ช่วงเดือนที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวของพ่อแม่ผู้ปกครองหลายกลุ่ม แต่เรียกร้องเรื่องเดียวกัน คืออยากให้คลื่น FM 105 คลื่นสีขาวเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว ยังคงอยู่ต่อไป เนื่องจากทราบว่าคลื่นจะต้องจากไปเมื่อสิ้นปี 2558 และแน่นอนทุกรายการก็ต้องจากไปด้วย
ดิฉันจัดรายการวิทยุมาไม่ต่ำกว่า 15 ปี ผ่านสถานีวิทยุมาหลายสถานี ล้วนแล้วแต่ดำเนินรายการเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวมาโดยตลอด และก็รับรู้สถานการณ์มาโดยตลอดว่านโยบายของทุกรัฐบาลในบ้านเราไม่เคยให้ความสำคัญกับคลื่นวิทยุที่มีรายการเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวเลย ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่เคยให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับสื่อทุกประเภทที่เกี่ยวข้องสำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว
ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ในสังคมทุกภาคส่วนต่างก็ประสานเสียงว่าเด็กคืออนาคตของชาติ เด็กสำคัญที่สุด ต้องพัฒนาเด็ก มีทั้งยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี สารพัดแผนแม่บท แผนพัฒนา ฯลฯ ที่เกี่ยวกับเด็กและครอบครัวมากมาย แต่สิ่งที่ไม่เคยจริงจังคือภาคปฏิบัติ
เวลาเกิดปัญหาในสังคมเราก็โทษว่าเพราะเด็กสมัยนี้เป็นแบบนั้นแบบนี้ เด็กยุคนี้ไม่อดทน ไม่ได้เรื่อง ไม่...สารพัด ฯลฯ
แต่กลับไม่หันกลับมามองว่าแล้วทำไมเด็กเหล่านี้ถึงเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะผู้ใหญ่รุ่นเรา ๆ ขึ้นไปหรอกหรือ ที่เป็นคนสร้างผลผลิตของชาติคือเด็กยุคนี้ และรุ่นต่อ ๆ ไป
คลื่นสีขาวเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว คือคลื่น FM 105 สังกัดอยู่กรมประชาสัมพันธ์ และอยู่ในความดูแลของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ที่ผ่านมาคลื่นนี้รับเงินสนับสนุนจากแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผ่านมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว มีเป้าประสงค์ชัดเจนที่อยากสร้างพื้นที่ดี ๆ สื่อดี ๆ สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว และปลอดโฆษณา
เป็นเรื่องขำไม่ออก ที่จุดเริ่มต้นของการอยากได้พื้นที่สื่อดี ๆ สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว เริ่มจากกลุ่มเอ็นจีโอ และก็ต้องทำแบบมวยวัด เพราะไม่ได้มีสตุ้งสตังค์อะไรมากมาย การพยายามหาคนทำงานและผู้ดำเนินรายการ ก็ต้องเริ่มจากคนที่รู้จักและรู้ว่าต้องเริ่มงานนี้ที่ “ใจ” เป็นสำคัญ
และแน่นอนตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา คลื่นนี้ก็ลุ้นทุกปีว่าจะได้อยู่ต่อไหม สสส.จะสนับสนุนต่อไหม กรมประชาสัมพันธ์จะยังให้เช่าคลื่นอีกไหม เรียกว่าไม่เคยได้หยุดนิ่ง เพื่อหันไปสนใจการพัฒนาเรื่องเนื้อหาคุณภาพ มากกว่าจะลุ้นว่าคลื่นจะยังอยู่หรือไม่
ดิฉันยอมรับว่าเศร้าและสะเทือนใจจริง ๆ ที่คลื่นสีขาวเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัวจะต้องจากไป และเห็นพลังของพ่อแม่ที่พยายามจะส่งสัญญาณให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้รับรู้ว่า พ่อแม่และลูก ๆ ของพวกเขาได้รับประโยชน์จากคลื่นนี้อย่างไร
ดิฉันไม่ได้มาฟูมฟายว่าจะต้องอยากอยู่ในคลื่นแห่งนี้หรอกค่ะ เพราะดิฉันเป็นเพียงผู้ดำเนินรายการ แต่เชื่อว่าคลื่นนี้มีประโยชน์ต่อสังคม การจะได้จัดรายการหรือไม่ไม่สำคัญ แค่อยากจะบอกว่าถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐควรจะหันมาใส่ใจเรื่องการสร้างคนผ่านสื่อดี ๆ มีคลื่นสีขาวเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัวด้วยนโยบายของภาครัฐเองสักทีเถอะ มิใช่ปล่อยให้เอ็นจีโอหรือคนที่เห็นความสำคัญแต่ไม่มีสตางค์ไปทำกันเองตามยถากรรมเยี่ยงนี้ !
