xs
xsm
sm
md
lg

เปิดวิสัยทัศน์ “ผู้จัดการ สสส.” คนใหม่ สร้างองค์กรสร้างเสริมสุขภาพมืออาชีพ เร่งสางสรรพากรเก็บภาษีเอ็นจีโอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“หมอสุปรีดา” ผู้จัดการ สสส. คนใหม่ ตั้งเป้าปั้น สสส. เป็นองค์กรสร้างเสริมสุขภาพมืออาชีพ เน้นธรรมาภิบาล รับเห็นใจภาคีเดือดร้อนโครงการของงบประมาณถูกหยุดชะลอ เผยอยู่ที่การพิจารณาของ คตร. และ สธ. เร่งทำความเข้าใจกรมสรรพากรรีดภาษีองค์กรรับทุน สรรหา กก.สสส. อย่างน้อย 14 คนภายใน 14 ก.พ. นี้

วันนี้ (3 ก.พ.) ทพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าวแนวทางการบริหารองค์กรภายหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ว่า การทำงานสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. ที่ผ่านมา 13 ปี นับว่าเป็นเรื่องใหม่ ไม่มีต้นแบบการทำงานที่ชัดเจน ดังนั้น สสส. ในยุคแรกจึงเป็นยุคแห่งการแสวงหาแนวทางและรูปแบบการทำงานสร้างเสริมสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทสังคมไทย สสส. ในยุคต่อไปนี้ จึงเป็นยุคของการก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งโจทย์การทำงานจะมี 4 เรื่อง คือ 1. เข็มทิศของเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ “ผู้สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ” ที่จะต้องคมชัดเป็นระบบยิ่งขึ้น เพื่อให้สังคมเข้าใจนิยามเชิงปฏิบัติการและองค์ความรู้ต่าง ๆ ของ สสส.  2. พัฒนากระบวนการทำงานแบบองค์กรมืออาชีพ  3. พัฒนาวัฒนธรรมองค์กร หรือคุณค่าหลักของ สสส. ในการเป็นผู้สร้างเสริมสุขภาวะอย่างสร้างสรรค์ ที่จะต้องแปลคุณค่านี้ไปสู่แนวปฏิบัติและทักษะของบุคลากร  และ 4. สร้างการยอมรับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสังคมได้ตระหนักว่า สสส. เป็นองค์กรที่ยึดมั่นในธรรมาภิบาล โดยจะสื่อสารกับสังคมมากขึ้นและยกระดับมาตรฐานเช่นเดียวกับมาตรฐานระดับโลก

ทพ.สุปรีดา กล่าวว่า ส่วนที่มีการทักท้วงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน สสส. รับโจทย์ทุกอย่างและพยายามแก้ไขปรับปรุงตามที่มีการชี้แนะ และหลายเรื่องมีฐานที่มั่นคงชัดเจนอยู่แล้ว แต่จะพยายามสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น ซึ่งการแก้ไขข้อบังคับ สสส. ตามกรอบเวลาที่ คตร. กำหนดไว้ 3 เดือน ก็ได้ดำเนินการตามกระบวนการเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบของ คตร. สำหรับที่มีการชะลอโครงการที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก สสส. โดยเฉพาะในโครงการที่มีงบประมาณเกิน 5 ล้านบาทนั้น เห็นใจภาคีเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำให้การทำงานต้องชะงัก  มีคนเดือดร้อนหลายพันคน และหลายร้อยโครงการ สสส. มีการเร่งกระบวนการต่าง ๆ ที่เป็นเงื่อนไขของการชะลอทุกอย่างหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ที่การพิจารณาของ คตร.และกรรมการของ สธ. ทราบว่า มี 50 โครงการที่ผ่าน คตร.แล้วแต่รอการตรวจสอบจาก สธ.

ทพ.สุปรีดา กล่าวว่า ส่วนกรณีกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีรายได้บุคคลจาภภาคีที่รับงบประมาณ สสส. นั้น ในการทำสัญญากับภาคีที่รับงบประมาณ เบื้องต้น สสส. ได้มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายในส่วนที่เป็นรายได้จริงของภาคี และภาคีก็มีการเสียภาษีรายได้ส่วนบุคคลและองค์กรมาตลอด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการตรวจสอบมาตลอด แต่ที่ปีนี้เป็นปัญหาอาจเป็นเพราะมีการตีความ เนื่องจากอาจมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน หรือบางข้อความในสัญญาระหว่าง สสส. กับภาคีทำให้เกิดการเข้าใจผิด เพราะเงินอีกก้อนเป็นเงินที่ใช้ในการทำงานสาธารณะเพื่อสังคม คือ ใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งไม่ใช่รายได้ เงินไม่ได้เข้ากระเป๋าของภาคีเลย โดย สสส. จะส่งคนไปตรวจสอบ เก็บใบเสร็จมาเคลียร์ หากมีเงินเหลือหรือทำงานไม่ได้ผลเงินก็ต้องคืน และเงินส่วนนี้ก็ไม่ได้ไปผลิตของแต่ไปทำประโยชน์ให้สังคม

ผู้สื่อข่าวถามถึงการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ บอร์ด สสส. ทพ.สุปรีดา กล่าวว่า การสรรหากรรมการ สสส.แทนคนเดิมจำนวน 7 คนนั้น มีการตั้ง ศ.นพ.อุดมศิลป์ สีแสงนาม เป็นประธานกรรมการสรรหา จะมีการเปิดรับการสมัครโดยการเสนอชื่อบุคคลและสมัครด้วยตนเองในระหว่างวันที่ 4 - 14 ก.พ. นี้ โดยจะสรรหาให้ได้ 2 เท่าของจำนวนเดิม คือ อย่างน้อย 14 คน เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการ สสส. ในวันที่ 19 ก.พ. นี้ เพื่อพิจารณาและเสนอ ครม. ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการชะลอให้งบประมาณส่งผลให้สำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.) ต้องปิดตัวลง  ทพ.สุปรีดา กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่จริง ๆ ต้องเข้าใจก่อนว่า สกส. เป็นองค์กรลูกที่มาฝากไว้กับ สสส. ซึ่งองค์กรนี้มีคณะกรรมการระดับชาติเป็นของตัวเอง โดยขณะนี้ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ. ซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ โดยอยู่ระหว่างรอการพิจารณา หากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ องค์กรนี้ก็จะพร้อมทำงานได้อีกครั้ง ขณะนี้เหมือนเป็นการหยุดรอชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งการปิดตัวชั่วคราวก็เป็นมติบอร์ด สกส. ด้วย

ต่อคำถามว่านับจากนี้จะมีระบบในการแก้ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างไรให้เป็นรูปธรรม  ทพ.สุปรีดา กล่าวว่า สสส. ให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาลมาโดยตลอด นับจากนี้จะเข้มข้นขึ้นโดยจะมีการพัฒนาระบบที่เรียกว่าข้อตกลงด้านคุณธรรม ซึ่งจะทำงานกับทุกภาคส่วน หากแล้วเสร็จในอนาคตจะสามารถเปิดเผยชื่อบุคคลและองค์กรที่รับทุนสนับสนุน โครงการที่รับทุน งบประมาณที่ได้รับ โดยจะเปิดเผยในระดับที่สามารถเปิดเผยได้ตามมาตรฐานสากล












ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น