หมอลงพื้นที่ในท้องถิ่นทุรกันดารหลายครั้ง เคยเจอชาวบ้านวัยกลางคนลุกขึ้นเดินไม่ได้ ต้องคลาน 4 ขา สีหน้าบ่งบอกถึงอาการเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน อย่างเห็นได้ชัด
นพ.ลักษณ์ ชุติธรรมานันท์ โรงพยาบาลแพร่ เล่าความรู้สึกในฐานะที่ผมเป็นหมอกระดูกและข้อ ว่า ผมเห็นคนไข้ต้องทนเจ็บปวด ก็อยากช่วยคนไข้ให้พ้นทุกข์ อยากเปลี่ยนชีวิตคนไข้ให้กลับมาเดินได้ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกครั้ง ซึ่งผู้ป่วยรายดังกล่าวเข้ารับการผ่าตัดโดยใช้บัตรทอง และฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายจนกระทั่งใช้ชีวิตตามปกติ
“ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่ถือบัตร 30 บาท นับว่าโชคดีที่สิทธิในการรักษาครอบคลุมการเข้าถึงยา การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ช่วยชุบชีวิตผู้ป่วยให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ยังไม่มี 30 บาท ผู้ป่วยจะต้องหาเงินมาจ่ายค่ายา ค่าผ่าตัด ซึ่งราคาสูงพอสมควร”
เราอาจจะไม่ค่อยเห็นคนกรุงเทพฯ หรือคนเมือง ป่วยด้วยโรคข้อเข่าเสื่อมมากนัก อาจเป็นเพราะวิถีชีวิต พฤติกรรมการใช้ชีวิตแตกต่างกัน คนกรุงเทพฯไม่ต้องแบกหาม ยกของหนัก เหมือนคนต่างจังหวัด อีกอย่างพอร่างกายมีอาการผิดปกติมักจะรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งต่างจากชาวบ้านที่อยู่ชนบท พื้นที่ห่างไกล ส่วนใหญ่อาชีพทำไร่ ทำนา รับจ้าง ต้องแบกหาบของหนัก ๆ เมื่อมีอาการปวดขา ปวดเข่า มักจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ จึงไม่ได้ไปพบแพทย์ จนกระทั่งอาการลุกลามมากขึ้น บางคนเดินขาโก่ง บางคนข้อเข่าเสื่อม ลุกเดินไม่ถนัด แต่ไม่กล้ามาหาหมอเพราะกลัวไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา
นพ.ลักษณ์ กล่าวว่า ต้องอธิบายให้ญาติ คนป่วย รู้ว่า 3 บัตร ได้แก่ บัตรสวัสดิการข้าราชการ บัตรประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ทั้ง 3 บัตรนั้น ครอบคลุมการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการรักษาแพทย์จะต้องตรวจวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยว่าผู้ป่วยมีอาการระดับไหน บางรายอาจจะแค่รักษาโดยการทานยา ปรับขาโก่งให้ตรงขึ้น หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
“ชาวบ้านจำนวนมากยังไม่ค่อยรู้ว่า การรักษาข้อเข่าเสื่อมใช้ได้ทุกสิทธิ แต่ต้องยอมรับว่าสิทธิสวัสดิการข้าราชการ มีโอกาสเลือกวิธีการรักษา เลือกยา ได้มากกว่าบัตรอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การรักษาข้อเข่าเสื่อมของผู้ถือบัตรทอง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้กำหนดสเปกการรักษาตามมาตรฐาน ทั้งเรื่องยา การผ่าตัด ตลอดจนการฟื้นฟูผู้ป่วยหลังผ่าตัด พูดง่าย ๆ ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาจนสามารถพลิกชีวิตผู้ป่วยที่เดินติดขัด โขยงเขยง ให้กลับมาเดินตรงได้”
นพ.ลักษณ์ กล่าวต่อว่า ในอนาคตบ้านเราจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ จะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การรักษาพยาบาลเกี่ยวกับเรื่องกระดูก ข้อเสื่อม วงการแพทย์ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี มีเทคนิคการผ่าตัด อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยผ่าตัดแผลเล็กลง จำนวนวันในการนอนพักในโรงพยาบาลลดลง ซึ่งเป็นการลดครอสค่าใช้จ่าย ที่สำคัญ ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น ลดภาระการดูแลของญาติอีกด้วย
ในเมื่อวงการแพทย์ได้พัฒนาเทคโนโลยีการรักษาอย่างไม่หยุดยั้ง จะเห็นได้ว่ามีแนวทางการรักษารูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นยา วัสดุที่ใช้ในการรักษา อย่างไรก็ตาม การรักษาผู้ป่วยแต่ละรายแพทย์จะวินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะกับผู้ป่วยและสิทธิของผู้ป่วย อย่างแพทย์พบว่าผู้ป่วยรายหนึ่งแพ้โลหะ ก็จะใช้อย่างอื่นทดแทน บางรายแพ้ยาตัวนี้จะจ่ายยาตัวอื่นแทน
