กาฬสินธุ์ - ป.ป.ท.เขต 4 ขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการธรรมาภิบาล จังหวัดกาฬสินธุ์ตรวจโครงการก่อสร้างขยายทางจราจร ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร งบประมาณ 26 ล้าน ของแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ หลังงานก่อสร้างล่าช้าข้ามปียังไม่เสร็จ เหตุผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง ส่งผลประชาชนเดือดร้อนหนัก ทั้งน้ำท่วม ฝุ่นคลุ้ง เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ท., สตง., คณะกรรมการธรรมาภิบาล และนายกรัฐมนตรีช่วยเหลือด่วน
จากกรณี คณะกรรมการศูนย์ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคมในการป้องกันการทุจริต จ.กาฬสินธุ์ สังกัด ปปท.เขต 4 ขอนแก่น พร้อมด้วยคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกมลาไสย เข้ารับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากการก่อสร้างโครงการขยายทางจราจร โครงการตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งดำเนินการรับผิดชอบโดยแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ สำนักงานทางหลวงที่ 8 กรมทางหลวง งบประมาณ 26,584,000 บาท ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร
ผู้รับจ้างคือบริษัทนิลธาร จำกัด เริ่มต้นสัญญาวันที่ 30 มีนาคม 2559 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 25 กันยายน 2559 แต่ปัจจุบันได้ก่อสร้างมานานถึง 1 ปี กับอีก 2 เดือน และสิ้นสุดสัญญาการก่อสร้างมานานกว่า 9 เดือนแล้วยังไม่แล้วเสร็จ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ หลายร้อยครัวเรือนเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ฝุ่นละออง ล้มป่วยเป็นโรคฉี่หนู โรคปอด โรคภูมิแพ้ และการก่อสร้างที่ยืดเยื้อยังทำให้รถเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ท., สตง., คณะกรรมการธรรมาภิบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาตรวจสอบให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ตลอดจนเรียกร้องให้แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ หน่วยงานที่ดำเนินการแสดงความรับผิดชอบ
ล่าสุดนางสาวญาณัชชา นนทจันทร์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกัน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 4 ขอนแก่น (ป.ป.ท.เขต 4 ขอนแก่น), นายชาญยุทธ โคตะนนท์ รองประธานธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ และกรรมการศูนย์ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคมในการป้องกันการทุจริต จ.กาฬสินธุ์ สังกัด ป.ป.ท.เขต 4 ขอนแก่น, ว่าที่ ร.ท.เจนรบ พละเดช เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ชำนาญการ, นายณรงค์ คูธนพิทักษ์กุล นายกเทศมนตรีตำบลกมลาไสย
พร้อมด้วยคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ และเครือข่าย ป.ป.ท.เขต 4 ขอนแก่น ลงพื้นที่ติดตามรับฟังปัญหาจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบและตรวจสอบการก่อสร้างถนนสายดังกล่าวอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ลงพื้นที่และแจ้งให้แขวงทางหลวงดำเนินการแก้ไขแล้วกลับไม่คืบหน้า โดยมีตัวแทนสถานศึกษา โรงพยาบาล ผู้นำชุมชน พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่ได้รับผลกระทบให้ข้อมูล
อย่างไรก็ตาม การเข้ารับฟังปัญหาครั้งนี้ทางสำนักงานแขวงทวงหลวงกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ได้ส่งช่างผู้ควบคุมงานและหัวหน้าหมวดทางหลวงร่องคำเข้าร่วมรับฟังปัญหาเท่านั้น ทำให้ชาวบ้านเกิดความท้อใจกับคณะผู้บริหารของแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ เพราะนายช่างไม่ใช่ผู้บริหารจึงไม่มีอำนาจตัดสินใจ ทำให้การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่มีความชัดเจน เหมือนกับไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความสำคัญในความเดือดร้อนของประชาชน
