เปิด 10 นโยบายปี 59 สธ. เร่งดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว ลดอุบัติเหตุ ลดป่วย-ตาย-แออัด เดินหน้าโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง พัฒนาผลิตยา วัคซีน ย้ำต้องมีการประเมินผลงานเป็นระยะ สานงานต่อได้ในปี 60
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2559 สธ.มีการวางแผนขับเคลื่อนการดำเนินงาน ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้ปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการ มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน และเห็นผลที่ชัดเจน โดยในส่วนของสธ.กำหนดนโยบายในการขับเคลื่อนงานสาธารณสุขในการดูแลสุขภาพประชาชนใน 10 ประเด็น ได้แก่ 1.การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวโดยบูรณาการ 5 กลุ่มวัยในตำบลต้นแบบและจะเริ่มเดินหน้าโครงการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ 2.ลดอุบัติเหตุ มีการดำเนินงานตลอดปี กำหนดจุดเสี่ยงจังหวัดละ 5 จุด ประเมินผลทุก 3 เดือน และเป็นการร่วมกันดำเนินการตลอดไม่ใช่เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น 3.การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ ลดป่วย ลดตาย ลดแออัด ลดเวลารอคอยในการส่งต่อ 4.โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ค้นหา ควบคุม เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เพื่อลดปัญหาโรคไตเรื้อรัง
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า 5.บริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การเงิน พัสดุโปร่งใส 6.ระบบส่งเสริมสุขภาพอนามัยสิ่งแวดล้อม ระบบป้องกันควบคุมโรค ระบบคุ้มครองผู้บริโภค ระบบดูแลภาวะฉุกเฉิน 7.กำจัดโรคพยาธิใบไม้ในตับเพื่อลดมะเร็งท่อน้ำดี โดยการให้ความรู้ประชาชน 8.การพัฒนากฎหมายสาธารณสุข 9.การพัฒนาการผลิตยาและวัคซีน ทำให้ประเทศไทยสามารถพึ่งตัวเองได้ เนื่องจากปัจจุบันไทยยังต้องมีการซื้อทั้งยาและวัคซีนจากต่างประเทศ และ10.การเร่งรัดออกใบอนุญาตของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยมอบให้ผู้บริหารหน่วยงานในส่วนกลางและภูมิภาคนำไปกำหนดเป็นตัวชี้วัดการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ วัดผลได้ และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานทุก 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน และ 12 เดือน เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามในการดำเนินการทั้ง 10 ประเด็นนั้นจะตั้งทำให้เกิดผลที่ชัดเจนสามารถเดินหน้าโครงการต่อได้ในปี 2560
"สำหรับการดำเนินงานในโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เริ่มจากการลดผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง (CKD) ด้วยการควบคุมโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 40-50 เพื่อป้องกันหรือชะลออาการของโรคไตเรื้อรังไม่ให้ก้าวเข้าสู่ระยะท้ายๆ ที่ต้องรับการล้างไต โดยให้โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ เปิด CKD คลินิกดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรังอย่างครบวงจรทั้งนี้ ในการบริหารจัดการด้าน การเงิน การคลัง ของสถานบริการสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อช่วยกันเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารการเงินของหน่วยบริการในพื้นที่ไม่ให้มีปัญหาด้านการเงินการคลัง" รมว.สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่