ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สมาคมการค้ายาสูบไทย เผยยอดจำหน่ายบุหรี่ไทยลดลงร้อยละ 50 จากการปรับขึ้นภาษียาสูบ จนถูกบุหรี่เถื่อนต่างประเทศตีตลาดเพราะส่วนต่างของราคาที่ถูกกว่า เร่งหามาตรการด้านการปราบปรามอย่างจริงจัง
วันนี้ (22 ก.ย.) ที่ห้องประชุมโรงแรมเซ็นทรัลสุคนธา โนโวเทล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผอ.บริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย แถลงถึงสถานการณ์ตลาดบุหรี่ไทย โดยเผยว่า ปัจจุบันทางสมาคมการค้ายาสูบไทยมีสมาชิกร้านค้าปลีกทั่วประเทศประมาณ 1,200 แห่ง จากจำนวนร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจำหน่ายบุหรี่กว่า 8 แสนร้านค้า และมีการร้องเรียนว่า ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษียาสูบชนเพดานที่ร้อยละ 90 เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
จนทำให้ราคาขายปลีกสูงขึ้น 10-25 บาท โดยเฉลี่ย และกระทบต่อยอดขายซึ่งลดลงร้อยละ 50 แม้จำนวนผู้บริโภคยังไม่ได้ลดน้อยลง แต่ส่วนใหญ่หันไปสูบบุหรี่เถื่อน หรือบุหรี่ปลอมในตลาดมืดตามจังหวัดที่อยู่แนวชายแดนทั่วประเทศ เพราะมีส่วนต่างของราคาที่ถูกกว่ากันมากเพียงซองละ 20-30 บาท ทำให้รัฐสูญเสียภาษีหลายพันล้านบาทต่อปี
นางวราภรณ์ กล่าวว่า เส้นทางของบุหรี่เถื่อน และบุหรี่ปลอมที่ลักลอบเข้ามาจำหน่ายในประเทศมีหลายเส้นทาง จากกองทัพมด และรถบรรทุก เช่น บุหรี่จากฝั่งพม่า ซึ่งเข้ามาทางแม่สอด และแม่สาย จ.เชียงราย จากประเทศกัมพูชา เข้ามาทางภาคอีสานตอนใต้ และภาคตะวันออก จ.สุรินทร์ ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จากมาเลเซีย ทาง จ.สตูล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากประเทศจีน ลาว และประเทศเวียดนาม มาทาง จ.หนองคาย มุกดาหาร และ จ.นครพนม และเส้นทางเวียดนาม และประเทศสิงคโปร์ เข้ามาทาง จ.ตราด จันทบุรี และ จ.ชลบุรี
นางวราภรณ์ กล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหาเน้นการปราบปราม และจับกุมโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สรรพาสามิต และศุลกากร แต่กำลังมีน้อยไม่สามารถปราบปรามได้หมด และกลุ่มผู้ค้าบุหรี่เถื่อน และบุหรี่ปลอมยังคงมีความพยายามลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายตามจังหวัดแนวชายแดน และเป็นช่วงกอบโกยเพราะได้รับความนิยมของผู้สูบบุหรี่ ทางสมาคมจึงต้องการฝากไปยังหน่วยงานรัฐให้ดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง ทั้งนี้ เนื่องจากรายงานของกรมสรรพสามิตพบว่า ในช่วงเดือนตุลาคม 58 จนถึงเดือนกรกฎาคม 59 พบผู้กระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ยาสูบ 11,512 คดี เป็นเงินค่าปรับ 213 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังถึงปัจจัยอื่นๆ ที่จะกระทบต่อตลาดบุหรี่ถูกกฎหมาย โดยเฉพาะการขึ้นภาษีที่ฉับพลันในอัตราก้าวกระโดด
