สธ.ตั้งวอร์รูมแก้ รพ.ประสบภัยแล้ง ประสานท้องถิ่นช่วยจัดหาน้ำไม่ให้กระทบผู้ป่วย

สธ. ตั้งวอร์รูมแก้ รพ. ประสบภัยแล้ง กำชับรายงานปัญหา เพื่อวางแผนแก้ไข เร่งประสานหน่วยงานท้องถิ่นช่วยจัดหาน้ำเป็นมาตรการเร่งด่วน ส่วนระยะยาวให้จัดหาแหล่งน้ำสำรอง

วันนี้ (19 ม.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงมาตรการรับมือภัยแล้ง หลัง รพ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ประสบปัญหาจนกระทบต่อการบริการผู้ป่วยบางส่วน ว่า ขณะนี้ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาภัยแล้งหน่วยงานในสังกัด โดยให้โรงพยาบาลในพื้นที่ประสบภัยแล้ง รายงานปัญหาที่ส่วนกลางทุกวัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่กระทบกับการจัดบริการให้ประชาชน ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศขณะนี้ มี 14 จังหวัด 71 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง สำหรับการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วน ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในพื้นที่ภัยแล้ง เฝ้าระวังปัญหาการขาดแคลนน้ำของโรงพยาบาลในสังกัด วางแผนสำรองน้ำให้เพียงพอ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นที่จัดหาและสนับสนุนน้ำประปา แจ้งปริมาณการใช้แต่ละวันให้ทราบ เพื่อให้สำรองน้ำสำหรับโรงพยาบาล พร้อมกำชับให้โรงพยาบาลทุกแห่งเข้มงวดมาตรการประหยัดน้ำ

นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับในระยะยาวให้ทุกจังหวัดที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก สำรวจแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้เคียง วางแผนขุดเจาะน้ำบาดาล นำมาปรับปรุงให้คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยต่อการนำมาใช้เพื่อบริการผู้ป่วย ทั้งในห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องทันตกรรม ห้องคลอด รวมทั้งการซักล้าง วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้กับผู้ป่วย โดยปริมาณการใช้น้ำของโรงพยาบาล ขึ้นอยู่กับขนาดของโรงพยาบาล จำนวนผู้มารับบริการ เช่น สสจ. เชียงใหม่ ได้เฝ้าระวังและแก้ไขปัญหา โดยจัดหาแหล่งน้ำสำรองจากสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตเชียงใหม่ จากองค์การบริหารส่วนจังหวัด ภาคเอกชน รวมทั้งประสานประปาส่วนภูมิภาค ขยายระบบประปาให้ครอบคลุมถึงโรงพยาบาลที่ประสบภัยแล้งเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ รพ.พระยืน จ.ขอนแก่น ก็เป็นพื้นที่หนึ่งที่ประสบภัยแล้ง ปริมาณการใช้น้ำของโรงพยาบาลอยู่ที่ 20,000 - 30,000 ลิตรต่อวัน เบื้องต้นได้ขุดบ่อบาดาลแห่งใหม่ในโรงพยาบาลลึก 35 เมตร สามารถนำน้ำมาปรับปรุงคุณภาพและใช้บริการผู้ป่วย

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่