สพฉ. เผย “โรคหัวใจ - หลอดเลือดสมอง” คร่าชีวิตหญิงไทยอันดับต้น ๆ เตือน “เบาหวาน - ความดันสูง” ต้นตอของการเกิดโรค แนะรักษาสุขภาพ ออกกำลังกาย ตรวจสุขภาพปีละครั้ง
นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ปัจจุบันโรคที่คร่าชีวิตผู้หญิงเป็นอันดับต้น ๆ คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง โดยโรคหัวใจและหลอดเลือด ถือเป็นโรคฉุกเฉินที่อันตรายมาก เนื่องจากไม่ค่อยมีอาการเบื้องต้น และจะเกิดโรคในแบบปัจจุบันทันด่วน คือ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เจ็บลิ้นปี่ ร้าวไปกรามทั้งสองข้าง ลงไปที่แขนหรือมือ ซึ่งสาเหตุสำคัญก็คือ คอเลสเตอรอลสูง เป็นเบาหวานเรื้อรัง อ้วน มีความเครียด ไม่ออกกำลังกาย ส่วนโรคหลอดเลือดสมอง (STROKE) เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของผู้หญิง และมีอัตราการเกิดโรคนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ที่สำคัญอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าเพศชาย โดยเป็นภาวะที่สมองขาดเลือด เนื่องจากหลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย การทำงานของสมองหยุดชะงัก ผู้ป่วยจะมีอาการแขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน มึนงง วิงเวียน ทรงตัวไม่ได้ ใบหน้าและปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ มักจะเกิดทุกอาการพร้อมกันอย่างฉับพลัน
“ผู้พบเห็นต้องรีบขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ โทร. สายด่วน 1669 เพื่อนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างทันที โดยจะต้องรีบส่งเข้ารักษาภายในเวลา 3 ชั่วโมง จะทำให้ผู้ป่วยจะลดอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิต หรือพิการ อย่างไรก็ตาม นอกจากโรคฉุกเฉิน 2 โรคแล้ว ยังมีโรคที่ถือเป็นต้นตอและเป็นปัจจัยเสี่ยง คือ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง โดยโรคเบาหวานจะทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติได้ โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ หากป่วยเป็นเบาหวาน จะยิ่งเพิ่มความอันตราย และอาจรุนแรงจนทำให้ตาบอด ไตวาย เป็นโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ทั้งโรคหัวใจ และหลอดเลือดในสมอง” รองเลขาธิการ สพฉ. กล่าว
นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติ คือ 70 - 110 และควรรับประทานอาหารให้พอดี เว้นระยะห่างของอาหารแต่ละมื้อให้นาน งดอาหารและผลไม้รสหวาน แป้งและไขมัน คุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ออกกำลังกายสม่ำเสมออสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 15 - 30 นาทีต่อวัน ขณะที่ความดันโลหิตสูง จะยิ่งอันตรายมากเช่นกันในผู้หญิงตั้งครรภ์ เพราะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะใน 3 เดือนก่อนคลอด หากไม่รักษาจะเป็นอันตรายทั้งแม่และลูก หรืออาจทำให้ครรภ์เป็นพิษได้ ทั้งนี้ แนวทางป้องกันที่ดีอย่างหนึ่ง คือหมั่นตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้ง แต่สำหรับคนที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคร้าย เช่น มะเร็ง หัวใจ เบาหวาน ซึ่งมีความเสี่ยงในการสืบทอดทางกรรมพันธุ์ อาจต้องตรวจตั้งแต่อายุน้อย และสำหรับผู้หญิง หากมีอายุตั้งแต่เลข 3 ขึ้นไป การตรวจสุขภาพถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ปัจจุบันโรคที่คร่าชีวิตผู้หญิงเป็นอันดับต้น ๆ คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง โดยโรคหัวใจและหลอดเลือด ถือเป็นโรคฉุกเฉินที่อันตรายมาก เนื่องจากไม่ค่อยมีอาการเบื้องต้น และจะเกิดโรคในแบบปัจจุบันทันด่วน คือ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เจ็บลิ้นปี่ ร้าวไปกรามทั้งสองข้าง ลงไปที่แขนหรือมือ ซึ่งสาเหตุสำคัญก็คือ คอเลสเตอรอลสูง เป็นเบาหวานเรื้อรัง อ้วน มีความเครียด ไม่ออกกำลังกาย ส่วนโรคหลอดเลือดสมอง (STROKE) เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของผู้หญิง และมีอัตราการเกิดโรคนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ที่สำคัญอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าเพศชาย โดยเป็นภาวะที่สมองขาดเลือด เนื่องจากหลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย การทำงานของสมองหยุดชะงัก ผู้ป่วยจะมีอาการแขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน มึนงง วิงเวียน ทรงตัวไม่ได้ ใบหน้าและปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดไม่ได้ มักจะเกิดทุกอาการพร้อมกันอย่างฉับพลัน
“ผู้พบเห็นต้องรีบขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ โทร. สายด่วน 1669 เพื่อนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอย่างทันที โดยจะต้องรีบส่งเข้ารักษาภายในเวลา 3 ชั่วโมง จะทำให้ผู้ป่วยจะลดอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิต หรือพิการ อย่างไรก็ตาม นอกจากโรคฉุกเฉิน 2 โรคแล้ว ยังมีโรคที่ถือเป็นต้นตอและเป็นปัจจัยเสี่ยง คือ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง โดยโรคเบาหวานจะทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติได้ โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ หากป่วยเป็นเบาหวาน จะยิ่งเพิ่มความอันตราย และอาจรุนแรงจนทำให้ตาบอด ไตวาย เป็นโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ทั้งโรคหัวใจ และหลอดเลือดในสมอง” รองเลขาธิการ สพฉ. กล่าว
นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติ คือ 70 - 110 และควรรับประทานอาหารให้พอดี เว้นระยะห่างของอาหารแต่ละมื้อให้นาน งดอาหารและผลไม้รสหวาน แป้งและไขมัน คุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ออกกำลังกายสม่ำเสมออสัปดาห์ละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 15 - 30 นาทีต่อวัน ขณะที่ความดันโลหิตสูง จะยิ่งอันตรายมากเช่นกันในผู้หญิงตั้งครรภ์ เพราะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะใน 3 เดือนก่อนคลอด หากไม่รักษาจะเป็นอันตรายทั้งแม่และลูก หรืออาจทำให้ครรภ์เป็นพิษได้ ทั้งนี้ แนวทางป้องกันที่ดีอย่างหนึ่ง คือหมั่นตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้ง แต่สำหรับคนที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคร้าย เช่น มะเร็ง หัวใจ เบาหวาน ซึ่งมีความเสี่ยงในการสืบทอดทางกรรมพันธุ์ อาจต้องตรวจตั้งแต่อายุน้อย และสำหรับผู้หญิง หากมีอายุตั้งแต่เลข 3 ขึ้นไป การตรวจสุขภาพถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่