เคลียร์ปมขัดแย้ง “พระปฐมเจดีย์” ขึ้นมรดกโลก เผย ชาวบ้านได้ประโยชน์มากกว่าเสีย เล็งใช้พื้นที่เรือนจำสร้างพิพิธภัณฑ์เก็บโบราณวัตถุ “ทวารวดี”
วันนี้ (7 มี.ค.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวภายหลังการประชุมจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์แห่งใหม่ ว่า จากการประชุมร่วมกับ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วย นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และ พระพรหมเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร มีความคิดเห็นทิศทางเดียวกันว่า จ.นครปฐม มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนา ที่เจริญรุ่งเรือง 1,200 - 1,300 ปี ทั้งสถาปัตยกรรม และโบราณวัตถุสมัยทวารวดี โดยเฉพาะองค์พระปฐมเจดีย์ จึงมีแนวคิดจะนำเสนอไปสู่การขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยพิจารณาความโดดเด่นด้านคุณลักษณะ สถาปัตยกรรม อารยธรรม ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนมอบให้กรมศิลปากรร่วมกับจังหวัดไปศึกษารายละเอียดและจัดทำข้อมูลแล้ว
นายวีระ กล่าวว่า ที่ผ่านมา แนวคิดการนำเสนอพระปฐมเจดีย์สู่มรดกโลกจะมีข้อขัดแย้งกับประชาชนในพื้นที่โดยบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย ถ้าหากเข้าสู่ขั้นตอนการนำเสนอแล้ว พื้นที่ค้าขาย การก่อสร้างอาคาร ตลอดจนที่อยู่อาศัยบางส่วนจะต้องถูกจำกัดด้วยการบริหารจัดการใหม่ จึงขอชี้แจงว่า การขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้นไม่ได้หมายความว่าจะไปสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เป็นเพียงการจัดระเบียบพื้นที่ใหม่เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยเท่านั้น จึงกำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการสร้างความเข้าใจกับประชาชน เพราะการเป็นแหล่งมรดกโลก ประชาชนจะได้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
นายวีระ กล่าวว่า ส่วนการหารือการย้ายพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระปฐมเจดีย์ไปจัดสร้างในพื้นที่เรือนจำกลางจ.นครปฐมหลังเก่า นั้น ขณะนี้ได้มอบให้กรมศิลปากรออกแบบแล้ว ซึ่งจะเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวมโบราณวัตถุสมัยทวารวดีที่ยิ่งใหญ่ มีความทันสมัยที่สุดในประเทศ โดยจะใช้งบประมาณปี 2561 คาดว่า จะใช้เวลาสร้าง 4 ปี อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้มอบให้กรมศิลปากร ปรับปรุงพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ติดแอร์ การจัดทำป้ายให้ความรู้ ทำคิวอาร์โค้ด และประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยว ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมขานรับจะประสานสถานศึกษาให้พาเด็กและเยาวชน มาศึกษาประวัติศาสตร์ด้วย
ด้าน พระพรหมเวที กล่าวว่า เสนอ วธ.และผู้ว่าฯ สนับสนุนการจัดสร้างอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 4, 5 และรัชกาลที่ 6 เพื่อเทิดพระเกียรติและยกย่องบูรพกษัตริย์ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ และมีพระราชศรัทธาต่อองค์พระปฐมเจดีย์ อีกทั้งยังสร้างศรัทธาให้คนในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ทางวัดยินดีสนับสนุนการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพียงแต่ให้ทางจังหวัดหารือกับทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง และหลังจากที่กรมศิลปากรทำการย้ายโบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์เสร็จสิ้นแล้ว ทางวัดจะขอใช้พื้นที่เป็นสำนักงานการศึกษาบาลีของพระสงฆ์และสามเณรต่อไป