สสส. ชวนนักวิ่งร่วมสร้างประวัติศาสตร์ วิ่งสู่ชีวิตใหม่ “Thai Health Day 10K Run 2015” คาด มีนักวิ่งกว่า 1 หมื่นคน ร่วมทำสถิติ 100,000 กม. 8 พ.ย. นี้ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า พร้อมนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย สมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา กองทุนช่วยเหลือนักวิ่ง
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. เวลา 14.00 น. ณ ห้อง Let’s Go Green ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิแผนกิจกรรมทางกาย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และนายพจน์ เพิ่มพรพิพัฒน์ ประธานสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย ร่วมแถลงข่าวโครงการ “Thai Health Day 10K Run 2015” ภายใต้คำขวัญ “วิ่งสู่ชีวิตใหม่” (Run for New Life) ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า กรุงเทพมหานคร
นายณรงค์ กล่าวว่า สสส. ร่วมกับสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงาน “วิ่งสู่ชีวิตใหม่” ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “วิ่งเปลี่ยนชีวิต” หรือ “Running can change your life” สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ สสส. ที่มุ่งเน้นการรณรงค์เพื่อสร้างกระแสการตื่นตัวในเรื่องสุขภาพ การสร้างองค์ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพ และการผลักดันนโยบายด้านการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อสุขภาวะของประชาชน โดยไฮไลต์ในปีนี้จะขอเชิญชวนนักวิ่งมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนที่มาร่วมงานวิ่ง ประมาณ 10,000 คน ในจำนวนนี้เป็นนักวิ่งหน้าใหม่ ประมาณ 5,000 คน จะมีการนับระยะทางรวมของนักวิ่งทุกคนให้ได้ 100,000 กิโลเมตร โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย นำสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา และกองทุนช่วยเหลือนักวิ่ง
นายณรงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการวิ่งสู่ชีวิตใหม่ “Thai Health Day Run” เริ่มตั้งแต่ปี 2555 มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายด้วยการวิ่งเพื่อสุขภาพที่ดี รวมถึงกระตุ้นให้เกิดนักวิ่งหน้าใหม่เข้าสู่สนามวิ่ง และเป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเอง ประกอบด้วยกิจกรรม อาทิ การพัฒนาผู้นำการวิ่งเพื่อสุขภาพเพื่อเป็นแกนนำในการสร้างนักวิ่งหน้าใหม่ จัดอบรมอาสาสมัคร ได้แก่ ทีมนักวิ่งนำเวลา (pacer) ทำหน้าที่วิ่งนำนักวิ่งให้เข้าสู่เส้นชัยภายในช่วงเวลาที่ตั้งใจไว้ ทีมปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉิน (First Aid/EMS) ทำหน้าที่ดูแลนักวิ่งที่ประสบปัญหาการบาดเจ็บระหว่างเส้นทางวิ่ง และทีมสนับสนุนการบริการท้ายขบวนวิ่ง (Sweeper) ทำหน้าที่ให้บริการและดูแลความเรียบร้อยตลอดเส้นทางการวิ่ง นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครที่อยู่ประจำตามจุดให้น้ำต่าง ๆ อาสาสมัครดูแลความสะอาด เพื่อสร้างมาตรฐานการวิ่งให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
ด้าน นายพจน์ กล่าวว่า ขอเชิญชวนนักวิ่งทบทวนการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองที่เกิดจากการวิ่ง และมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์สะสมระยะทางวิ่ง โดยนำระยะทางของนักวิ่งทุกคนจาก 3 ประเภท ได้แก่ วิ่ง 10 กิโลเมตร วิ่ง 5 กิโลเมตร และเดินวิ่ง 3 กิโลเมตร มารวมกันให้ได้เป้าหมายคือ 100,000 กิโลเมตร
สำหรับประเภทการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะทาง 3 กิโลเมตร ค่าสมัคร 100 บาท รางวัลลำดับ 1 - 5 แบ่งเป็นรางวัลสำหรับ กลุ่มอายุชาย อายุ 7 - 8 ปี, 9 - 10 ปี และ 11 - 12 ปี และรางวัลสำหรับกลุ่มหญิง อายุ 7 - 8 ปี, 9 - 10 ปี และ 11 - 12 ปี ส่วนผู้สมัครที่อายุเกิน 12 ปี สามารถสมัครระยะ 3 กม. ได้ แต่ไม่มีการแข่งขัน และหากอายุเกิน 15 ปี ค่าสมัคร 200 บาท ระยะทาง 5 กิโลเมตร ค่าสมัคร 100 บาท รางวัลลำดับ 1 - 5 กลุ่มอายุ ชาย 13 - 15 ปี และ หญิง 13 - 15 ปี ส่วนผู้สมัครที่อายุเกิน 15 ปี สามารถสมัครระยะ 5 กม. ได้ แต่ไม่มีการแข่งขัน และค่าสมัคร 200 บาท และระยะทาง 10 กิโลเมตร ค่าสมัคร 200 บาท รางวัลลำดับ 1 - 5 นักวิ่งชายแบ่งเป็นกลุ่มอายุ 16 - 19 ปี, 20 - 29 ปี, 30 - 39 ปี, 40 - 49 ปี, 50 - 59 ปี, 60 - 69 ปี และ 70 ปีขึ้นไป สำหรับผู้หญิงแยกเป็นกลุ่มอายุ 16 - 19 ปี, 20 - 29 ปี, 30 - 39 ปี, 40 - 49 ปี, 50 - 59 ปี และ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งผู้สมัครทุกคนจะได้รับเสื้อและเหรียญเป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ สสส. ยังร่วมกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในการส่งเสริมการพัฒนาสติจากการเดินและวิ่ง มีนิทรรศการวิ่งสู่ชีวิตใหม่ นิทรรศการบนทางวิ่ง เพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจในเรื่องการวิ่ง สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมงานวิ่ง Thai Health Day 10K Run 2015 จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2558 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า กรุงเทพมหานคร สมัครได้ที่สมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย หรือสมัครผ่านออนไลน์ได้ที่ FB: www.facebook.com/thaijoggingmagazine Email: thaihealthdayrun@gmail.com โทร. 02-2787913
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่