ตรงนี้จะมีการสืบค้นข้อมูลการโทร. เพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไปในข้อหาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่
ด้าน นายนพดล สันติภากรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด กล่าวว่า นอกจากจะเน้นเรื่องเมาแล้วขับแล้ว ต้องกันมาเอาจริงเอาจังกับการขับรถเร็วด้วย เพราะถ้าคำนวณจากการขับรถเร็ว 120 กม./ชม. จะพบว่าภายใน 1 วินาทีสามารถขับรถไปได้ไกลถึง 33.33 เมตร ดังนั้น ถ้าเผลอหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือเพียงไม่นานก็มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมาก ยิ่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์การตัดสินใจจะช้าลงไป 3 - 4 วินาที เท่ากับระยะทางไกลไปถึง 100 กว่าเมตรแล้ว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่