บอร์ดกำกับ สสส. เร่งตีกรอบการทำงาน “สุขภาพ” ของ สสส. เบื้องต้นยึดตาม พ.ร.บ.กองทุนฯ ชี้ โยงทุกสิ่งเป็นเรื่องสุขภาพทำให้ไม่มีจุดสิ้นสุด จี้หยุดเบิกจ่ายงบโครงการไม่ตรงวัตถุประสงค์ก่อน ด้านประธาน กมธ.สธ. สนช. เผย สสส. ทำงานกว้างเกินไป หลายเรื่องดูไม่เกี่ยวสุขภาพ ย้ำตัวชี้วัดสุขภาพต้องชัดเจน
จากกรณีคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ทำหนังสือรายงานผลการตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า มีการใช้งบประมาณส่วนหนึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และให้ยุติการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนนั้น ขณะที่ สสส. ระบุว่า การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2559 ยังคงเป็นไปตามปกติ แต่จะนำข้อเสนอของ คตร. เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ (บอร์ด) สสส.
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า บอร์ด สสส. ต้องนำหนังสือของ คตร. มาพิจารณา ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียดว่าการใช้งบประมาณไม่ตรงตามวัตถุประสงค์เป็นเรื่องอะไร หรือโครงการลักษณะใดบ้าง แต่ทาง สสส. ทราบดี ก็ต้องนำตรงนี้มาพิจารณา โดยอาจชะลอการอนุมัติโครงการที่มีลักษณะตามที่ คตร. ระบุว่า ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่เหมาะสมออกไปก่อน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงต้นปีงบประมาณ 2559 จึงอาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สังคมกำลังคิดว่า สสส. อนุมัติโครงการที่เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มตัวเอง จึงมองว่า สสส. ควรทำเรื่องความโปร่งใส การตรวจสอบ และธรรมาภิบาลให้ชัดเจน ทำให้สังคมยอมรับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างการตรวจสอบควรมีการย้าย ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. เหมือนกรณี นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. หรือไม่ นพ.เจตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีลงมา ก็คิดว่าผู้จัดการ สสส. น่าจะยังทำงานต่อได้ไม่มีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ดุลพินิจนายกฯ ด้วย ที่สำคัญคือ ไม่ทราบว่าหนังสือที่ คตร. ยื่นต่อนายกฯ นั้นมีรายละเอียดเป็นเช่นไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงการตีความเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพที่ต่างกัน ทำให้ คตร. มองว่า สสส. ใช้งบประมาณไม่ตรงวัตถุประสงค์ นพ.เจตน์ กล่าวว่า หากเป็นเรื่องของสุขภาวะก็จะโยงทุกสิ่งทุกเรื่องเข้ามาเกี่ยวข้องได้ทั้งหมด แต่อำนาจของ สสส. คือ เรื่องสุขภาพ การทำงานมองว่าต้องทำให้ชัดเจนตามกฎหมายที่มี เพราะการทำงานที่กว้างจนเกินไป ทำให้มองว่าการดำเนินงานของ สสส. ดูไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสุขภาพ ดังนั้น การเข้าไปสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของ สสส. ก็ต้องมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน และอธิบายได้ชัดเจนว่าให้ผลลัพธ์ทางสุขภาพอย่างไร ยกตัวอย่าง เรื่องสิ่งแวดล้อมบางเรื่องก็เกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพ เช่น อากาศเป็นพิษจากโรงงาน ส่งผลต่อทางเดินหายใจ แร่โลหะหนักจากเหมืองทองคำในน้ำ มลภาวะที่ก่อให้เกิดเชื้อโรค เป็นต้น แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ดังนั้น องค์ประกอบของบอร์ด สสส. ผู้อนุมัติแผนงานโครงการต่าง ๆ ต้องมีองค์ความรู้พิจารณาอย่างรอบคอบ ทุกอย่างก็จะชัดเจน แต่หาก สสส. มั่นใจว่า ดำเนินการถูกต้อง ก็สามารถชี้แจง อธิบายต่อ คตร. ได้
ด้าน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การตีความเรื่องสุขภาพระหว่าง สสส. และ คตร. ยังคงมีอยู่ คณะกรรมการกำหนดทิศทาง สสส. ซึ่งมี นพ.เสรี ตู้จินดา ประธานที่ปรึกษา รมว.สธ. เป็นประธาน จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาร่วมพิจารณาถึงสิ่งที่เห็นต่างอยู่ในขณะนี้ เพื่อกำหนดกรอบการทำงานด้านสุขภาพของ สสส.ให้ชัดเจน ซึ่งจะตีความตาม พ.ร.บ. กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพก่อน แล้วภายหลังจะขยายขอบเขตการทำงานออกไปเป็นเรื่องใดก็ค่อยมากำหนดภายหลัง แต่เบื้องต้นต้องยึดตาม พ.ร.บ. ก่อน มิเช่นนั้นก็จะดูเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเร่งดำเนินการ ส่วนเรื่องการใช้งบประมาณขณะนี้อะไรที่ คตร. ระบุว่า ใช้งบประมาณไม่ตรงตามวัตถุประสงค์กองทุน ยังมีข้อสงสัย หรือไม่ชัดเจน ก็ให้หยุด หรือชะลอการเบิกจ่ายไว้ก่อน แต่คงไม่ใช่ยุติการเบิกจ่ายงบประมาณในทุกเรื่อง เรื่องใดที่ทำได้ก็สามารถเดินหน้าต่อได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
จากกรณีคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ทำหนังสือรายงานผลการตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า มีการใช้งบประมาณส่วนหนึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และให้ยุติการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุนนั้น ขณะที่ สสส. ระบุว่า การเบิกจ่ายงบประมาณปี 2559 ยังคงเป็นไปตามปกติ แต่จะนำข้อเสนอของ คตร. เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ (บอร์ด) สสส.
