เตรียมเปิดศูนย์ดูแลสุขภาพนักท่องเที่ยว “เชียงใหม่-สถาบันบำราศฯ”

สธ. ร่วม ก.ท่องเที่ยวฯ เตรียมเปิดศูนย์ดูแลสุขภาพนักท่องเที่ยว ใน ธ.ค. นี้ นำร่อง 2 แห่ง “เชียงใหม่ - สถาบันบำราศฯ” เน้นให้ข้อมูล คำแนะนำ ดูแลรักษานักท่องเที่ยวต่างชาติ ก่อนขยายในภูเก็ตและเมืองท่องเที่ยวหลักในปี 59 เผยรองรับแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและเดินทาง หลังไทยเปิดสอนที่แรกในโลก

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา พบว่า เมื่อเกิดปัญหาหมอกควันขึ้นในประเทศไทย นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน ทำให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งภายใน ธ.ค. นี้ สธ. โดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมที่จะเปิดศูนย์ดูแลสุขภาพนักท่องเที่ยว นำร่องใน 2 พื้นที่ คือ จ.เชียงใหม่ และสถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี เพื่อให้การดูแลสุขภาพนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ในเชิงส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค และให้บริการรักษา โดยในปี 2559 จะมีการเปิดศูนย์ดังกล่าวเพิ่มเติมอีกใน จ.ภูเก็ต รวมถึงจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักด้วย

“ที่ตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพนักท่องเที่ยวขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งภาคเหนือยังเกิดปัญหาหมอกควันด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการเดินทางได้ ส่วนสถาบันบำราศฯ นั้น ถือว่ามีชื่อเสียงในการดูแลรักษาโรคติดเชื้อ โดยเฉพาะชาวต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาก็ได้รับการยอมรับว่าดูแลผู้ป่วยโรคเมอร์สจนหายดี ทั้งนี้ ศูนย์ดังกล่าวจะให้ข้อมูล คำแนะนำต่าง ๆ และการประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยว เช่น ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนเดินทางไปท่องเที่ยว อย่าง จ.เชียงใหม่ หมอกควันลงเยอะอาจเผชิญกับการหลงป่า ต้องเตรียมตัวอย่างไร เป็นต้น หรือหากเกิดปัญหาขึ้นนักท่องเที่ยวจะต้องดำเนินการอย่างไร รวมไปถึงให้บริการดูแลรักษาเมื่อเจ็บป่วยด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

นพ.วชิระ กล่าวว่า การดูแลสุขภาพนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนั้น ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในโลกที่มีการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนเฉพาะทางสาขานี้ขึ้น คือ สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยแพทย์ทั่วไปที่เรียนจบแล้วสามารถเรียนต่อเฉพาะทางสาขานี้ได้ ใช้เวลาในการเรียนประมาณ 3 ปี โดยผู้เรียนรุ่นแรกจะจบออกมาในปี 2559 ซึ่งสามารถมาทำงานในศูนย์ดูแลสุขภาพนักท่องเที่ยวหรือโรงพยาบาลเอกชนที่ให้การดูแลนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะได้