xs
xsm
sm
md
lg

ใช้ชีวิตสุ่มเสี่ยง ระวัง “มะเร็ง-เบาหวาน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“มะเร็ง -เบาหวาน” ดัชนีชี้วัดคนไทยเป็นสูง เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สุ่มเสี่ยง ทั้งนี้ องค์กรเอกชนจับมือสร้างสังคมสุขภาพดี เตรียมจัดกิจกรรม พุทธ - สมาธิ - ธรรมะ บริหารใจสู้มะเร็ง 5 มีนาคมนี้

ปัจจุบันสถิติของบุคคลที่เป็นโรคมะเร็ง และเบาหวานนั้น ถือว่ามีสูงในอัตราเฉลี่ยที่มีดัชนีชี้วัดได้ และถือว่ามีสถิติที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุน้อยลงทุกวัน ไม่จำกัดอยู่แค่ผู้สูงอายุเท่านั้น โรคทั้งสองชนิดนี้มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเราในปัจจุบัน ที่ก่อให้เกิดทั้งสองโรคดังกล่าว ถือเป็นอันดับต้น ๆ ของโรคภัยทั้งหมดที่เกิดขึ้น

งานเสวนา “พี่มะเร็ง - น้องเบาหวาน อยู่ได้ หายได้ ด้วยใจเป็นสุข” โดยความร่วมมือของสององค์กรสุขภาพ บ.เฟยดา จำกัด ซึ่งควบคุมการบริหารงาน โดย คุณภาวนา จู้ กรรมการผู้จัดการ (ประเทศไทย ) และชมรมฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง ที่จัดขึ้น ณ อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี ซ.ศูนย์วิจัย เมื่อเร็ว ๆ นี้ ต่างมองเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ และต่างมุ่งมั่นที่จะจัดกิจกรรมดี ๆ เพื่อตอบแทนคุณของผู้มีอุปการะคุณ ด้วยการมอบข้อมูลทางสุขภาพที่ดีให้กลับไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ ได้วิทยากรทางการแพทย์ นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล แพทย์ประจำสาธารณสุข 14 ที่ผ่านการคลุกคลีกับผู้ป่วย มะเร็งและ เบาหวาน มาร่วมให้ข้อมูลความรู้กับผู้ร่วมงาน ที่ต่างเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพและลงทะเบียนร่วมงานกว่าร้อยท่าน ถือว่าเป็นการสร้างรอยยิ้มและให้ข้อมูลที่ดีกับบุคคลทั่วไปได้เป็นอย่างดี

นพ.สิทธา ได้กล่าวถึงประเด็นของโรคมะเร็งในงานเสวนาที่มีสถิติการเป็นของคนไทยในปัจจุบัน ว่า สาเหตุที่คนเราปัจจุบันมีอาการของโรคดังกล่าวสูง ไม่เพียงแค่บุคคลที่พื้นฐานทางพันธุกรรมเป็นเท่านั้น แต่บุคคลที่มีสุขภาพทางครอบครัวที่ดี ปลอดจากการเป็นโรคดังกล่าวไม่มีกรรมพันธุ์ที่เป็นโรคดังกล่าว ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคดังกล่าวได้ ถ้าไม่ดูแลตัวเองและยังคงใช้ชีวิตแบบไม่ระวัง เพราะปัจจุบันนั้น อาหารที่เราทานทุกวันนั้นมีอัตราเสี่ยงสูง ที่ทำให้เกิดมะเร็ง อาทิ อาหารปิ้งย่าง อาหารทอดที่มีน้ำมันใช้ซ้ำ หรือการใช้ชีวิตทางด้านอื่น ๆ ที่ส่อและเสี่ยงให้เกิดโรคดังกล่าว

อีกทั้งความเครียดกับปัญหาการดำเนินชีวิตที่ส่งเสริมให้เกิดสภาวะทางอารมณ์ไม่สมดุลและส่งผลเสียทางร่างกายคืออีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผล หรือ การใช้ชีวิตที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ในยุคนี้เราอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งมลพิษ สารเคมีปนเปื้อนต่าง ๆ อาทิ สารที่ส่งเสริมเรื่องความสวยงามด้วยค่านิยมอยากขาว สารพิษจากอาหาร และอื่น ๆ ที่เราต่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดและสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งทั้งสิ้น และถ้าเราไม่ระวังในการใช้ชีวิต เพราะปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะใช้ชีวิตที่สุ่มเสี่ยง และขาดการคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ โดยมีพฤติกรรมดังนี้ เช่น ปาร์ตี้หนัก ทานดึก ดื่มสุรา ทานของหมักของดอง ที่เราเรียกว่า อาการ ตามใจปาก ตามใจอารมณ์มากไป และอื่น ๆ ที่มาจากสาเหตุของการใช้ชีวิตทั้งสิ้น ซึ่งระยะเวลาไม่นานไม่เพียงแต่โรคมะเร็ง แต่อาจจะเกิดโรคอื่นๆตามมาอีกมาก หรือเกิดอาการที่ว่า “ร่างกายสุมโรค” นั่นเอง” 

