เปิดอาคารผู้ป่วยนอกหลังใหม่ รพ.ละอุ่น จ.ระนอง รองรับผู้ป่วยและนักท่องเที่ยวเพิ่ม เหตุเป็นหนึ่งใน 7 จังหวัด นำร่องพัฒนาแหล่งน้ำพุร้อนใช้บำบัดผู้ป่วย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เล็งสร้างระบบจัดเก็บน้ำแร่ในโรงพยาบาล รับลูกนโยบายศูนย์กลางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของรัฐบาล
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ รพ.ละอุ่น จ.ระนอง นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดอาคารผู้ป่วยนอกหลังใหม่ของ รพ.ละอุ่น เพื่อทดแทนอาคารเดิมที่เปิดให้บริการมานาน 36 ปี และมีความคับแคบจากจำนวนผู้มารับบริการที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเตรียมพร้อมรองรับการท่องเที่ยว ว่า อาคารผู้ป่วยนอกหลังใหม่ของ รพ.ละอุ่น ใช้งบค่าเสื่อมประมาณ 15 ล้านบาท ในการก่อสร้างเมื่อปี 2556 แล้วเสร็จเมื่อ มี.ค. 2558 แต่พร้อมเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา ส่วนอาคารผู้ป่วยนอกหลังเดิมได้ปรับเป็นอาคารผู้ป่วยในเพียงอย่างเดียวแทนมีขนาด 10 เตียง ซึ่งการพัฒนา รพ.ละอุ่น ถือเป็นหนึ่งในการดำเนินการเพื่อรองรับนโยบายศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health & Wellness Tourism) ของรัฐบาล เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยพบว่าปี 2557 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 1.17 ล้านล้านบาท ขณะที่การใช้บริการสุขภาพของชาวต่างชาติในไทยช่วยสร้างรายได้มากถึง 107,000 ล้านบาท
“ จ.ระนอง ถือเป็น 1 ใน 7 จังหวัดนำร่องในการพัฒนาแหล่งน้ำพุร้อน ซึ่งลักษณะพิเศษของน้ำพุร้อนที่นี่ คือ ไม่มีสารกำมะถัน ทำให้ไม่มีกลิ่น ซึ่งการแช่น้ำอุ่น น้ำพุร้อน น้ำแร่ มีประโยชน์ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย รักษาโรคผิวหนัง ผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและลดความเครียดได้ มีการนำมาใช้ในการบำบัดผู้ป่วยในโรงพยาบาลหลาย ๆ แห่ง รวมถึง รพ.ละอุ่น ด้วย แต่ต้องระมัดระวังในกลุ่มเสี่ยง คือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น เพราะอาจได้รับอันตรายที่เกิดจากความร้อนภายในร่างกายเกิดการสะสมอย่างรวดเร็ว จนร่างกายปรับตัวไม่ทัน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ควรวัดความดันทุกครั้งก่อนแช่น้ำร้อน หากมีความดันโลหิตสูงก็ไม่ควรแช่ ” ปลัด สธ. กล่าว
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับประชาชนทั่วไปควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อป้องกันอันตราย เช่น สังเกตอุณหภูมิของน้ำที่ระบุไว้ ที่เหมาะสม คือ ไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส ก่อนแช่น้ำอุ่นจัด หรือน้ำร้อน 15 - 20 นาที ควรดื่มน้ำ 2 แก้ว และดื่มเป็นระยะ ทุก ๆ 15 นาที เพื่อให้ร่างกายมีปริมาณน้ำที่เพียงพอ ไม่ควรแช่นานเกิน 5 - 10 นาที ที่สำคัญหากรู้สึกเพลีย หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม คลื่นไส้ ควรหยุดการแช่ทันที หากไม่ดีขึ้นควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
ทพ.อนุรักษ์ อังษานาม ผอ.รพ.ละอุ่น จ.ระนอง กล่าวว่า รพ.ละอุ่น เป็นโรงพยาบาลอีกแห่งที่ใช้น้ำแร่ในการให้บริการบำบัดผู้ป่วย โดยเปิดให้บริการแช่เท้าสมุนไพรน้ำแร่แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น ลดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน โดยเปิดให้บริการสัปดาห์ละ 1 วัน เนื่องจากยังมีข้อจำกัดในการขนส่งน้ำแร่มายังโรงพยาบาล คือ จะต้องนำน้ำแร่ใส่ถังขนส่งเข้ามา ทั้งนี้ ในอนาคตหากมีงบประมาณที่เพียงพอ โรงพยาบาลมีแนวคิดที่จะทำให้ระบบดังกล่าวดีขึ้น โดยอาจต่อท่อจากบ่อน้ำร้อนเข้ามาที่โรงพยาบาลโดยตรง หรือสร้างที่เก็บน้ำแร่ขนาดใหญ่ไว้ เพื่อรองรับด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งประชาชนสามารถร่วมบริจาคเงินเพื่อซื้อวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาคารผู้ป่วยใน อาคารแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลละอุ่นได้ผ่านบัญชี เงินบริจาคโรงพยาบาลละอุ่น เลขที่ 020017680610 สาขาระนอง
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่