xs
xsm
sm
md
lg

“ตีบ ตัน แตก อันตรายจากโรคหลอดเลือดสมอง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

รศ.นพ.ยงชัย นิละนนท์
ภาควิชาอายุรศาสตร์

โรคหลอดเลือดสมอง เป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะหากเกิดขึ้น และรักษาไม่ทันการณ์ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ หรืออัมพาต หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

โรคหลอดเลือดสมองตีบเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง โดยความผิดปกตินั้นมี 2 ชนิด คือ ชนิดตีบ หรืออุดตัน ชนิดแตก โดยทั่วไปโรคหลอดเลือดสมองตีบอุดตันพบได้ร้อยละ 80 ในขณะที่ชนิดแตกพบได้ร้อยละ 20 ซึ่งอาการทั้ง 2 ชนิดนี้ คือ อาการเฉียบพลันของทางระบบประสาท เช่น อ่อนแรงครึ่งซีก ชาครึ่งซีก ปากเบี้ยวพูดไม่ได้ กลืนลำบาก ภาพซ้อน เป็นต้น

กลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมอง ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง การสูบบุหรี่ ภาวะน้ำหนักเกิน รวมทั้งหัวใจเต้นผิดจังหวะ

อาการของโรคหลอดเลือดสมอง เริ่มแรกเป็นอาการผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดเฉียบพลัน เช่น อ่อนแรง ชา โดยจะเป็นครึ่งซีกหรือแม้กระทั่งพูดไม่ได้ มองไม่เห็น รวมทั้งการปวดหัวอย่างรุนแรงเฉียบพลันด้วย

การรักษาประกอบด้วย การให้ยาสลายลิ่มเลือดที่จะให้ทางหลอดเลือดดำ โดยในปัจจุบันสามารถให้ได้ 3 - 4 ชั่วโมงครึ่ง ขึ้นกับข้อบ่งชี้ของคนไข้ นอกจากนั้นก็จะมีการใช้สายตรวจที่สอดสายเข้าไปแล้วฉุดลากลิ่มเลือดออกมาเพื่อที่จะเปิดหลอดเลือดใหญ่ให้ได้

ส่วนในเรื่องของอาหารก็สำคัญ ที่แนะนำคือ ผักสด เนื้อสัตว์ ไม่กินมัน ไม่กินหนัง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทุกอย่าง เพื่อรักษาระดับความดัน ไขมัน น้ำตาลและน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง เวลาเป็นปัจจัยสำคัญ ยิ่งรักษาเร็วยิ่งได้ผลดี ที่กล่าวกันว่า มาพบแพทย์ภายใน 3 - 4 ชั่วโมงครึ่ง แพทย์จะให้ยาสลายลิ่มเลือดแต่ความเป็นจริงแล้ว ถ้าผู้ป่วยได้รับยาสลายลิ่มเลือดภายในครึ่งชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมง โอกาสหายเป็นปกติมีสูงถึง 3 เท่าของกลุ่มที่ไม่ได้รับยา และโอกาสนั้นลดลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง บางครั้งจะไม่เกิดอาการ แต่หากท่านตรวจพบแล้วได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นความดันโลหิตสูง ขอให้รับประทานยาและปฏิบัติตัวควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ให้เกณฑ์ปกติ หากไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์

สิ่งสำคัญสำหรับโรคนี้ การเฝ้าระวังตนเอง หมั่นสังเกตอาการ ควบคู่ไปกับการพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ห่างไกลจากโรคนี้ได้
----------

กิจกรรมดี ๆ ที่ศิริราช

11 - 13 พ.ย. เวลา 08.00 - 15.00 น. ณ โถง ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรีฯ เชิญชวนร่วมงานวันเบาหวานโลก (ฟรี) บริการวัดความดันโลหิต เจาะเลือดตรวจน้ำตาลปลายนิ้ว พร้อมรับคำปรึกษาเรื่องเบาหวาน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เสวนาให้ความรู้ เวลา 12.00 - 13.00 น. #11 พ.ย. เรื่อง “น้ำตาลกับเบาวาน” #13 พ.ย. เรื่อง “อาหาร Clean food กับเบาหวาน”

17 พ.ย. 13.00 - 17.00 น. ณ ห้องโถงธนบุรี พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน เชิญชวนร่วมรับฟังเสวนา (ฟรี) ในหัวข้อ “เมืองเปลี่ยน เปลี่ยนเมือง บนรากฐานประวัติศาสตร์เมือง” สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2419 2617-8

ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น