สั่ง วธ. ระดมสมอง ให้เวลา 1 เดือน วางแผนสางปัญหากรมศิลป์ขาดแคลนช่างแบบยั่งยืน
วันนี้ (18 ม.ค.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือการขาดแคลนอัตรากำลังของกรมศิลปากร ว่า ขณะนี้กรมศิลปากรขาดแคลนอัตรากำลังช่างที่มีไม่เพียงพอต่อภารกิจ ประมาณ 270 อัตรา จึงได้มอบหมายให้ รมว.วัฒนธรรม ไปแต่งตั้งคณะทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาโครงสร้างการบริหารงานบุคคล การเพิ่มอัตราตามความเหมาะสม ให้มีบุคลากรที่สามารถทดแทนกันได้อย่างต่อเนื่อง และให้เกิดความยั่งยืนในอีก 20 ปีข้างหน้า
“งานของกรมศิลปากรถือเป็นกิจเฉพาะ ต้องใช้บุคลากรที่มีความสามารถเฉพาะตัว ในการบำรุงรักษา อนุรักษ์ ฟื้นฟู ส่งเสริม สร้างสรรค์มรดกทางวัฒนธรรม ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และเป็นศูนย์ข้อมูล เพื่อสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม และกำกับดูแลการดำเนินงานด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ ต่างจากหน่วยงานราชการอื่น ทั้งนี้ผมให้เวลา 1 เดือนไปแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งมีหลายแนวทาง เช่น ประสานกับมหาวิทยาลัยในการผลิตบุคลการป้อนกรมศิลปากรโดยเฉพาะ การสอนงานคนรุ่นใหม่ในแต่ละสายงาน หรือจ้างคนเกษียณที่จำเป็นจริงๆเพื่อถ่ายทอดงานให้บุคลากรรุ่นใหม่ เป็นต้น จากนั้นให้นำเข้าที่ประชุมอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงวัฒนธรรม พิจารณา ก่อนนำกลับมาเสนอที่ประชุมอีกครั้ง” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรจะหารือกับ ก.พ. เรื่องอัตรากำลังที่ต้องการ ขณะนี้ขาดแคลนหนักคือนักวิชาการสายหลักด้านช่าง โบราณคดี จดหมายเหตุ ภัณฑารักษ์ ซึ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบางแห่งมีเจ้าหน้าที่แต่ละด้านแค่ 1 - 2 คนเท่านั้น แต่มีหน้าที่รับผิดชอบครอบคลุม 5 - 6 จังหวัด โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ ให้วางกรอบอัตรากำลัง 5 - 10 ปี เพราะงานเฉพาะด้านต้องสั่งสมประสบการณ์
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (18 ม.ค.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือการขาดแคลนอัตรากำลังของกรมศิลปากร ว่า ขณะนี้กรมศิลปากรขาดแคลนอัตรากำลังช่างที่มีไม่เพียงพอต่อภารกิจ ประมาณ 270 อัตรา จึงได้มอบหมายให้ รมว.วัฒนธรรม ไปแต่งตั้งคณะทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาโครงสร้างการบริหารงานบุคคล การเพิ่มอัตราตามความเหมาะสม ให้มีบุคลากรที่สามารถทดแทนกันได้อย่างต่อเนื่อง และให้เกิดความยั่งยืนในอีก 20 ปีข้างหน้า
“งานของกรมศิลปากรถือเป็นกิจเฉพาะ ต้องใช้บุคลากรที่มีความสามารถเฉพาะตัว ในการบำรุงรักษา อนุรักษ์ ฟื้นฟู ส่งเสริม สร้างสรรค์มรดกทางวัฒนธรรม ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และเป็นศูนย์ข้อมูล เพื่อสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรม และกำกับดูแลการดำเนินงานด้านศิลปวัฒนธรรมของชาติ ต่างจากหน่วยงานราชการอื่น ทั้งนี้ผมให้เวลา 1 เดือนไปแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งมีหลายแนวทาง เช่น ประสานกับมหาวิทยาลัยในการผลิตบุคลการป้อนกรมศิลปากรโดยเฉพาะ การสอนงานคนรุ่นใหม่ในแต่ละสายงาน หรือจ้างคนเกษียณที่จำเป็นจริงๆเพื่อถ่ายทอดงานให้บุคลากรรุ่นใหม่ เป็นต้น จากนั้นให้นำเข้าที่ประชุมอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงวัฒนธรรม พิจารณา ก่อนนำกลับมาเสนอที่ประชุมอีกครั้ง” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรจะหารือกับ ก.พ. เรื่องอัตรากำลังที่ต้องการ ขณะนี้ขาดแคลนหนักคือนักวิชาการสายหลักด้านช่าง โบราณคดี จดหมายเหตุ ภัณฑารักษ์ ซึ่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบางแห่งมีเจ้าหน้าที่แต่ละด้านแค่ 1 - 2 คนเท่านั้น แต่มีหน้าที่รับผิดชอบครอบคลุม 5 - 6 จังหวัด โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ ให้วางกรอบอัตรากำลัง 5 - 10 ปี เพราะงานเฉพาะด้านต้องสั่งสมประสบการณ์
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
