xs
xsm
sm
md
lg

กัญชารักษาโรคกว่า 50 ตำรับ หนุนเปิดช่องทางวิจัย แต่ไม่ใช่ใช้เสรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรมแพทย์แผนไทยเผย “กัญชา” เป็นส่วนผสมรักษาโรคกว่า 50 ตับ แก้นอนไม่หลับ ปวดท้อง ปวดตัว แก้พิษไข้ ช่วยเจริญอาหาร ด้าน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ระบุช่วยผู้ป่วยมะเร็งฟื้นตัวเร็ว หนุนเปิดทางวิจัยใช้ทางการแพทย์ แต่ไม่ใช่ใช้เสรี

วันนี้ (2 ก.ย.) นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีข้อเสนอการเปิดเสรีกัญชา เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ว่า กัญชาจัดเป็นยาเสพติด จึงไม่สามารถปลูก มีไว้ในครอบครอง หรือวิจัยได้ แต่ทางกลับกันกฎหมายอนุญาตให้แพทย์แผนปัจจุบันที่มีใบประกอบโรคศิลปะ สามารถใช้ยาที่มีลักษณะในกลุ่มยาเสพติดได้ในบางประเภท เช่น มอร์ฟีน นำมาใช้ลดอาการปวดก่อนการผ่าตัด เพียงแต่กัญชาไม่มีการนำมาใช้มาก แม้จะลดอาการปวดได้เช่นกัน เพราะไม่มีงานวิจัยยืนยันชัดเจน และไม่มีกฎหมายที่เปิดช่องในเรื่องการนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

กัญชาจัดเป็นตำรับยาที่มีการใช้มาตั้งแต่อดีต ที่ผ่านมา ได้มอบให้สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทย ไปรวบรวมข้อมูล เบื้องต้นพบว่า ตำรับยาที่มีส่วนประกอบของกัญชามีประมาณ 56 ตำรับ ส่วนใหญ่จะแก้อาการปวด ทั้งปวดท้อง ปวดตัว รวมไปถึงแก้พิษไข้ เจริญอาหาร กินได้นอนหลับ เป็นต้น เช่น ตำรับยาแก้ไข้นอนไม่หลับ ในคัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณขุนโสภิตบรรณลักษณ์ เล่ม 1 ตำรับยาสุขไสยาต คัมภีร์แพทย์ไทยแผนโบราณ ช่วยแก้ไข้สามฤดู แก้ไข้ แก้อาการหอบ แก้นอนไม่หลับ เป็นต้น แต่ต้องปรุงด้วยหมอยาที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะส่วนผสมมีมาก ซึ่งในสมัยก่อนมีการทำกัน แต่เมื่อกัญชาถูกจัดเป็นยาเสพติดจึงไม่มีการนำมาใช้อีก ดังนั้น หากกฎหมายอนุญาตให้ใช้ในทางการแพทย์ โดยรัฐมีนโยบายอนุญาตให้วิจัย และมีขอบเขตในการปลูกกับการนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เชื่อว่า จะมีการวิจัยมากขึ้น เพราะตัวกัญชามีศักยภาพทางการแพทย์อยู่แล้ว” นพ.ธวัชชัย กล่าว

ด้าน ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้าโครงการสาธิตการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร โรงพยาบาล เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ประเทศไทยมีการปลูกและใช้ประโยชน์จากกัญชามานาน เพราะมีสรรพคุณเป็นยา แต่ปัจจุบันเมื่อถูกจัดเป็นยาเสพติดทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ใด ๆ ได้ ทั้งที่กัญชาช่วยแก้ลมสารพัด ทั้งลมชัก ไมเกรน พาร์กินสัน มีงานวิจัยจากต่างประเทศมากมาย ขณะที่สหรัฐอเมริกา มีประมาณ 20 รัฐ ที่นำมาใช้ประโยชน์ด้านยา ช่วยในเรื่องการนอนไม่หลับ ช่วยลดอาการปวด ช่วยย่อยอาหาร กินอาหารได้มากขึ้น และช่วยฟื้นตัวของผู้ป่วยมะเร็งที่ทำการฉายแสงฉายรังสี เป็นต้น ปัญหาคือ ปัจจุบันเมื่อถูกจัดเป็นยาเสพติด โอกาสในการนำมาวิจัยมาศึกษาเพิ่มเติมก็เป็นไปไม่ได้ จึงน่าจะมีนโยบายและกฎหมายมาสนับสนุนตรงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องการบำบัดรักษามะเร็งนั้น แพทย์แผนปัจจุบันไม่เห็นด้วย เพราะทุกวันนี้มียารักษาอยู่แล้ว ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า นี่เป็นอีกทางเลือกในการรักษา เพราะอย่าลืมว่าทุกวันนี้ยังไม่มียาหรือวิธีใดรักษามะเร็งได้ทั้งหมด อย่างกรณีมอร์ฟีน แก้ปวดนั้น ก็เป็นยาเสพติดชนิดหนึ่งแต่กฎหมายอนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์ได้ แต่ปัจจุบันไทยต้องนำเข้า แต่หากหันมาใช้กัญชา นอกจากไม่ต้องนำเข้า ปลูกเองเป็นภูมิปัญญาไทย ทำให้พึ่งตนเองได้ และยังลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพอีกมากมายกว่า 1.6 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ไม่ได้สนับสนุนให้ใช้กัญชาอย่างเสรี เพียงแต่อยากให้มีช่องในการวิจัยพัฒนาได้ โดยเน้นในเรื่องทางการแพทย์ เพราะภูมิปัญญาไทยมีอยู่ มีตำรับตำรามากมายรักษาโรคได้ จึงจะดีกว่าหรือไม่หากนำกัญชามาใช้ประโยชน์ ไม่ใช่แค่ห่วงเรื่องโทษจากการเสพติดอย่างเดียว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะพิจารณาในส่วนนี้ด้วย

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น