น้ำยางพาราไทยดีสุด ใช้ผลิตถุงยางอนามัย ถุงมือแพทย์ ปีละกว่า 65,000 ตัน อย. เผยกระตุ้นซื้อน้ำยางพาราต้องประสานบริษัทซัปพลายเออร์ พบขนาดเจ้าโลกชายไทยใหญ่ขึ้น นิยมใช้ถุงยางอนามัยจาก 49 เป็น 52 มม. กลิ่นสตรอเบอรี - ผิวขรุขระ ขายดีที่สุด ชี้กระตุ้นใช้ถุงยางอนามัยมีเซ็กซ์ปลอดภัย ช่วยแก้ปัญหายางพารา
นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงมาตรการเพิ่มการใช้ยางพาราของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ในส่วนของ อย. มีการดูแลคุณภาพการผลิตของถุงมือยางทางการแพทย์ ถุงยางอนามัย ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้เรียกผู้ประกอบการ คือ ผู้ผลิตถุงยางอนามัย 9 ราย ถุงมือยาง 20 ราย มาหารือเพื่อวางแผนส่งต่อให้รัฐบาลว่าจะสามารถเพิ่มการผลิตเพื่อช่วยเกษตรกรได้อย่างไรบ้าง ในส่วนของถุงยางอนามัย พบว่า ร้อยละ 80 - 90 นั้น ผลิตโดยใช้น้ำยางพาราในประเทศไทย มีเพียงร้อยละ 10 เท่านั้นที่นำเข้า ซึ่งยางพาราถือเป็นวัตถุดิบที่นำมาผลิตทั้งถุงยางและถุงมือได้ดีที่สุด และถือว่ามีต้นทุนถูกกว่ายางสังเคราะห์ โดยในแต่ละปีมีกำลังการผลิตโดยรวม 65,000 ตัน แบ่งเป็นถุงยางอนามัย 9,000 ตัน ถุงมือ 56,000 ตัน ซึ่งในส่วนของถุงมือยางนั้น ผู้ประกอบการได้แจ้งว่ายังสามารถเพิ่มการผลิตได้อีก 2 - 3 เท่า หากรัฐบาลสนับสนุนเงินกู้เพื่อนำมาปรับปรุงเครื่องจักร ประมาณ 15,000 ล้านบาท
นพ.บุญชัย กล่าวว่า สำหรับบริษัทผู้ผลิตทั้งถุงยางอนามัยและถุงมือ มีความต้องการวัตถุดิบเป็นน้ำยางพาราข้น ซึ่งผ่านการปรับปรุงคุณภาพแล้ว โดยจะมีบริษัทซัปพลายเออร์เป็นผู้รับซื้อจากเกษตรกร เพื่อนำมาผ่านกรรมวิธีปรับปรุงคุณภาพน้ำยางให้มีความเข้มข้นให้มาตรฐานตามที่โรงงานต้องการ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทซัปพลายเออร์อยู่แล้ว ต้องมีการหารือร่วมกันต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการกระตุ้นให้ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ เป็นหน้าที่ของกรมควบคุมโรคและกรมอนามัยที่จะวางนโยบาย เพื่อทำให้เกิดการใช้ถุงยางอนามัย 100% ต่อไป
นายนาวิน จังเจริญกุล ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท แอนเซล จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีกำลังการผลิตถุงยางอนามัยโดยเฉลี่ย 2,880,000 ชิ้นต่อวัน โดยส่งออกคิดเป็น 99% ไปมากกว่า 75 ประเทศ จำหน่ายภายในประเทศไทย 1% หรือราว 10 ล้านชิ้น ทั้งนี้ บริษัทมีปริมาณการใช้น้ำยางพาราสด 2,900 ตันต่อปี โดยบริษัทที่ประเทศอินเดียซื้อ 1,900 ตันต่อปี ใช้โรงงานในประเทศไทย 1,500 ตันต่อปี ล่าสุด บริษัทที่ประเทศศรีลังกามีการสั่งซื้อน้ำยางดิบของไทย 1,200 ตันต่อปี ทั้งนี้ มองว่าน้ำยางพาราของไทยมีคุณภาพดีที่สุด
“บริษัทผลิตถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย ทั้งจากน้ำยางธรรมชาติและน้ำยางสังเคราะห์ มีความหลากหลายทั้งเรื่องผิวสัมผัส สี รูปร่าง กลิ่น ชนิดของสารหล่อลื่น และขนาด ซึ่งก่อนการผลิตถุงยางอนามัย บริษัทมีการทำการวิจัยและพัฒนา โดยพบว่า กลิ่นสตรอเบอรีขายดีที่สุด รองลงมาคือกลิ่นวานิลลา โดยคนนิยมใช้ถุงยางแบบผิวขรุขระมากที่สุด ส่วนขนาดอวัยวะเพศชายไทยมีขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิมที่เคยใช้ถุงยางอนามัยขนาด 49 มิลลิเมตร เพิ่มเป็น 52 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการผลิตตั้งแต่ขนาด 49 - 56 มิลลิเมตร” นายนาวิน กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่