หนึ่งในแผนปฏิรูปประเทศชาติมีเรื่องการสร้างคนมิใช่หรือ !
พ.ญ.ชนิกา ตู้จินดา เคยกล่าวไว้ว่า สื่อมีอิทธิพลสำคัญต่อเด็ก เยาวชน และคนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง กาย ใจ อารมณ์ สังคม ปัญญา เป็น 5 ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเด็ก ซึ่งสื่อวิทยุสามารถตอบสนองพัฒนาการทั้ง 5 อย่างได้เต็มที่ เพราะการฟังต้องคิดและสร้างจินตนาการตาม ทำให้เด็กเกิดพัฒนาได้เร็ว การเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ผ่านสื่อให้กับเด็ก เยาวชน และครอบครัว จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง เพราะเป็นพื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การใช้ความคิด สร้างสรรค์
คลื่นบนหน้าปัดวิทยุของภาครัฐมีมากมาย การจะสนับสนุนพื้นที่ทางปัญญาให้กับเด็ก เยาวชนและครอบครัวไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่ว่าเห็นความสำคัญอย่างจริงจังหรือไม่
ในอดีตทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศ ต่างก็มองอนาคตของชาติเป็นเงินรายหัวกันหมด ไม่ได้มองถึงการพัฒนาศักยภาพของสมองอย่างแท้จริง เราจึงเห็นสารพัดนโยบายประชานิยม หรือการแจกสารพัด มากกว่าจะใช้นโยบายพัฒนาศักยภาพของเด็กให้มีคุณภาพมากขึ้นและยั่งยืน
นับวันพื้นที่ดีสร้างสรรค์เด็ก เยาวชนและครอบครัว ที่น้อยอยู่แล้ว ก็ยังต้องหดลงไปอีก
...คลื่นสีขาวเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว ยากที่จะเกิดในประเทศไทย !
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
ดิฉันจัดรายการวิทยุมาไม่ต่ำกว่า 15 ปี ผ่านสถานีวิทยุมาหลายสถานี ล้วนแล้วแต่ดำเนินรายการเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวมาโดยตลอด และก็รับรู้สถานการณ์มาโดยตลอดว่านโยบายของทุกรัฐบาลในบ้านเราไม่เคยให้ความสำคัญกับคลื่นวิทยุที่มีรายการเกี่ยวกับเด็กและครอบครัวเลย ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่เคยให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับสื่อทุกประเภทที่เกี่ยวข้องสำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว
ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ในสังคมทุกภาคส่วนต่างก็ประสานเสียงว่าเด็กคืออนาคตของชาติ เด็กสำคัญที่สุด ต้องพัฒนาเด็ก มีทั้งยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี สารพัดแผนแม่บท แผนพัฒนา ฯลฯ ที่เกี่ยวกับเด็กและครอบครัวมากมาย แต่สิ่งที่ไม่เคยจริงจังคือภาคปฏิบัติ
เวลาเกิดปัญหาในสังคมเราก็โทษว่าเพราะเด็กสมัยนี้เป็นแบบนั้นแบบนี้ เด็กยุคนี้ไม่อดทน ไม่ได้เรื่อง ไม่...สารพัด ฯลฯ
แต่กลับไม่หันกลับมามองว่าแล้วทำไมเด็กเหล่านี้ถึงเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะผู้ใหญ่รุ่นเรา ๆ ขึ้นไปหรอกหรือ ที่เป็นคนสร้างผลผลิตของชาติคือเด็กยุคนี้ และรุ่นต่อ ๆ ไป
คลื่นสีขาวเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว คือคลื่น FM 105 สังกัดอยู่กรมประชาสัมพันธ์ และอยู่ในความดูแลของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ที่ผ่านมาคลื่นนี้รับเงินสนับสนุนจากแผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผ่านมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว มีเป้าประสงค์ชัดเจนที่อยากสร้างพื้นที่ดี ๆ สื่อดี ๆ สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว และปลอดโฆษณา
