วธ. จับมือ 28 มหาวิทยาลัย ขับเคลื่อนงานด้านศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อให้เด็ก เยาวชน เข้าถึงมากขึ้น
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ วธ. กับมหาวิทยาลัยกว่า 28 แห่งทั่วประเทศ จัดสัมมนาเพื่อร่วมกำหนดแนวทางในการดำเนินงานด้านศิลปะและวัฒนธรรมร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความร่วมมือระหว่างองค์กรอย่างยั่งยืน สรุปได้ว่า วธ. และมหาวิทยาลัยได้กำหนดแนวทางดำเนินงานความร่วมมือร่วมกัน ดังนี้ 1. จัดการศึกษาเกี่ยวกับศาสนา ศิลปวัฒนธรรม โดยมีหลักสูตรที่เชื่อมโยงกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น 2. ร่วมมือทางวิชาการ เช่น จัดประชุม สัมมนา อบรม วิจัย เป็นต้น 3. บริการองค์ความรู้ งานวิจัย และพัฒนาการเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น 4. สร้างและพัฒนาเครือข่ายทั้งบุคลากรและฐานข้อมูล เพื่อบูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน 5. สนับสนุนการจัดกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น มหกรรมวัฒนธรรมพื้นบ้าน เทศกาลประเพณี เป็นต้น 6. พัฒนาและต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในรูปแบบ สินค้า บริการ และการท่องเที่ยว 7. การพัฒนาสถาปัตยกรรมเมือง ให้เป็นเมืองไทยไทยน่าอยู่น่าเที่ยว และเสริมสร้างความร่วมมือและกลไกการทำงานร่วมระหว่างสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) และมหาวิทยาลัยในพื้นที่
นายวีระ กล่าวว่า ในส่วนของมหาวิทยาลัยเสนอให้มีโครงการนำร่องในการขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนงานศิลปวัฒนธรรม และการทำนุบำรุงศาสนาในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้แก่ 1. การจัดทำปฏิทินกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมของทุกมหาวิทยาลัย 2. มหกรรมศิลปวัฒนธรรมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย 3. การรวบรวมและจัดทำฐานข้อมูล สื่อ และผลงานวิจัย ด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อเผยแพร่และนำไปใช้ประโยชน์ 4. การประกวดผลงานด้านศิลปวัฒนธรรมของนักศึกษา เช่น ประกวดวาดภาพ ประติมากรรม แอนิเมชัน เป็นต้น 5. จัดมหกรรมวัฒนธรรมระดับชาติและภูมิภาค 6. จัดประชุมสัมมนาด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรมระดับอาเซียน 7. จัดกิจกรรมเผยแพร่ แลกเปลี่ยนศาสนาและศิลปวัฒนธรรม ด้านองค์ความรู้ วิจัยและพัฒนา และการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์บนฐานวัฒนธรรม 8. ส่งเสริมความเป็นไทยในสถานศึกษา เรื่องการแต่งกาย มารยาท ภาษาไทย และภาษาถิ่น และ 9. พัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางศาสนาและศิลปวัฒนธรรม เช่น ศูนย์ชาติพันธุ์อาเซียน ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น
จากนี้ วธ. จะสรุปข้อเสนอต่าง ๆ เพื่อจัดทำเป็นแผนงานดำเนินการขับเคลื่อนงานศิลปวัฒนธรรม ทำนุบำรุงศาสนา ให้เข้าถึงเด็ก เยาวชน และประชาชนต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
