xs
xsm
sm
md
lg

วาเลนไทน์ ครูหนุน นร.พก “ถุงยาง” กันป่อง-ติดโรค ปัดส่งเสริมมีเซ็กซ์ ต้องสอนไม่ “ชิงสุก” ร่วมด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ครู ชี้ นร. พกถุงยางอนามัย เป็นสิ่งจำเป็น ช่วยป้องกันโรค - ท้องก่อนวัย ปัดส่งเสริมมีเซ็กซ์ ต้องสอนห้ามชิงสุกก่อนห่าม พ่วงการวางตัวด้วย ย้ำ นร. ท้อง ห้ามไล่ออกจากโรงเรียน ตัดอนาคตเด็ก ต้องมีระบบรองรับให้เด็กเรียนจนจบ เลี้ยงตัวเอง ดูแลลูกได้ ไม่สร้างคนด้อยคุณภาพเพิ่ม

จากกรณีกรมควบคุมโรค (คร.) และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมผลักดันแผนยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 - 2562 โดยเฉพาะการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ถุงยางอนามัย ให้สามารถเข้าถึงสะดวก ใช้ถูกวิธี พกได้อย่างมั่นใจ เน้นกลุ่มประชากรวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งรวมถึงกลุ่มวัยรุ่นวัยเรียนที่พบปัญหาท้องไม่พร้อมเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางกระแสข่าวการเสียตัวช่วงเทศกาล อย่างวันวาเลนไทน์ที่ใกล้จะถึงนี้ แม้แต่ช่วงสงกรานต์ และลอยกระทง ก็มักเกิดเหตุได้บ่อย

นายนิคม พลทิพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมป่ากลาง อ.ปัว จ.น่าน กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า การสนับสนุนให้วัยเรียนพกถุงยางอนามัยได้อย่างมั่นใจ และไม่อายต่อสังคมนั้น เรื่องนี้มองได้ 2 ด้าน คือ ด้านการป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ในวัยเรียน ส่วนอีกมุมหนึ่งก็มองว่า อาจเป็นการส่งเสริม ซึ่งถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในสังคมไทย อย่างไรก็ตาม มองว่า การพกถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินถือเป็นสิ่งจำเป็น แต่ไม่ใช่ว่าส่งเสริมให้เด็กมีเพศสัมพันธ์กันก่อนวัย โดยโรงเรียนก็ต้องไม่ลืมสอนในเรื่องนี้ด้วย คือ ไม่ชิงสุกก่อนห่าม โดยสอนผู้หญิงให้รู้จักระมัดระวังตัวเอง แต่งตัวมิดชิด ไม่โป๊ ผู้ชายก็ต้องมีความเป็นสุภาพบุรุษ รู้จักให้เกียรติเพศหญิง เป็นต้น

นายนิคม กล่าวว่า โรงเรียนมัธยมป่ากลางมีชนเผ่าถึง 5 ชนเผ่า คือ ม้ง เมี่ยง ลัวะ ไทลื้อ และพื้นเมือง ซึ่งแต่ละชนเผ่าก็มีวัฒนธรรมที่ต่างกันไป อย่างอดีตคนในชนเผ่าอายุ 15 - 16 ปี ก็แต่งงานมีลูกกันแล้ว แต่ปัจจุบันเด็กชนเผ่าเข้ามาเรียนในโรงเรียน ก็ต้องสอนทำความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ เพราะเขามองว่าไม่ใช่เรื่องผิด อย่างช่วงเวลาปีใหม่ของม้ง ชายหนุ่มที่ถูกใจหญิงคนไหนก็จะไปฉุดมา แล้วค่อยไปขอแต่งงานตามประเพณี เป็นต้น ซึ่งหลังจากผู้นำชุมชนนำกฎหมายเข้ามาใช้ โรงเรียนมีการสอนเรื่องเพศศึกษาปัญหาก็ลดน้อยลงไป

ยอมรับว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีอยู่กรณีหนึ่งที่นักเรียนหญิงเผลอมีอะไรกับแฟนแล้วตั้งครรภ์ ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วโรงเรียนไม่ควรทอดทิ้งนักเรียน ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นว่าโรงเรียนมักจะให้เด็กลาออก เท่ากับเป็นการตัดอนาคตของเด็ก ซึ่งโรงเรียนไม่ควรทำเช่นนั้น อย่างกรณีนักเรียนของโรงเรียนตั้งครรภ์ก็ให้เด็กไปพักอยู่ที่ศูนย์พักในตัวจังหวัด แต่ไม่ได้ให้นักเรียนลาออก โดยครูจะนำตำรา เอกสารการสอนไปให้เด็กศึกษา และให้เด็กมาสอบวัดผล เพื่อให้เด็กมีวุฒิการศึกษา สามารถไปเรียนต่อสายอาชีพเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและลูกได้ เพราะหากเราตัดอนาคตการศึกษาของเด็กไป เด็กไม่มีความรู้ก็จะสอนลูกของตัวเองให้มีคุณภาพไม่ได้ สุดท้ายก็จะเกิดปัญหาสังคมตามขึ้นมาอีก” นายนิคม กล่าว

ด้านนายจักรกฤษณ์ อุปจักร์ อาจารย์โรงเรียนบ้านผักเฮือก อ.บ่อเกลือ จ.น่าน กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่ความรู้สึกของคนในสังคมว่าจะมองเช่นไร ว่า จะเป็นการป้องกันตัว หรือเป็นการส่งเสริม แต่การจะสนับสนุนการใช้ถุงยางอนามัยนั้น ควรมองบริบทของแต่ละพื้นที่มากกว่าว่าเป็นปัญหาหรือไม่ ที่สำคัญ ต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง เพราะหากสนับสนุนให้เด็กพกถุงยางอนามัย แต่พ่อแม่ไม่เข้าใจ เมื่อพบว่าลูกพกถุงยางอนามัยก็อาจเข้าใจผิดได้ ทั้งที่จริงแล้วลูกอาจยังไม่ได้มีอะไรเลย การแก้ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร การท้องในวัยเรียน หรือการไม่ใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ จะต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วนในชุมชน ทำความเข้าใจต่อปัญหา ซึ่งแต่ละชุมชนก็มีบริบทที่แตกต่างกันไป และหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันจะดีกว่า

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น