สสส. โต้อัดฉีดงบกลุ่มคนหน้าเดิมไม่ใช่เพราะเสน่หา แต่เพราะทำงานตอบโจทย์ สสส. ไม่ค้านตั้งระเบียบจัดซื้อจัดจ้างกลางสำหรับองค์กรอิสระ แต่ต้องผ่านกระบวนการหารือร่วมกัน
วันนี้ (17 ส.ค.) นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงกรณีข้อท้วงติงการใช้งบประมาณของ สสส. สนับสนุนหน่วยงานที่ไม่ตอบโจทย์ภารกิจของ สสส. และเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ว่า การทำงานของ สสส. แบ่งออกเป็นหลายชั้น โดยชั้นแรกเป็นความเชื่อมโยงกับระบบสาธารณสุขที่ให้การบำบัดผู้ติดบุหรี่ ติดเหล้าโดยตรง อีกชั้นเป็นการทำงานเพื่อส่งเสริมป้องกันก่อนเกิดโรค เช่น สนับสนุนให้มีการสร้างลานกิจกรรมเพื่อให้คนออกกำลังกาย การอบรมให้ความรู้กับคนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เข้าใจเรื่องการส่งเสริมป้องกันโรคในอนาคต เพราะหากคนไม่เข้าใจแล้วการส่งเสริมป้องกันโรคก็จะทำได้ยาก ซึ่งหากคนที่ไม่เข้าใจก็จะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจของหน่วยงาน
นพ.บัณฑิต กล่าวว่า ส่วนเรื่องของการให้งบประมาณหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ เพราะมีการให้งบแก่หน่วยงานเดิม ๆ คนกลุ่มเดิม ๆ ข้อเท็จจริงคือ สสส. มีการกระจายงบประมาณในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปจำนวนมาก แต่กรณีที่ให้กับหน่วยงานเดิม หรือคนหน้าเดิมยืนยันว่า ไม่ได้ให้เพราะความเสน่หา แต่ให้เพราะมีความสามารถทำงานตอบโจทย์ สสส. ได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีข้อเสนอให้มีการตั้งระเบียบจัดซื้อจัดจ้างกลางสำหรับองค์กรอิสระทุกหน่วยงานในประเทศไทย ตนไม่ได้ขัดข้อง แต่ต้องผ่านกระบวนการหารือร่วมกันอย่ามีธงอันใดอันหนึ่ง ที่สำคัญต้องไม่เป็นการเพิ่มอุปสรรคในการทำงาน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (17 ส.ค.) นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงกรณีข้อท้วงติงการใช้งบประมาณของ สสส. สนับสนุนหน่วยงานที่ไม่ตอบโจทย์ภารกิจของ สสส. และเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ว่า การทำงานของ สสส. แบ่งออกเป็นหลายชั้น โดยชั้นแรกเป็นความเชื่อมโยงกับระบบสาธารณสุขที่ให้การบำบัดผู้ติดบุหรี่ ติดเหล้าโดยตรง อีกชั้นเป็นการทำงานเพื่อส่งเสริมป้องกันก่อนเกิดโรค เช่น สนับสนุนให้มีการสร้างลานกิจกรรมเพื่อให้คนออกกำลังกาย การอบรมให้ความรู้กับคนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เข้าใจเรื่องการส่งเสริมป้องกันโรคในอนาคต เพราะหากคนไม่เข้าใจแล้วการส่งเสริมป้องกันโรคก็จะทำได้ยาก ซึ่งหากคนที่ไม่เข้าใจก็จะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจของหน่วยงาน
นพ.บัณฑิต กล่าวว่า ส่วนเรื่องของการให้งบประมาณหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ เพราะมีการให้งบแก่หน่วยงานเดิม ๆ คนกลุ่มเดิม ๆ ข้อเท็จจริงคือ สสส. มีการกระจายงบประมาณในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปจำนวนมาก แต่กรณีที่ให้กับหน่วยงานเดิม หรือคนหน้าเดิมยืนยันว่า ไม่ได้ให้เพราะความเสน่หา แต่ให้เพราะมีความสามารถทำงานตอบโจทย์ สสส. ได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีข้อเสนอให้มีการตั้งระเบียบจัดซื้อจัดจ้างกลางสำหรับองค์กรอิสระทุกหน่วยงานในประเทศไทย ตนไม่ได้ขัดข้อง แต่ต้องผ่านกระบวนการหารือร่วมกันอย่ามีธงอันใดอันหนึ่ง ที่สำคัญต้องไม่เป็นการเพิ่มอุปสรรคในการทำงาน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่