คนอีสานป่วยมะเร็งท่อน้ำดีสูงสุด เกินครึ่งเกิดกับคนวัยทำงาน ความชุกโรคพยาธิใบไม้ตับในหมู่บ้านสูงถึง 90% เสียค่าใช้จ่ายรักษา 1.9 พันล้านบาทต่อปี สธ.จัดโครงการกำจัดปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ถวายในหลวง - ราชินี ตั้งเป้า 3 เดือน
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า มะเร็งท่อน้ำดี ส่วนใหญ่พบอุบัติการณ์ของโรคในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพบว่า จ.ร้อยเอ็ด มีอัตราป่วยด้วยโรคนี้สูงที่สุด อยู่ที่ร้อยละ 59.2 จากสถิติโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปี 2556 พบผู้ป่วยมะเร็งตับและมะเร็งท่อน้ำดีรายใหม่มากกว่า 1,765 ราย มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี โดยเป็นมะเร็งท่อน้ำดีร้อยละ 63 มะเร็งตับ และร้อยละ 18 โดยประมาณร้อยละ 55 เกิดขึ้นกับประชากรวัยทำงานที่เป็นหัวหน้าครอบครัวอายุระหว่าง 40 - 60 ปี ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเฉลี่ยประมาณ 1,960 ล้านบาทต่อปี ถือว่าเป็นโรคที่รุนแรงและก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสังคม คุณภาพชีวิตของคนในสังคมอย่างมาก
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า นอกจากนี้ จากการสำรวจชุมชนเพื่อศึกษาสถานการณ์โรคหนอนพยาธิในประเทศไทย พบว่า ปี 2557 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความชุกโรคพยาธิใบไม้ตับสูงที่สุด อยู่ที่ ร้อยละ 9.2 แต่หากเป็นระดับหมู่บ้านอาจมีความชุกสูงถึงร้อยละ 90 และภาคเหนือ ร้อยละ 5.2 ในระดับหมู่บ้านอาจมีความชุกสูงถึงร้อยละ 45.6 พบเพศชายมากกว่าเพศหญิง เนื่องจากมีพฤติกรรมเสี่ยงในเรื่องการบริโภคอาหารที่ทำจากปลาน้ำจืด เช่น ส้มตำปลาร้าดิบ แจ่วบองใส่ปลาร้าดิบ เป็นต้น ซึ่งชุมชมที่มีอัตราความชุกของโรคพยาธิใบไม้ตับมากกว่าร้อยละ 30 ขึ้นไปตั้งอยู่บริเวณแหล่งน้ำ และพื้นที่ชุ่มน้ำ
“สธ. ได้ดำเนินโครงการกำจัดปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์ 70 ปี ในปี 2559 พร้อมทั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ตลอดจนในปี 2560 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา มาตรการจะเน้นสร้างเสริมสุขภาพ ควบคุมป้องกัน รักษาพยาบาลและดูแลประคับประคอง โดยมีการจัดกิจกรรม 5 ส่วนสำคัญ เป้าหมาย 3 เดือน ได้แก่ 1. จัดการตำบลต้นแบบการจัดการสุขภาพแบบครบวงจรอย่างยั่งยืน คัดเลือกพื้นที่ 84 อำเภอ อย่างน้อยอำเภอละ 1 ตำบล 2. ตรวจค้นหาพยาธิใบไม้ตับ กลุ่ม 15 ปีขึ้นไป จากจำนวน 76,000 คน ให้ได้ 5,000 ราย 3. ตรวจอัลตราซาวนด์กลุ่มเสี่ยง 40 ปีขึ้นไป จากจำนวน 135,000 คน ให้ได้ 15,000 ราย 4. บริการผ่าตัดรักษา 100 ราย และ 5. อบรมพัฒนาศักยภาพแพทย์/พยาบาล 84 ราย” รมว.สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่