นพ.สิทธา กล่าวอีกว่า ทั้งหมดนี้รวมถึงการใช้ชีวิตที่ไม่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะระบบขับถ่าย ทำให้มีอาการท้องผูกเรื้อรัง ส่งผลให้มีสถิติสูงทำให้เกิดโรคมะเร็ง ลำไส้ และถือว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของชนิดของมะเร็งต่าง ๆ” อีกด้วย และควรจะดูแลตัวเองอย่างไร โดยเฉพาะทางหลักการแพทย์แผนจีนนั้น และแผนปัจจุบันนั้นต่างลงความเห็นที่ตรงกันว่า ผู้ป่วยเองต้องเริ่มที่ใจเป็นหลัก ต้องเชื่อมั่นและเข้มแข็งกับแนวทางการรักษา และแพทย์ ซึ่งถือว่าเป็นการทำงานการรักษาร่วมกันทั้งผู้ป่วยและแพทย์ การหาข้อมูลเป็นเรื่องที่ดีเพื่อให้เรามีทางเลือกในการรักษาแต่ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของการพิจารณาของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะส่งผลให้การรักษาเป็นไปตามแนวทางที่วางและส่งผลดี ประกอบกับการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยที่ว่า “ไม่ทำร้ายตัวเอง” โดยการดูแลพฤติกรรมการใช้ชีวิต เชื่อและสร้างสามัญสำนึกของตัวเองไว้ในจิตสำนึกเสมอว่า” เราจะต้องมีสุขภาพที่ดี

นพ.สิทธา กล่าวถึงโรคเบาหวานถือว่ามีสถิติคนที่เป็นสูงไม่แพ้โรคอื่น และยังเป็นโรคที่ส่งผลเสียกับการดำเนินชีวิตด้านต่าง ๆ เมื่อเป็นในระยะที่มากขึ้น ซึ่งเบาหวานนั้นมีอัตราผู้ป่วยสูง แต่ก็สามารถที่จะรักษาได้และหายขาด หรือควบคุมได้เพื่อไม่ให้มีอาการแทรกซ้อน การป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นนั้นทำไม่ยากบางครั้งถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายแต่หลายคนอาจมองข้าม โดยพฤติกรรมการทาน ด้วยสาเหตุที่เมืองไทยนั้น เป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพรรณธัญญาหาร เรามีอาหารคาว หวาน ให้เลือกทาน รวมถึงผลไม้ที่มักจะมีรสหวานจับใจ และโดยพฤติกรรมของคนไทยนั้น จัดเป็นประเภทของชนชาติที่ ติดใจในรสชาดิของอาหารที่จัดจ้าน ประเภทหวานจัด เค็มจัด รวมถึงการใช้ชีวิตที่สนุกสนานกับการปาร์ตี้ ด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่มากมาย จนขาดสติและมักจะละเลยการคิดคำนึงถึงเรื่องของสุขภาพ ทำให้ก่อเกิดโรคดังกล่าว และบางท่านอาจจะมีพื้นฐานทางครอบครัวที่เป็นโรคเบาหวานนั้นก็ยิ่งสุ่มเสี่ยงมากขึ้น ถึงแม้ว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จะไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดของโรคดังกล่าว เพราะเบาหวานนั้นยังมีเหตุและผลอื่น ๆ ที่ทำให้เกิด แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า โดยส่วนใหญ่ของผู้ป่วยเบาหวานมาจากพฤติกรรมการทานมากที่สุด

นพ.สิทธา กล่าวว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่มีสาเหตุของการรักษาที่ไม่หาย เพราะมาจากการขาดวินัยในการดูแลตัวเอง และมีพฤติกรรมเรียกว่า “ตามใจปาก” ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ซ้ำเติมร่างกายตัวเองมากที่สุด และมักไม่ค่อยชอบที่จะพูดความจริงกับแพทย์เพราะแอบมีพฤติกรรมที่ทำร้ายตัวเอง ทั้งนี้ถึงแม้จะมีข้อมูลทางการรักษาที่ดี แต่ขาดซึ่งวินัยในการรักษาตัว ขาดวินัยในการใช้ชีวิตนั้นก็ไม่ส่งผลดีกับการรักษา หรือการป้องกัน หรืออีกหนึ่งประเภท หนึ่งพฤติกรรม คือ ประเภททานแล้วนอน ขาดการออกกำลังกายนี่คือ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคและไม่เพียงแค่โรคเบาหวานที่กล่าวมาเท่านั้น ยังส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆตามมาอีกมากมาย

ทั้งนี้ วันที่ 5 มีนาคม จัดกิจกรรมดี ๆ เพื่อคืนความสุข และร่วมสร้างสังคมสุขภาพดี ด้วยกิจกรรม พุทธ - สมาธิ - ธรรมะ บริหารใจสู้มะเร็ง ที่สามารถลงทะเบียนร่วมงานโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ เบอร์ 087-6703254, 081-355-8736 หรือ www. Feidathai.com

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่




กำลังโหลดความคิดเห็น