เลขาธิการฯยาสูบ WHO เรียกร้อง “บิ๊กตู่” คลอด พ.ร.บ. ยาสูบฉบับใหม่ - หนุน สสส. รักษาผู้นำต้นแบบควบคุมยาสูบสากล ชี้ กระบวนการสุขภาพ ต้องจัดสรรทรัพยากรดูแล ควบคุม ป้องกันผลกระทบยาสูบอย่างยั่งยืน
วันนี้ (23 พ.ย.) ดร.วีรา ลุยซ์ ดา คอสต้า เอ ซิลวา ประธานคณะเลขาธิการในกรอบอนุสัญญาว่าการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO Framework Convention on Tobacco Control : WHO FCTC) และคณะได้เข้าพบ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อให้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการสนับสนุน พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ โดยมี พญ.มยุรา กุสุมภ์ ที่ปรึกษา รมว.สธ. และ นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) เป็นผู้แทนรับหนังสือ
ดร.ดา คอสต้า เอ ซิลวา กล่าวว่า เป็นที่ทราบดีว่า บุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตและเจ็บป่วยเรื้อรัง ส่งผลกระทบต่อครอบครัว ชุมชน ระบบสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ปัจจุบันองค์การสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก ให้ความสำคัญกับการป้องกันการเกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นลำดับต้น ๆ ซึ่งจากการประชุมสุดยอดผู้นำขององค์การสหประชาชาติครั้งล่าสุด ว่า ด้วยเรื่องของการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN Sustainable Development Summit 2015) ณ นครนิวยอร์ก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าร่วมประชุมด้วยนั้น ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสร้างความเข้มแข็งต่อระบบสุขภาพ ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้น จึงขอแสดงจุดยืนในการสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่ง พ.ร.บ. ฉบับนี้ จะเพิ่มความเข้มแข็งให้กับมาตรการปกป้องประชาชนไทยจากพิษภัยของยาสูบโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน
ดร.ดา คอสต้า เอ ซิลวา กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่ทุกประเทศควรให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่เพียงกรอบทางกฎหมายที่เหมาะสม แต่รวมไปถึงการจัดตั้งและรักษากลไกการเงินที่ยั่งยืนเพื่อการควบคุมยาสูบ และการจัดสรรรายได้จากภาษียาสูบมาใช้เพื่อการควบคุมยาสูบด้วย สำหรับประเทศไทยมีการก่อตั้งกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. มาเป็นเวลาเกือบ 15 ปี ถือเป็นหน่วยงานที่เชื่อมร้อยการทำงานข้ามภาคส่วนต่าง ๆ ให้เกิดการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ผ่านการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ นำไปสู่การมีสุขภาวะทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม
“ในฐานะตัวแทนองค์การอนามัยโลก ขอความกรุณาให้ท่านนายกรัฐมนตรีประเทศไทย โปรดสนับสนุน พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่นี้ต่อไป และขอให้รัฐบาลไทยให้สนับสนุนกลไกการทำงานของ สสส. ในฐานะที่องค์กรที่มีคุณค่า เป็นองค์กรต้นแบบการสร้างเสริมสุขภาพและการควบคุมยาสูบในระดับสากล สร้างคุณประโยชน์ต่อประชาชนไทยและประชาคมโลก หากท่านนายกฯ สนับสนุนทั้ง 2 เรื่องนี้ ประเทศไทยจะยังคงเป็นผู้นำและเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจการควบคุมยาสูบและการสร้างเสริมสุขภาพให้แก่ประเทศทั้งหลายสืบต่อไป” ดร. ดา คอสต้า เอ ซิลวา กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (23 พ.ย.) ดร.วีรา ลุยซ์ ดา คอสต้า เอ ซิลวา ประธานคณะเลขาธิการในกรอบอนุสัญญาว่าการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO Framework Convention on Tobacco Control : WHO FCTC) และคณะได้เข้าพบ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อให้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการสนับสนุน พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ โดยมี พญ.มยุรา กุสุมภ์ ที่ปรึกษา รมว.สธ. และ นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) เป็นผู้แทนรับหนังสือ
ดร.ดา คอสต้า เอ ซิลวา กล่าวว่า เป็นที่ทราบดีว่า บุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตและเจ็บป่วยเรื้อรัง ส่งผลกระทบต่อครอบครัว ชุมชน ระบบสุขภาพและเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ปัจจุบันองค์การสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลก ให้ความสำคัญกับการป้องกันการเกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นลำดับต้น ๆ ซึ่งจากการประชุมสุดยอดผู้นำขององค์การสหประชาชาติครั้งล่าสุด ว่า ด้วยเรื่องของการพัฒนาที่ยั่งยืน (UN Sustainable Development Summit 2015) ณ นครนิวยอร์ก ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าร่วมประชุมด้วยนั้น ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสร้างความเข้มแข็งต่อระบบสุขภาพ ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้น จึงขอแสดงจุดยืนในการสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่ง พ.ร.บ. ฉบับนี้ จะเพิ่มความเข้มแข็งให้กับมาตรการปกป้องประชาชนไทยจากพิษภัยของยาสูบโดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน
ดร.ดา คอสต้า เอ ซิลวา กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่ทุกประเทศควรให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่เพียงกรอบทางกฎหมายที่เหมาะสม แต่รวมไปถึงการจัดตั้งและรักษากลไกการเงินที่ยั่งยืนเพื่อการควบคุมยาสูบ และการจัดสรรรายได้จากภาษียาสูบมาใช้เพื่อการควบคุมยาสูบด้วย สำหรับประเทศไทยมีการก่อตั้งกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. มาเป็นเวลาเกือบ 15 ปี ถือเป็นหน่วยงานที่เชื่อมร้อยการทำงานข้ามภาคส่วนต่าง ๆ ให้เกิดการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ผ่านการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ นำไปสู่การมีสุขภาวะทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม
“ในฐานะตัวแทนองค์การอนามัยโลก ขอความกรุณาให้ท่านนายกรัฐมนตรีประเทศไทย โปรดสนับสนุน พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่นี้ต่อไป และขอให้รัฐบาลไทยให้สนับสนุนกลไกการทำงานของ สสส. ในฐานะที่องค์กรที่มีคุณค่า เป็นองค์กรต้นแบบการสร้างเสริมสุขภาพและการควบคุมยาสูบในระดับสากล สร้างคุณประโยชน์ต่อประชาชนไทยและประชาคมโลก หากท่านนายกฯ สนับสนุนทั้ง 2 เรื่องนี้ ประเทศไทยจะยังคงเป็นผู้นำและเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจการควบคุมยาสูบและการสร้างเสริมสุขภาพให้แก่ประเทศทั้งหลายสืบต่อไป” ดร. ดา คอสต้า เอ ซิลวา กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