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า บอร์ด สสส. ต้องนำหนังสือของ คตร. มาพิจารณา ซึ่งตนไม่ทราบรายละเอียดว่าการใช้งบประมาณไม่ตรงตามวัตถุประสงค์เป็นเรื่องอะไร หรือโครงการลักษณะใดบ้าง แต่ทาง สสส. ทราบดี ก็ต้องนำตรงนี้มาพิจารณา โดยอาจชะลอการอนุมัติโครงการที่มีลักษณะตามที่ คตร. ระบุว่า ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่เหมาะสมออกไปก่อน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงต้นปีงบประมาณ 2559 จึงอาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สังคมกำลังคิดว่า สสส. อนุมัติโครงการที่เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มตัวเอง จึงมองว่า สสส. ควรทำเรื่องความโปร่งใส การตรวจสอบ และธรรมาภิบาลให้ชัดเจน ทำให้สังคมยอมรับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างการตรวจสอบควรมีการย้าย ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. เหมือนกรณี นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. หรือไม่ นพ.เจตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีลงมา ก็คิดว่าผู้จัดการ สสส. น่าจะยังทำงานต่อได้ไม่มีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ดุลพินิจนายกฯ ด้วย ที่สำคัญคือ ไม่ทราบว่าหนังสือที่ คตร. ยื่นต่อนายกฯ นั้นมีรายละเอียดเป็นเช่นไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงการตีความเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพที่ต่างกัน ทำให้ คตร. มองว่า สสส. ใช้งบประมาณไม่ตรงวัตถุประสงค์ นพ.เจตน์ กล่าวว่า หากเป็นเรื่องของสุขภาวะก็จะโยงทุกสิ่งทุกเรื่องเข้ามาเกี่ยวข้องได้ทั้งหมด แต่อำนาจของ สสส. คือ เรื่องสุขภาพ การทำงานมองว่าต้องทำให้ชัดเจนตามกฎหมายที่มี เพราะการทำงานที่กว้างจนเกินไป ทำให้มองว่าการดำเนินงานของ สสส. ดูไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสุขภาพ ดังนั้น การเข้าไปสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของ สสส. ก็ต้องมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน และอธิบายได้ชัดเจนว่าให้ผลลัพธ์ทางสุขภาพอย่างไร ยกตัวอย่าง เรื่องสิ่งแวดล้อมบางเรื่องก็เกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพ เช่น อากาศเป็นพิษจากโรงงาน ส่งผลต่อทางเดินหายใจ แร่โลหะหนักจากเหมืองทองคำในน้ำ มลภาวะที่ก่อให้เกิดเชื้อโรค เป็นต้น แต่ไม่ใช่ทุกเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ดังนั้น องค์ประกอบของบอร์ด สสส. ผู้อนุมัติแผนงานโครงการต่าง ๆ ต้องมีองค์ความรู้พิจารณาอย่างรอบคอบ ทุกอย่างก็จะชัดเจน แต่หาก สสส. มั่นใจว่า ดำเนินการถูกต้อง ก็สามารถชี้แจง อธิบายต่อ คตร. ได้
ด้าน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การตีความเรื่องสุขภาพระหว่าง สสส. และ คตร. ยังคงมีอยู่ คณะกรรมการกำหนดทิศทาง สสส. ซึ่งมี นพ.เสรี ตู้จินดา ประธานที่ปรึกษา รมว.สธ. เป็นประธาน จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาร่วมพิจารณาถึงสิ่งที่เห็นต่างอยู่ในขณะนี้ เพื่อกำหนดกรอบการทำงานด้านสุขภาพของ สสส.ให้ชัดเจน ซึ่งจะตีความตาม พ.ร.บ. กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพก่อน แล้วภายหลังจะขยายขอบเขตการทำงานออกไปเป็นเรื่องใดก็ค่อยมากำหนดภายหลัง แต่เบื้องต้นต้องยึดตาม พ.ร.บ. ก่อน มิเช่นนั้นก็จะดูเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเร่งดำเนินการ ส่วนเรื่องการใช้งบประมาณขณะนี้อะไรที่ คตร. ระบุว่า ใช้งบประมาณไม่ตรงตามวัตถุประสงค์กองทุน ยังมีข้อสงสัย หรือไม่ชัดเจน ก็ให้หยุด หรือชะลอการเบิกจ่ายไว้ก่อน แต่คงไม่ใช่ยุติการเบิกจ่ายงบประมาณในทุกเรื่อง เรื่องใดที่ทำได้ก็สามารถเดินหน้าต่อได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่