สธ. สั่งทุกจังหวัดเปิดวอร์รูมหมอกควัน ติดตาม - ช่วยเหลือผู้รับผลกระทบ พร้อมจัดส่งหน้ากากอนามัย 350,000 ชิ้น ให้ 10 จังหวัด สำรองส่วนกลางอีก 630,000 ชิ้น กำชับสถานพยาบาลจัดเตรียมยา เวชภัณฑ์ พร้อมบริการ 24 ชั่วโมง แนะ 4 กลุ่มเสี่ยงเลี่ยงออกนอกบ้าน
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันว่า มี 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง พะเยา น่าน ตาก เชียงใหม่ และแพร่ มีค่าเฉลี่ยหมอกควันเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดเปิดศูนย์ปฏิบัติการฯ กรณีหมอกควัน เพื่อติดตามและร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบหมอกควัน รวมทั้งกำชับให้ความรู้คำแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน ที่น่าเป็นห่วงคือ 4 กลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบง่ายกว่าคนทั่วไป คือ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ ขอให้หลีกเลี่ยงออกนอกบ้าน งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้สำรองหน้ากากอนามัยไว้ ทั้งหมด 980,000 ชิ้น และในวันนี้ได้จัดส่งหน้ากากอนามัยให้ 8 จังหวัดภาคเหนือ จ.ราชบุรี และ จ.เพชรบุรี รวม 350,000 ชิ้น สำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 630,000 ชิ้น พร้อมให้สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ เตรียมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้บริการผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง ภาพรวมผลกระทบด้านสุขภาพยังไม่พบประชาชนมีอาการรุนแรง พบป่วยใน 4 กลุ่มโรค คือ ตาอักเสบ ผิวหนังอักเสบ โรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด เข้ารับรักษา ให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวัง และให้คำแนะนำประชาชนอย่างต่อเนื่อง ผ่านอาสาสมัครสาธารณสุข และสื่อต่าง ๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ท้องถิ่น
สำหรับการป้องกันผลกระทบสุขภาพจากหมอกควัน ขอให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1. ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด เพื่อลดความเสี่ยงการสัมผัสหมอกควัน 2. ควรทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอเพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง 3. สวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ปิดปากและจมูกและเปลี่ยนทุกวัน 4. งดการทำกิจกรรมกลางแจ้งชั่วคราว เช่น ออกกำลังกาย เดินเล่น หรือทำงานหนัก หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แสบตา ระคายคอ กรณีของหญิงตั้งครรภ์หากลูกในครรภ์ไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยลง ให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรแจ้งที่หมายเลย 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควันว่า มี 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง พะเยา น่าน ตาก เชียงใหม่ และแพร่ มีค่าเฉลี่ยหมอกควันเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดเปิดศูนย์ปฏิบัติการฯ กรณีหมอกควัน เพื่อติดตามและร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบหมอกควัน รวมทั้งกำชับให้ความรู้คำแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน ที่น่าเป็นห่วงคือ 4 กลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบง่ายกว่าคนทั่วไป คือ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ ขอให้หลีกเลี่ยงออกนอกบ้าน งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้สำรองหน้ากากอนามัยไว้ ทั้งหมด 980,000 ชิ้น และในวันนี้ได้จัดส่งหน้ากากอนามัยให้ 8 จังหวัดภาคเหนือ จ.ราชบุรี และ จ.เพชรบุรี รวม 350,000 ชิ้น สำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 630,000 ชิ้น พร้อมให้สถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ เตรียมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้บริการผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง ภาพรวมผลกระทบด้านสุขภาพยังไม่พบประชาชนมีอาการรุนแรง พบป่วยใน 4 กลุ่มโรค คือ ตาอักเสบ ผิวหนังอักเสบ โรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด เข้ารับรักษา ให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวัง และให้คำแนะนำประชาชนอย่างต่อเนื่อง ผ่านอาสาสมัครสาธารณสุข และสื่อต่าง ๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ท้องถิ่น
สำหรับการป้องกันผลกระทบสุขภาพจากหมอกควัน ขอให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้ 1. ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด เพื่อลดความเสี่ยงการสัมผัสหมอกควัน 2. ควรทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอเพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง 3. สวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ปิดปากและจมูกและเปลี่ยนทุกวัน 4. งดการทำกิจกรรมกลางแจ้งชั่วคราว เช่น ออกกำลังกาย เดินเล่น หรือทำงานหนัก หากมีอาการผิดปกติ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม แสบตา ระคายคอ กรณีของหญิงตั้งครรภ์หากลูกในครรภ์ไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยลง ให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรแจ้งที่หมายเลย 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่