โดย...สิรวุฒิ รวีไชยวัฒน์
“หมามุ่ย” พืชล้มลุกเลื้อย มีดอกสีม่วง ผลมีลักษณะเป็นฝักโค้งมีขนแข็งสีน้ำตาลทั่วทั้งฝัก หลายคนทราบดีว่า หมามุ่ย ขึ้นชื่อในเรื่องมีพิษทำให้คนที่ไปสัมผัสขนของฝักรู้สึกคัน ปวดแสบปวดร้อน แต่เมล็ดหมามุ่ยที่อยู่ภายในฝัก กลับมีสรรพคุณทางการแพทย์ที่เรียกได้ว่า สุดยอด ตัวหนึ่งของสมุนไพรไทย
ที่ผ่านมา “เมล็ดหมามุ่ย” ได้รับการโปรโมตสรรพคุณว่า สามารถช่วยเพิ่มจำนวนสเปิร์ม และปริมาณน้ำเชื้อให้กับผู้ชาย มีฤทธิ์บำรุงสมรรถภาพทางเพศ จึงช่วยแก้ปัญหาภาวะการมีบุตรยาก โดย ภก.ณัฐดนัย มุสิกวงศ์ เภสัชกรปฏิบัติการ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ผลการทดลองในสัตว์นั้น เมล็ดหมามุ่ย ช่วยให้มีสมรรถภาพทางเพศดีขึ้น เพิ่มความถี่ในการผสมพันธุ์ได้ ซึ่งขณะนี้ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ก็มีการทำเป็นยาบำรุงกำลังท่านชายชื่อ “ยาแฮงคนชาย” ซึ่งมีเมล็ดหมามุ่ยเป็นส่วนผสมหลัก โดยนำมาคั่วให้สุก เพราะหากไม่สุกจะเกิดสารพิษขึ้นได้ จากนั้นนำมาตำให้ละเอียด แล้วผสมกับ “ตำยาน” ที่นำมาตำให้ละเอียดเช่นกัน จากนั้นใช้ชงดื่ม จะช่วยเพิ่มสมรรถภาพของท่านชาย บำรุงกำลัง ทำให้ร่างกายสดชื่น และกระปรี้กระเปร่า ซึ่งปริมาณในการชงดื่มไม่ควรเกิน 5 กรัมต่อวัน เพราะมีฤทธิ์ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ดังนั้น ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจึงต้องระมัดระวังในการรับประทาน
ส่วนอีกสรรพคุณหนึ่งที่โดดเด่นไม่ต่างกัน ก็คือ อาจนำมาใช้ในการรักษาโรคพาร์กินสันได้
ทั้งนี้ โรคพาร์กินสัน เกิดจากความเสื่อมของสมองส่วนที่ควบคุมการหลั่งของสารสื่อประสาทโดปามีน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหว โดยพบว่าสารพิษ อนุมูลอิสระ มีส่วนในการทำลายเซลล์สมองที่ควบคุมการหลั่งของโดปามีน ผู้ป่วยจึงมักมีอาการมือสั่น และมักเป็นข้างเดียว เดินช้าลง แขนไม่แกว่ง ทรงตัวไม่สม่ำเสมอ เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก ในรายผู้สูงอายุอาจทำให้เกิดการหกล้มและนำไปสู่ภาวะกระดูกหักได้ การรักษาแพทย์นิยมใช้ยา “ลีโวโดปา (Levodopa)” เพื่อทดแทนโดปามีนที่ขาดหายไปจากเซลล์สมองที่เสื่อมลง
ภก.ณัฐดนัย กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่า เมล็ดหมามุ่ย มีสารแอล-โดปา (L-Dopa) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของสารโดปามีน จึงถือว่าเป็นความหวังในการนำมารักษาโรคพาร์กินสันได้ ซึ่งปัจจุบันประเทศอินเดียกำลังมีการศึกษาการนำเมล็ดหมามุ่ยมาใช้รักษาโรคพาร์กินสัน โดยอยู่ในขั้นตอนการทดลองในสัตว์ทดลอง ซึ่งพบว่าได้ผลดี ช่วยให้สารสื่อประสาทดีขึ้น ไม่มีผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาว มีศักยภาพในการนำมาทดสอบต่อในมนุษย์
“สำหรับประเทศไทยขณะนี้ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กำลังร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำสูตรตำรับในการทดสอบสรรพคุณในการรักษาโรคพาร์กินสัน ซึ่งขณะนี้กำลังเริ่มกระบวนการในการทดลองในสัตว์ทดลอง อยู่ในขั้นของการเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าไม่เกิน 1 ปี จะได้ทราบผลการทดลองในสัตว์ทดลองว่าเป็นอย่างไร”
ภก.ณัฐดนัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังนำเมล็ดหมามุ่ยมาทำในรูปแบบของขนมกินเล่น โดยนำมาแช่น้ำ แล้วต้มให้สุก จากนั้นจึงเคลือบคาราเมลเพื่อให้สามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเมล็ดหมามุ่ยมีลักษณะคล้ายถั่ว เพราะเป็นแป้ง แต่มีความแข็งกว่ามากทำให้รับประทานได้ยาก จึงต้องใช้วิธีดังกล่าวจึงช่วยให้รับประทานได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากนำมารับประทานเป็นลักษณะของอาหาร จึงไม่ได้มีข้อห้ามในการรับประทาน แต่อย่างที่ทราบว่าหากรับประทานมากเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ดังนั้น หากมีอาการมึน ปวดหัว ก็ไม่ควรรับประทานต่อ
ทั้งนี้ หมามุ่ย จะเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เตรียมนำมาโปรโมตสรรพคุณ พร้อมให้ข้อมูลความรู้ในการนำมาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนภายในงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 12” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เม.ย. 2558 ภายใต้แนวคิด “การแพทย์แผนไทย...ความมั่นคงในระบบสุขภาพ” จัดขึ้นวันที่ 2 - 6 ก.ย. นี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานจะมีการนำเสนอสมุนไพรที่ใช้ในการดูแลสุขภาพอีกเป็นจำนวนมาก
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่