เป็นเรื่องขำไม่ออก ที่จุดเริ่มต้นของการอยากได้พื้นที่สื่อดี ๆ สำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว เริ่มจากกลุ่มเอ็นจีโอ และก็ต้องทำแบบมวยวัด เพราะไม่ได้มีสตุ้งสตังค์อะไรมากมาย การพยายามหาคนทำงานและผู้ดำเนินรายการ ก็ต้องเริ่มจากคนที่รู้จักและรู้ว่าต้องเริ่มงานนี้ที่ “ใจ” เป็นสำคัญ
และแน่นอนตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา คลื่นนี้ก็ลุ้นทุกปีว่าจะได้อยู่ต่อไหม สสส.จะสนับสนุนต่อไหม กรมประชาสัมพันธ์จะยังให้เช่าคลื่นอีกไหม เรียกว่าไม่เคยได้หยุดนิ่ง เพื่อหันไปสนใจการพัฒนาเรื่องเนื้อหาคุณภาพ มากกว่าจะลุ้นว่าคลื่นจะยังอยู่หรือไม่
ดิฉันยอมรับว่าเศร้าและสะเทือนใจจริง ๆ ที่คลื่นสีขาวเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัวจะต้องจากไป และเห็นพลังของพ่อแม่ที่พยายามจะส่งสัญญาณให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้รับรู้ว่า พ่อแม่และลูก ๆ ของพวกเขาได้รับประโยชน์จากคลื่นนี้อย่างไร
ดิฉันไม่ได้มาฟูมฟายว่าจะต้องอยากอยู่ในคลื่นแห่งนี้หรอกค่ะ เพราะดิฉันเป็นเพียงผู้ดำเนินรายการ แต่เชื่อว่าคลื่นนี้มีประโยชน์ต่อสังคม การจะได้จัดรายการหรือไม่ไม่สำคัญ แค่อยากจะบอกว่าถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐควรจะหันมาใส่ใจเรื่องการสร้างคนผ่านสื่อดี ๆ มีคลื่นสีขาวเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัวด้วยนโยบายของภาครัฐเองสักทีเถอะ มิใช่ปล่อยให้เอ็นจีโอหรือคนที่เห็นความสำคัญแต่ไม่มีสตางค์ไปทำกันเองตามยถากรรมเยี่ยงนี้ !
หนึ่งในแผนปฏิรูปประเทศชาติมีเรื่องการสร้างคนมิใช่หรือ !
พ.ญ.ชนิกา ตู้จินดา เคยกล่าวไว้ว่า สื่อมีอิทธิพลสำคัญต่อเด็ก เยาวชน และคนในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง กาย ใจ อารมณ์ สังคม ปัญญา เป็น 5 ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเด็ก ซึ่งสื่อวิทยุสามารถตอบสนองพัฒนาการทั้ง 5 อย่างได้เต็มที่ เพราะการฟังต้องคิดและสร้างจินตนาการตาม ทำให้เด็กเกิดพัฒนาได้เร็ว การเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ผ่านสื่อให้กับเด็ก เยาวชน และครอบครัว จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง เพราะเป็นพื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้ การใช้ความคิด สร้างสรรค์
คลื่นบนหน้าปัดวิทยุของภาครัฐมีมากมาย การจะสนับสนุนพื้นที่ทางปัญญาให้กับเด็ก เยาวชนและครอบครัวไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่ว่าเห็นความสำคัญอย่างจริงจังหรือไม่
ในอดีตทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศ ต่างก็มองอนาคตของชาติเป็นเงินรายหัวกันหมด ไม่ได้มองถึงการพัฒนาศักยภาพของสมองอย่างแท้จริง เราจึงเห็นสารพัดนโยบายประชานิยม หรือการแจกสารพัด มากกว่าจะใช้นโยบายพัฒนาศักยภาพของเด็กให้มีคุณภาพมากขึ้นและยั่งยืน
นับวันพื้นที่ดีสร้างสรรค์เด็ก เยาวชนและครอบครัว ที่น้อยอยู่แล้ว ก็ยังต้องหดลงไปอีก
...คลื่นสีขาวเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว ยากที่จะเกิดในประเทศไทย !
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่