xs
xsm
sm
md
lg

แนะ สหรัฐฯ แก้ปัญหาราคายาพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รศ.ดร.ภญ.นุศราพร เกษสมบูรณ์
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ข่าวการขึ้นราคายา “ดาราพริม” (Daraprim) สูงกว่า 4000% ชั่วข้ามคืน ของบริษัท เทอริ่ง (Turing Pharmaceuticals) สหรัฐอเมริกา เป็นที่กล่าวขวัญทั่วโลก ถึงพฤติกรรมการตั้งราคายาอย่างบ้าคลั่ง และปัญหาของสหรัฐอเมริกาที่ขาดกลไกการดูแลราคายา จนทำให้ค่าใช้จ่ายสุขภาพของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ยาดาราพริม หรือชื่อทางยา ไพริเมธามีน (pyrimethamine) เป็นยาที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อปรสิต ท็อกโซพลาสโมซิส (toxoplasmosis) ซึ่งมักจะเกิดในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์

การปรับราคาขึ้นพรวดเดียว 40 เท่า จากราคาเดิม 17.5 เหรียญ (หรือประมาณ 600 บาท) ต่อเม็ด เป็น 750 เหรียญ (หรือประมาณ 26,000 บาท) ต่อเม็ด ทั้งที่เป็นยาที่ใช้มานานกว่า 60 ปี และขณะนี้ไม่ติดสิทธิบัตรแล้ว ทำไม บริษัท เทอริ่ง จึงตั้งยาราคาที่สูงลิ่วในกรณีนี้ได้ กลไกตลาดทำงานเช่นไร

โดยทั่วไปหากตลาดมีการแข่งขันสมบูรณ์ ราคาของสินค้าจะกำหนดโดยกลไกตลาด ผ่านการแข่งขันของผู้ผลิตที่นำเสนอสินค้าและบริการที่มีคุณภาพดีกว่า ในราคาถูกกว่าเพื่อให้ผู้บริโภคพึงพอใจ ราคาของสินค้าในตลาดแบบนี้จะมีค่าเข้าใกล้ต้นทุนของสินค้า ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จากการบริโภคสินค้าที่พึงพอใจในราคาต่ำจากการแข่งขันในตลาด ตลาดแบบนี้พบในตลาดของสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป เช่น สบู่ ผงซักฟอก

ในทางตรงกันข้าม ตลาดยาไพริเมธามีน ในกรณีสหรัฐฯ มีลักษณะเฉพาะที่ทำให้กลไกตลาดไม่สามารถทำงานได้ เพราะมีผู้ขายน้อยราย ภาวะการณ์ของตลาดยาในลักษณะนี้ หากปล่อยให้การบริโภคดำเนินไปตามกลไกตลาดที่ทำงานได้อย่างจำกัด ผู้บริโภคจะต้องใช้ยาในราคาที่แพงเกินจริง ในขณะที่ผู้ผลิตจะค้ากำไรเกินควร ดังนั้น ในหลายประเทศจึงมีมาตรการต่าง ๆ ในการแทรกแซงกลไกตลาดยา เพื่อควบคุมราคายาให้อยู่ในระดับที่สมเหตุผล

การออกแบบระบบเพื่อจัดการราคายาของประเทศเป็นเรื่องสำคัญ องค์การอนามัยโลกได้จัดทำแนวทางเพื่อช่วยให้ประเทศสมาชิกนำไปใช้ประกอบการออกแบบนโยบายในการจัดการราคายา สรุปดังนี้

-แต่ละประเทศควรปรับใช้นโยบายการกำหนดราคาที่หลากหลาย ขึ้นกับประเภทของยาและระบบสุขภาพของตนเอง

-ระบบควรจะออกแบบให้มีการติดตาม กำกับดูแล ราคายาอย่างใกล้ชิด สม่ำเสมอ เพื่อประเมินผล และปรับแก้ให้มีประสิทธิภาพ

-รัฐบาลควรคำนึงถึงหลักการดำเนินนโยบายที่มีความสอดรับทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน กล่าวคือ จัดการทั้งด้านปริมาณการใช้ยา และ ราคายา ไปพร้อมกัน

รัฐบาลสหรัฐ ควรจะพิจารณาปรับใช้ข้อเสนอจากองค์การอนามัยโลก เพื่อมิให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ราคายาพุ่งพรวด 4000%

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น