…เมื่อวงการแพทย์พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้รักษาผู้ป่วย ฉะนั้น การรักษาควรเปิดให้แพทย์เลือกสิ่งใหม่ ๆ ในการรักษาผู้ป่วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ลักษณ์ ชุติธรรมานันท์ โรงพยาบาลแพร่ เล่าความรู้สึกในฐานะที่ผมเป็นหมอกระดูกและข้อ ว่า ผมเห็นคนไข้ต้องทนเจ็บปวด ก็อยากช่วยคนไข้ให้พ้นทุกข์ อยากเปลี่ยนชีวิตคนไข้ให้กลับมาเดินได้ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกครั้ง ซึ่งผู้ป่วยรายดังกล่าวเข้ารับการผ่าตัดโดยใช้บัตรทอง และฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายจนกระทั่งใช้ชีวิตตามปกติ
“ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมที่ถือบัตร 30 บาท นับว่าโชคดีที่สิทธิในการรักษาครอบคลุมการเข้าถึงยา การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ช่วยชุบชีวิตผู้ป่วยให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ยังไม่มี 30 บาท ผู้ป่วยจะต้องหาเงินมาจ่ายค่ายา ค่าผ่าตัด ซึ่งราคาสูงพอสมควร”
เราอาจจะไม่ค่อยเห็นคนกรุงเทพฯ หรือคนเมือง ป่วยด้วยโรคข้อเข่าเสื่อมมากนัก อาจเป็นเพราะวิถีชีวิต พฤติกรรมการใช้ชีวิตแตกต่างกัน คนกรุงเทพฯไม่ต้องแบกหาม ยกของหนัก เหมือนคนต่างจังหวัด อีกอย่างพอร่างกายมีอาการผิดปกติมักจะรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งต่างจากชาวบ้านที่อยู่ชนบท พื้นที่ห่างไกล ส่วนใหญ่อาชีพทำไร่ ทำนา รับจ้าง ต้องแบกหาบของหนัก ๆ เมื่อมีอาการปวดขา ปวดเข่า มักจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติ จึงไม่ได้ไปพบแพทย์ จนกระทั่งอาการลุกลามมากขึ้น บางคนเดินขาโก่ง บางคนข้อเข่าเสื่อม ลุกเดินไม่ถนัด แต่ไม่กล้ามาหาหมอเพราะกลัวไม่มีเงินจ่ายค่ารักษา
นพ.ลักษณ์ กล่าวว่า ต้องอธิบายให้ญาติ คนป่วย รู้ว่า 3 บัตร ได้แก่ บัตรสวัสดิการข้าราชการ บัตรประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง ทั้ง 3 บัตรนั้น ครอบคลุมการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการรักษาแพทย์จะต้องตรวจวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยว่าผู้ป่วยมีอาการระดับไหน บางรายอาจจะแค่รักษาโดยการทานยา ปรับขาโก่งให้ตรงขึ้น หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
“ชาวบ้านจำนวนมากยังไม่ค่อยรู้ว่า การรักษาข้อเข่าเสื่อมใช้ได้ทุกสิทธิ แต่ต้องยอมรับว่าสิทธิสวัสดิการข้าราชการ มีโอกาสเลือกวิธีการรักษา เลือกยา ได้มากกว่าบัตรอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การรักษาข้อเข่าเสื่อมของผู้ถือบัตรทอง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้กำหนดสเปกการรักษาตามมาตรฐาน ทั้งเรื่องยา การผ่าตัด ตลอดจนการฟื้นฟูผู้ป่วยหลังผ่าตัด พูดง่าย ๆ ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาจนสามารถพลิกชีวิตผู้ป่วยที่เดินติดขัด โขยงเขยง ให้กลับมาเดินตรงได้”
นพ.ลักษณ์ กล่าวต่อว่า ในอนาคตบ้านเราจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ จะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การรักษาพยาบาลเกี่ยวกับเรื่องกระดูก ข้อเสื่อม วงการแพทย์ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี มีเทคนิคการผ่าตัด อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ป่วยผ่าตัดแผลเล็กลง จำนวนวันในการนอนพักในโรงพยาบาลลดลง ซึ่งเป็นการลดครอสค่าใช้จ่าย ที่สำคัญ ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น ลดภาระการดูแลของญาติอีกด้วย
ในเมื่อวงการแพทย์ได้พัฒนาเทคโนโลยีการรักษาอย่างไม่หยุดยั้ง จะเห็นได้ว่ามีแนวทางการรักษารูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นยา วัสดุที่ใช้ในการรักษา อย่างไรก็ตาม การรักษาผู้ป่วยแต่ละรายแพทย์จะวินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะกับผู้ป่วยและสิทธิของผู้ป่วย อย่างแพทย์พบว่าผู้ป่วยรายหนึ่งแพ้โลหะ ก็จะใช้อย่างอื่นทดแทน บางรายแพ้ยาตัวนี้จะจ่ายยาตัวอื่นแทน
…เมื่อวงการแพทย์พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้รักษาผู้ป่วย ฉะนั้น การรักษาควรเปิดให้แพทย์เลือกสิ่งใหม่ ๆ ในการรักษาผู้ป่วย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