นายสมพร ศรีขอดเขต ครูโรงเรียนกมลาไสย กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านทั้งอำเภอและนักเรียน 2,000 กว่าคนเดือดร้อนอย่างหนัก ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างถนนของแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ ตั้งแต่บริเวณสี่แยกไฟแดงโรงเรียนพิพัฒราษฎร์บำรุง สิ้นสุดบ้านน้ำจั้น ก่อนถึงพระธาตุยาคู ถือเป็นเส้นทางหลักท่องเที่ยว
ตลอดระยะทางการก่อสร้าง 1.8 กิโลเมตร ผู้รับเหมาขุดคลองวางระบายน้ำ นำท่อขนาดใหญ่มาวางไว้ริมถนน มีสายไฟพันกันยุ่งเหยิง ส่งผลให้นักเรียน ผู้ป่วย ตลอดจนประชาชน และผู้สัญจรเดือดร้อนหนัก เมื่อฝนตกจะเกิดน้ำท่วมถนนเป็นโคลน น้ำท่วมขังเน่าเหม็น ส่วนหน้าแล้งจะเกิดฝุ่น กระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งหลังจากมีการก่อสร้างตนเองป่วยเป็นโรคฉี่หนูถึง 2 ครั้งเพราะต้องลุยน้ำท่วมขัง และที่สำคัญบริเวณดังกล่าวยังเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง
ขณะที่นางเอมอร อ่อนศรี อายุ 60 ปี ชาวบ้านดอนสวรรค์ ต.กมลาไสย อ.สมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากก่อสร้างถนนแล้วทิ้งงานไปทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก เพราะมีน้ำท่วม คลองน้ำยังเป็นแหล่งเชื้อโรค ที่ผ่านมามีชาวบ้านล้มป่วยเป็นโรคฉี่หนู โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคปอดหลายราย
จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ต้องรับผิดชอบ ว่าทำไมต้องปล่อยปัญหายืดเยื้อนานนับปีแต่กลับไม่แก้ไข ไม่ใส่ใจในความเดือดร้อนของประชาชน จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ป.ป.ท., สตง., คณะกรรมการธรรมาภิบาล และนายกรัฐมนตรี เข้ามาตรวจสอบ ช่วยเหลือเร่งด่วน
ด้านนางสาวพิทยา ศรีภาบุญ นายช่างโยธาชำนาญงาน ซึ่งเป็นผู้ควบคุมงาน กล่าวว่า สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างขยายทางจราจร โครงการตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งดำเนินการรับผิดชอบโดยแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ สำนักงานทางหลวงที่ 8 กรมทางหลวง งบประมาณ 26,584,000 บาท ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร ซึ่งมีผู้รับจ้างคือบริษัทนิลธาร จำกัด เริ่มต้นสัญญาวันที่ 30 มีนาคม 2559 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 25 กันยายน 2559 ดำเนินการไปแล้วประมาณ 21% ปัจจุบันเกินสัญญามาแล้วประมาณ 9 เดือน
ทั้งนี้ เดิมงบประมาณก่อสร้างเริ่มแรกประมาณ 35 ล้านบาท บริษัทนิลธารชนะการประมูลระบบอีบิดดิ้งในราคา 26,584,000 บาท และเบิกเงินไปแล้ว 2.3 ล้านบาท และมีค่าปรับประมาณ 7 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัญหาการก่อสร้างดังกล่าวที่ล่าช้าเริ่มต้นเนื่องจากติดปัญหาสาธารณูปโภค ทั้งระบบไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ที่อยู่ริมถนน เมื่อเจ้าหน้าที่จัดการเรื่องดังกล่าวให้แล้ว ทางผู้รับจ้างคือบริษัทนิลธาร จำกัด เกิดปัญหาสภาพคล่อง ติดขัดปัญหาด้านการเงิน จนปัจจุบันไม่ดำเนินการใดๆ ขณะนี้แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ได้ส่งเรื่องไปยังกรมทางหลวงเพื่อพิจารณาบอกเลิกสัญญาแล้ว
ขณะที่นางสาวญาณัชชา นนทจันทร์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกัน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 4 ขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้นเข้ามารับทราบปัญหาและติดตามปัญหาที่เกิดขึ้น พบว่าเป็นการดำเนินการที่ล่าช้า ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ซึ่งเจ้าหน้าที่แขวงระบุว่า เนื่องจากผู้รับเหมาขาดสภาพคล่องและติดปัญหาสาธารณูปโภคช่วงหลังไม่เข้ามาดำเนินการ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อรายงานไปยังเลขาธิการ ป.ป.ท.ก่อนที่จะรับเป็นเลขคดีตรวจสอบต่อไป