ผู้บริโภคแฉ! รถตู้ยืนโดยสารระบาดอีกรอบ พบร้องเรียนอื้อเขตภาคกลาง ทั้งสุพรรณบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี สระบุรี อยุธยา พบวิ่งทั้งในจังหวัด ข้ามจังหวัด ชี้ไม่ปลอดภัย แถมผิดกฎหมาย ห่วงปีใหม่ผู้โดยสารน่าเห็นใจ ต้องดูแลตัวเอง เหตุรัฐยังไร้มาตรการคุมเข้ม ย้ำพบรถไม่ปลอดภัยให้เซย์บาย ไม่ไปเด็ดขาด
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) กล่าวในงานเสวนา “ยานพาหนะปลอดภัยภายใต้ระบบการจัดการที่เข้มแข็ง” ในงานสัมมนาระดับชาติ เรื่อง ความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 12 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า จากการทำงานคุ้มครองผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง พบว่า เรื่องรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย ยังมีปัญหาอยู่หลายประเด็น ทั้งการแก้ปัญหาไม่ได้จริง มีความล่าช้า ผู้โดยสารเมื่อร้องเรียนแล้วถูกฟ้องร้องดำเนินคดีกลับ ที่สำคัญคือปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ล่าสุด เริ่มมีการร้องเรียนจากผู้บริโภคเข้ามายังศูนย์พิทักษ์สิทธิ์ผู้บริโภคจำนวนหนึ่ง ว่า รถตู้โดยสารสาธารณะกลับมาให้บริการแบบรถยืนอีกครั้งแล้ว ซึ่งถือว่าไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง และผิดกฎหมาย หลังจากที่มีเคยมีการคุมเข้มจนรถตู้ยืนโดยสารหายไปอยู่ช่วงหนึ่ง
“พื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียน คือ รถตู้โยสารสาธารณะในเขตภาคกลาง ทั้งสุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี สระบุรี มีทั้งรถตู้ที่วิ่งภายในจังหวัด ข้ามจังหวัด ทั้งจาก กทม. ไปต่างจังหวัด หรือจากต่างกลับเข้ามา กทม. ซึ่งขณะนี้ไม่แน่ใจว่ามีจำนวนมากแค่ไหน แต่มีการร้องเรียนเข้ามาจำนวนหนึ่ง ซึ่งการอัดผู้โดยสารจำนวนมากขนาดนี้ แน่นอนว่า เป็นการบรรทุกน้ำหนักเกิน อันตรายจากการขับขี่ก็ยิ่งมีมาก” น.ส.สารี กล่าวและว่า ทั้งนี้ มองว่า รถตู้มีที่นั่งจำกัด การวิ่งในระยะทางไกลอาจจะไม่คุ้ม จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการแก้ไขดัดแปลงที่นั่งให้เพิ่มมากขึ้น จนบรรทุกน้ำหนักเกินที่กฎหมายกำหนด รวมไปถึงการทำรถตู้ยืนโดยสาร ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการให้ตระหนักถึงเรื่องนี้ โดยการวิ่งระยะทางไกลอาจหันไปใช้รถชนิดอื่นที่บรรทุกคนได้มากกว่าหรือไม่ แล้วรถตู้โดยสารนำมาใช้วิ่งภายในเมืองหรือในระยะทางที่ไม่ไกลเกินไปจะเหมาะสมกว่า
น.ส.สารี กล่าวว่า ขณะนี้ใกล้เทศกาลปีใหม่แล้ว มีวันหยุดยาว หลายคนต่างเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำให้การเดินทางมีมาก โอกาสเจอรถโดยสารสาธารณะที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นมีสูง ไม่ว่าจะเป็นตัวรถเองหรือพนักงานขับรถ ถือว่าผู้โดยสารเป็นฝ่ายที่น่าเห็นใจ เนื่องจากขณะนี้ยังไมใมีมาตรการอะไรที่ออกมาชัดเจนถึงการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้โดยสาร ทำให้ต้องดูแลตนเอง จึงขอให้ผู้โดยสารตรวจสอบก่อนว่ารถโดยสารสาธารณะที่ตนเองต้องโดยสารไปนั้นมีความปลอดภัยหรือไม่ หากพบเห็นถึงความไม่ปลอดภัยควรตัดสินใจอย่างเด็ดขาด หลีกเลี่ยงรถคันดังกล่าว เพราะไม่อาจทราบได้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรหรือไม่ โดยยอมรออีกสัก 1 - 2 ชั่วโมง เพื่อเปลี่ยนรถคันใหม่จะดีและปลอดภัยกว่า
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่