xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องวุ่นวายของเด็กที่อิจฉาโทรศัพท์มือถือ / ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากรอยเตอร์
จริงหรือที่เด็ก ๆ จะมีความรู้สึกน้อยใจมาก และรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่สนใจ เมื่อเวลาคุณพ่อคุณแม่สนใจในการส่งข้อความหรือตอบอีเมล์มากกว่าที่จะให้ความสนใจต่อพวกเขา

เราคงเคยเห็นภาพเด็ก ๆ ร้องไห้ที่ส่งมาในไลน์หรืออีเมลต่อ ๆ กันมาว่า เด็กเกิดความไม่พอใจเมื่อเวลาคุณพ่อคุณแม่ให้ความสนใจกับสื่อเทคโนโลยีมากกว่าตัวของพวกเขา

“ประเดี๋ยวเดียวนะลูกอีกข้อความเดียว”

คุณพ่อคุณแม่อาจใช้คำพูดนี้บ่อย ๆ ผู้ปกครองหลายท่านกำลังพูดโทรศัพท์มือถือหรือโต้ตอบอีเมล์ในขณะที่ลูกกำลังยืนกรานในการเรียกร้องความสนใจ

จากการวิจัยล่าสุดค้นพบว่า เด็ก ๆ จะรู้สึกน้อยใจและรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง เมื่อเวลาผู้ปกครองให้ความสนใจต่อเทคโนโลยีรอบตัวมากกว่าตัวเขา

ความรู้สึกอิจฉา

หนังสือนิวยอร์กไทม์ได้กล่าวถึง งานวิจัยของเชอรี่ เทอเคอร์ ผู้อำนวยการสถาบันแมสซาซูเซตส์และเทคโนโลยี ซึ่งทำการวิจัยถึงเครื่องมือเทคโนโลยีที่ผู้ปกครองใช้ว่าส่งผลต่อเด็กและวัยรุ่นอย่างไร โดยใช้เวลาในการเก็บข้อมูลถึง 5 ปี การวิจัยนี้ใช้วิธีสัมภาษณ์คน 300 คน พบว่า ทั้งเด็กและวัยรุ่นมีความอิจฉา น้อยใจ และแข่งขันเปรียบเทียบกับผู้อื่น เมื่อพ่อแม่ใช้เวลากับสื่อเทคโนโลยีมากกว่าลูก อย่างมีนัยสำคัญ

ในการศึกษาของงานวิจัยนี้ กล่าวว่า เด็ก ๆ จะมีความรู้สึกน้อยใจซ้ำแล้วซ้ำอีก ความรู้สึกอิจฉาและเปรียบเทียบตัวเองกับบุคคลอื่นจะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ผู้ปกครองกำลังให้ความสนใจในเครื่องมือกลไกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในขณะมารับที่โรงเรียน หรือขณะที่ลูกทำกิจกรรมพิเศษ หรือในงานกีฬาต่าง ๆ เป็นต้น ส่วนตัวผู้ปกครองเองก็รู้สึกกดดันที่ต้องทำงานแข่งขันกับเวลา ต้องทันสมัยทันโลกทันเหตุการณ์ ทำให้มีความรู้สึกว่าต้องตรวจสอบข้อความที่ส่งมาเสมอ ๆ เหมือนกับการเสพติดคือต้องกลับไปอยู่กับจอภาพของสื่อเทคโนโลยีต่างๆอยู่ตลอดเวลา

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวลูก

ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อเทคโนโลยีกับเด็ก เชื่อว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการใช้เวลาที่มีคุณภาพกับลูก “เด็ก ๆ ต้องการสิ่งนี้เป็นพื้นฐานสำคัญชีวิต นั่นคือการได้เป็นที่ยอมรับจากผู้ที่ใกล้ชิด ว่าสนใจ เอาใจใส่เขาอยู่ ในวันที่พวกเขาต้องเผชิญกับวันที่ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน กับเพื่อน ๆ หรือการเรียนต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้น การใช้เวลาที่มีคุณภาพกับลูกทุกนาทีเป็นสิ่งสำคัญ” หลังจากวันที่แสนจะยาวนานในการเรียนแต่ละวัน เด็กๆต้องการได้รับความสนใจและการเอาใจใส่จากคุณพ่อคุณแม่เต็มร้อย ไม่ใช่ผู้ปกครองที่จดจ่ออยู่กับสมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา

นักวิจัยยังกล่าวเสริมด้วยว่าการเป็นตัวอย่างที่ดีกับลูกเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเรากำลังสร้างลูกให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต มากยิ่งกว่านั้นหากผู้ปกครองถูกครอบงำโดนเครื่องมือสื่อสารอาจผิดพลาด และเข้าใจผิดในสิ่งที่ลูกกำลังสื่อสาร สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น ก็คือ เด็กจะสิ่งรู้สึกว้าเหว่ และต้องการหาที่พึ่งมากขึ้นไปอีก

ดังนั้น ผู้ปกครองควรให้ความระมัดระวังในการใช้เครื่องมือสื่อสารต่อหน้าลูก และควรพิจารณาว่า เวลาใดเป็นเวลาที่เหมาะสมในการใช้สมาร์ทโฟน เวลาอยู่กับลูกควรเป็นเวลาที่เราควรส่งข้อความสั้น ๆเท่านั้น หรือบางทีก็ปิดสมาร์ทโฟนไปเลย

ในสมัยก่อนเราคงจำได้ว่า แม้ว่าเราไม่มีสื่อเทคโนโลยีต่าง ๆนี้ เรายังคงอยู่ได้และทุกคนในครอบครัวก็มีความสุขมากกว่าสมัยนี้อีกด้วย เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอค่ะ

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น