xs
xsm
sm
md
lg

เยาวชนฝาก นายกสมาคมฟุตบอลคนใหม่ ป้องกันปัญหาพนันบอล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เยาวชนฝากถามนายกสมาคมฟุตบอลคนใหม่ คิดอย่างไรกับพนันฟุตบอล หลังพบขาโจ๋กว่า 2 แสนคน แห่แทง และคอพนันบอล 30% ชอบพนันไทยลีก

วันนี้ (7 ก.พ.) นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน กล่าวถึงการจัดเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลคนใหม่ในวันที่ 11 ก.พ. นี้ ว่า เครือข่ายฯอยากเห็นนโยบายของว่าที่นายกสมาคมคนใหม่ต่อการจัดการปัญหาพนันฟุตบอล เพราะจากข้อมูลล่าสุดที่ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ ได้ทำการสำรวจสถานการณ์การพนันปี 2558 พบว่า การพนันทายผลฟุตบอลเป็นประเภทของการพนันที่มีคนไทยเล่นมากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากสลากกินแบ่งรัฐบาล และหวยใต้ดิน โดยในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา มีคนไทยถึง 2 ล้านคน ที่เล่นพนันบอล ในจำนวนนี้มี 30% นิยมทายผลฟุตบอลไทยลีก และโดยประเมินว่า มีเงินหมุนเวียนในการพนันทายผลฟุตบอลสูงถึง 136,125 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีอายุ 20 - 29 ปี มากที่สุด ขณะที่กลุ่มผู้เล่นที่เป็นเด็กอายุ 15 - 19 ปี ก็มีจำนวนไม่น้อย คือ 2 แสนคน 3 ใน 4 ของผู้เล่นพนันเป็นเพศชาย อีก 1 ใน 4 เป็นเพศหญิง ซึ่งโดยภาพรวม 63.3% เล่นแล้วเสีย

นายราเมศร ศรีทับทิม เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่จะได้รับฟังวิสัยทัศน์ว่าที่นายกสมาคมฟุตบอลคนใหม่ เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันสถานการณ์ของการพนันฟุตบอลขยายตัวขึ้นมาก ในฐานะที่ท่านจะเข้ามาเป็นผู้ดูแลการพัฒนาวงการฟุตบอลบ้านเราให้ก้าวหน้าจึงอยากฝากคำถามสัก 5 ข้อ ถึงผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯทุกท่านช่วยตอบ 1. คิดอย่างไรกับผลสำรวจที่พบ 30% ของคอพนันบอล หรือประมาณ 6 แสนกว่าคน ชอบพนันฟุตบอลไทยลีก รวมถึงผลสำรวจที่พบว่าคอพนันบอลส่วนใหญ่ คือ เด็ก เยาวชน และคนวัยหนุ่มสาว อายุตั้งแต่ 13 - 35 ปี 2. เห็นด้วยหรือไม่ ต่อข้อเสนอให้การพนันทายผลฟุตบอลถูกกฎหมาย 3. มีแนวนโยบายอย่างไรในการป้องกันไม่ให้การพนันเข้ามาเกี่ยวข้องกับการแข่งขันฟุตบอลไทย ทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง 5. แนวนโยบายที่เป็นรูปธรรมของท่านที่มีต่อเด็กและเยาวชน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเยาวชนมาข้องเกี่ยวกับการพนันฟุตบอล”

นางสาวอุไร โสรเนตร ผู้ประสานงานสถาบันครอบครัวเข้มแข็งในพื้นที่ภาคอีสาน เปิดเผยถึงสถานการณ์การพนันในกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ ว่า การพนันฟุตบอลในกลุ่มนักเรียนนักศึกษาถือว่าระบาดหนักมาก ตัวอย่างหนึ่งที่พบ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนระดับจังหวัด เล่นพนันบอลโดยเริ่มจากเล่นกับเพื่อน ขยับไปเล่นกับโต๊ะพนัน และสุดท้ายเข้าสู่การเล่นพนันชนิดถอนตัวไม่ขึ้น ที่น่าเป็นห่วง คือ เกิดพฤติกรรมเลียนแบบลุกลามไปสู่เด็กคนอื่น ถึงขนาดผู้ปกครองบางรายต้องย้ายลูกกลับบ้านเพื่อหนีห่าง และจะได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด แต่เด็กก็หาช่องทางเล่นพนันออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้ปกครองไม่สามารถสังเกตได้ และเป็นแบบนี้แทบทุกพื้นที่ ถ้านายกสมาคมฟุตบอลคนใหม่ชัดเจนในปัญหานี้ก็จะดีมาก

ทางด้าน นางวัลภา วังจันทร์ ผู้ปกครองในสถานศึกษาแห่งหนึ่ง กล่าวว่า แม้ว่าโรงเรียนมีมาตรการเข้มงวด แต่ก็ต้องยอมรับว่าดูแลนักเรียนไม่ทั่วถึง สำคัญที่สุดคือสังคมควรมีมาตรการที่จริงจังกับเรื่องการพนันรวมไปถึงอบายมุขอื่น ๆ โดยเฉพาะกฎหมายที่ต้องเข้มงวดมากกว่านี้ ทั้งนี้ เยาวชนส่วนใหญ่ที่เล่นการพนัน คือ ต้องการเงิน พอถามว่าพ่อแม่ให้ไม่พอเหรอ เด็กกลับตอบว่าพอ แต่เมื่อไหร่ที่เขารู้สึกว่าเขาหาได้เอง เขาจะรู้สึกภูมิใจกว่า โดยลืมไปว่าการหารายได้ควรมาจากการทำงานไม่ใช่การหาเงินได้จากทางลัด หรือการเล่นพนันแบบนี้ บางเรื่องในครอบครัวเราก็ควรปล่อยวางบ้าง แต่ถ้าเป็นเรื่องที่กระทบโดยตรงกับลูกหลานของตัวเองจะปล่อยผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด ในฐานะพ่อแม่เราทำหน้าที่ได้เพียงให้ความรักคำสอนกับลูก แต่มันไม่พอเพราะลูกต้องไปโรงเรียน ต้องไปเจอสังคมภายนอก ดังนั้น มาตรการของสังคมในการปกป้องเด็กและเยาวชนจากการพนันก็ต้องมีความเข้มงวดและปฏิบัติได้จริง

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น